โจรใต้กดระเบิด 20 กิโลกรัมดักสังหาร ตชด.4203 กองกำกับการ 42 นครศรีธรรมราชกลางสี่แยกไฟแดงสายบายพาสปัตตานี-นราธิวาส ขณะเดินทางเพื่อไปสับเปลี่ยนกำลังบาดเจ็บ 4 นาย ด้าน ตร.ระแงะรวบ 2 มือวางระเบิดพื้นที่ตันหยงมัส สารภาพร่วมวางแผนก่อเหตุจริง พร้อมสอบขยายผลหาแนวร่วมมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้ (22 ก.ค.) พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณเกาะกลางถนน สี่แยกบายพาสหน้าโชว์รูมฟอร์ด ถนนสาย 42 ปัตตานี-สงขลา ม.4 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกำลังตำรวจ ทหาร พบรถกระบะแบบหุ้มเกราะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ สีบรอนซ์ รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียนตราโล่ ถูกแรงระเบิดพังทั้งคันอยู่กลางสี่แยก
นอกจากนี้ มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย เป็นชุดปฏิบัติการพลายทอง ชุด 4203 (มว ฉก ตชด.ที่ 42 อ ทุ่งส่ง จ นครศรีธรรมราช) ถูกส่งโรงพยาบาลปัตตานี คือ 1.ส.ต.อ.ภาคภูมิ จันทร์เมทา เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ศีรษะและลำตัวหลายแห่ง แพทย์ต้องรีบนำเข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน 2.ด.ต.นันทศักดิ์ เพชรเกษม ถูกสะเก็ดเข้าที่ลำตัวและศีรษะ ทั้ง 2 นายอาการสาหัส ส่วน 3.ร.ต.ต.สมจิตต์ รันต์พันธ์ และ 4.ส.ต.อ.สิทธิพร โสภาวังค์ มีบาดแผลที่แขน มีอาการหูอื้อ ซึ่งทั้ง 2 นายบาดเจ็บเล็กน้อย โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี แต่เนื่องจากในจำนวนผู้บาดเจ็บที่อาการสาหัส 2 รายมีอาการที่น่าเป็นห่วง จึงได้ส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่)
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุห่างจากรถคันเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร บริเวณเกาะกลางถนนมีหลุมระเบิดกว้าง 1 เมตร แรงระเบิดทำให้เหล็กกั้นเกาะกลางหักงอ และมีชิ้นส่วนถังแก๊ส และชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ออกจากฐานปฏิบัติการณ์ที่บริเวณโรงฆ่าสัตว์ ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี เพื่อไปเปลี่ยนกำลังที่ตั้งด่านอยู่บริเวณจุดตรงเข้าเมืองปัตตานีคอนกรีต ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยมี ด.ต.นันทศักดิ์ เป็นคนขับ เมื่อมาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุเพื่อจะเลี้ยวเข้าตัวเมืองได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารที่ฝังไว้บริเวณเกาะกลางถนนที่เป็นจุดที่เลี้ยวพอดี กระทั่งเมื่อรถยนต์เจ้าหน้าที่มาถึงจึงได้จุดชนวนระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ ตชด.ซึ่งขับตามหลังมาประสบเหตุจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อป้องกันคนร้ายยิงซ้ำก่อนจะวิทยุแจ้งขอกำลังเสริม หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.โพธสวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกำชับให้สนธิกำลังร่วมเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร คาดคนร้ายน่าจะหลบอยู่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่หมายสังหารเพื่อสร้างสถานการณ์
**บึ้ม นย.นราฯ ขณะตระเวนไร้เจ็บ
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เวลา 09.00 น. คนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าทหารนาวิกโยธิน ชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัด ฉก.นราธิวาส 31 เหตุเกิดริมถนนสายตากใบ-นราธิวาส บ้านโคกมะเฟือง หมู่ 1 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่บริเวณเนินดินริมถนนมีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต พร้อมทั้งมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุในกล่องเหล็กหนัก 10 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธินจำนวน 6 นาย ขี่รถจักรยานยนต์รวม 3 คันเป็นพาหนะออกจากฐานเพื่อลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่แฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ข้างเนินดินริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้น
**รวบ2มือวางระเบิดพื้นที่ตันหยงมัส
ด้าน พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ พ.ต.ท.เด่นพงศ์ บุตรประเสริฐ รอง ผกก.งานสืบสวนคดีสำคัญ ศปก.ตร.สน พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.ป.ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 45 ใช้กฏอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นหมู่บ้านโต๊ะเปาะฆะ ม.10 ต.ตันหยงมัส หลังสืบทราบผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส 4 จุด เหตุเกิดช่วงเที่ยงวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งไม่มีเลขที่ และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 2 คนคือนายอับดุลรอฮิม มูแย อายุ 21 ปี พร้อมเสื้อยืดแขนยาวสีส้มขณะสวมใส่ก่อเหตุ และนายอับดุลเล๊าะ อาแวกือจิ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางเสื้อยืดแขนยาวสีดำ ที่มีสีแดงคาดจากข้อมือถึงหัวไหล่เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน
สอบสวนนายอับดุลรอฮิม และนายอับดุลเล๊าะ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมวางแผนและก่อเหตุจริง โดยภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพของบุคคลทั้ง 2 เอาไว้ได้ ขณะขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟสีน้ำเงิน หลังจากที่ร่วมกันลอบวางระเบิดแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส มาทำการตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ.และคราบลายนิ้วมือแฝง ก่อนที่จะมอบให้เจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 45 ใช้กฎอัยการศึกเพื่อทำการซักถามและขยายผลไปยังเครือข่ายกลุ่มคนร้ายที่เหลือ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป..
เมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้ (22 ก.ค.) พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณเกาะกลางถนน สี่แยกบายพาสหน้าโชว์รูมฟอร์ด ถนนสาย 42 ปัตตานี-สงขลา ม.4 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกำลังตำรวจ ทหาร พบรถกระบะแบบหุ้มเกราะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ สีบรอนซ์ รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียนตราโล่ ถูกแรงระเบิดพังทั้งคันอยู่กลางสี่แยก
นอกจากนี้ มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย เป็นชุดปฏิบัติการพลายทอง ชุด 4203 (มว ฉก ตชด.ที่ 42 อ ทุ่งส่ง จ นครศรีธรรมราช) ถูกส่งโรงพยาบาลปัตตานี คือ 1.ส.ต.อ.ภาคภูมิ จันทร์เมทา เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ศีรษะและลำตัวหลายแห่ง แพทย์ต้องรีบนำเข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน 2.ด.ต.นันทศักดิ์ เพชรเกษม ถูกสะเก็ดเข้าที่ลำตัวและศีรษะ ทั้ง 2 นายอาการสาหัส ส่วน 3.ร.ต.ต.สมจิตต์ รันต์พันธ์ และ 4.ส.ต.อ.สิทธิพร โสภาวังค์ มีบาดแผลที่แขน มีอาการหูอื้อ ซึ่งทั้ง 2 นายบาดเจ็บเล็กน้อย โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี แต่เนื่องจากในจำนวนผู้บาดเจ็บที่อาการสาหัส 2 รายมีอาการที่น่าเป็นห่วง จึงได้ส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่)
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุห่างจากรถคันเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร บริเวณเกาะกลางถนนมีหลุมระเบิดกว้าง 1 เมตร แรงระเบิดทำให้เหล็กกั้นเกาะกลางหักงอ และมีชิ้นส่วนถังแก๊ส และชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ออกจากฐานปฏิบัติการณ์ที่บริเวณโรงฆ่าสัตว์ ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี เพื่อไปเปลี่ยนกำลังที่ตั้งด่านอยู่บริเวณจุดตรงเข้าเมืองปัตตานีคอนกรีต ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยมี ด.ต.นันทศักดิ์ เป็นคนขับ เมื่อมาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุเพื่อจะเลี้ยวเข้าตัวเมืองได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารที่ฝังไว้บริเวณเกาะกลางถนนที่เป็นจุดที่เลี้ยวพอดี กระทั่งเมื่อรถยนต์เจ้าหน้าที่มาถึงจึงได้จุดชนวนระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ ตชด.ซึ่งขับตามหลังมาประสบเหตุจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อป้องกันคนร้ายยิงซ้ำก่อนจะวิทยุแจ้งขอกำลังเสริม หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.โพธสวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกำชับให้สนธิกำลังร่วมเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร คาดคนร้ายน่าจะหลบอยู่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่หมายสังหารเพื่อสร้างสถานการณ์
**บึ้ม นย.นราฯ ขณะตระเวนไร้เจ็บ
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เวลา 09.00 น. คนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าทหารนาวิกโยธิน ชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัด ฉก.นราธิวาส 31 เหตุเกิดริมถนนสายตากใบ-นราธิวาส บ้านโคกมะเฟือง หมู่ 1 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่บริเวณเนินดินริมถนนมีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต พร้อมทั้งมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุในกล่องเหล็กหนัก 10 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธินจำนวน 6 นาย ขี่รถจักรยานยนต์รวม 3 คันเป็นพาหนะออกจากฐานเพื่อลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่แฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ข้างเนินดินริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้น
**รวบ2มือวางระเบิดพื้นที่ตันหยงมัส
ด้าน พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ พ.ต.ท.เด่นพงศ์ บุตรประเสริฐ รอง ผกก.งานสืบสวนคดีสำคัญ ศปก.ตร.สน พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.ป.ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 45 ใช้กฏอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นหมู่บ้านโต๊ะเปาะฆะ ม.10 ต.ตันหยงมัส หลังสืบทราบผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส 4 จุด เหตุเกิดช่วงเที่ยงวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งไม่มีเลขที่ และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 2 คนคือนายอับดุลรอฮิม มูแย อายุ 21 ปี พร้อมเสื้อยืดแขนยาวสีส้มขณะสวมใส่ก่อเหตุ และนายอับดุลเล๊าะ อาแวกือจิ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางเสื้อยืดแขนยาวสีดำ ที่มีสีแดงคาดจากข้อมือถึงหัวไหล่เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน
สอบสวนนายอับดุลรอฮิม และนายอับดุลเล๊าะ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมวางแผนและก่อเหตุจริง โดยภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพของบุคคลทั้ง 2 เอาไว้ได้ ขณะขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟสีน้ำเงิน หลังจากที่ร่วมกันลอบวางระเบิดแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส มาทำการตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ.และคราบลายนิ้วมือแฝง ก่อนที่จะมอบให้เจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 45 ใช้กฎอัยการศึกเพื่อทำการซักถามและขยายผลไปยังเครือข่ายกลุ่มคนร้ายที่เหลือ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป..