xs
xsm
sm
md
lg

รวบมือยิงM79ใส่กปปส. แถลงวันนี้เร่งขยายผลเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - บช.น.เดินหน้าล่าตัวขบวนการยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มกปปส.หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เพิ่มอีก 7 ราย หลังศาลอนุมัติหมายจับ ยืนยันทุกคดีมีความเชื่อมโยงกับบุคคลทั้ง 7 ที่ก่อเหตุในหลายพื้นที่ ล่าสุด รวบมือยิงM79ได้แล้ว 3 คน เตรียมแถลงข่าววันนี้ (15ก.ค.) ด้านรรท.ผบ.ตร.ตรวจอาวุธปืนของ กลางกว่า 3.4 หมื่นกระบอก ก่อนนำไปหลอมทำลายวันนี้ ตามคำสั่งศาลระหว่างปี 2543-2556 ด้าน ตำรวจตรวจของกลางอาวุธสงครามกว่า 34,000 กระบอก ก่อนทำลายวันนี้

วานนี้(14ก.ค.) เมื่อเวลา13.00น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ศ. ช่วยราชการ บช.น. และ พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดM79 ยิงเข้าไปในกลุ่มกปปส. บริเวณห้างสรรสินค้าบิ๊กซราชดำริว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสืบสวนสน.ลุมพินี ได้ประชุมติดตามกรณียิงระเบิดM79 ไปยังเวทีปราศรับของกลุ่มกปปส. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ซึ่งทางศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ลงวันที่13ก.ค.57 ประกอบด้วย นายทวีชัย วิชาคำ อายุ 39 ปี นายสนทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี นายสุขสันต์ ล้อมวงศ์ อายุ 32 ปี นายสมศรี มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี นายชัชวาล ปราบบำรุง อายุ 45 ปี นางกรรณิการ์ วงศ์ตัว อายุ 38 ปี และ นายวิเชียร สุขภิรมณ์ อายุ 33 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตรตรองไว้ก่อน ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอัตรายแก่บุคคลอื่น โดยมีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ในครอบครอง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธนั้นไปยังหมู่บ้านหรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และการยิงซึ่งใช้ดินระเบิดก่อเหตุในเมือง หรือหมู่บ้าน หรือที่ชุมนุม และผ่าฝืนข้อกำหนดที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดออกนอกเคหะสถาน ตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรพ.ศ.2551

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 7 คนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการติดตามจับกุมตัว เพื่อมาสืบสวนขยายผล ทั้งนี้เมื่อวันที่11ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายณรงค์ พลายอร่าม หรือ ตุ้ย อายุ 31 ปี ผู้ต้องหายิงระเบิดM79ได้ จากการสืบสวนทราบว่ามีขบวนการในการก่อเหตุยิงระเบิดM79ในหลายพื้นที่ และในทุกคดีมีความเชื่อมโยงกับบุคคลทั้ง 7 คน ที่ออกหมายจับแน่นอน หากมีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงในหลายๆประเด็น ทางพนักสอบสวนจะดำเนินการทันที

อย่างไรก็ตามหากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 7 คนได้ จะทำการสืบสวนและขยายผลการจับกุม รวมทั้งการสอบสวนหรือสำนวนในการรับสารภาพของผู้ต้องหา มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นที่ไม่มีหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่จะหาข้อมูลและรวบรวมหลักฐาน เพื่อไปยื่นศาลออกหมายจับทันที

***รวบแล้วมือยิงM79ใส่กปปส.บิ๊กซี ราชดำริ

วานนี้ (14 ก.ค.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง กล่าวว่า ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวน สามารถติดตามจับกุมตัว ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุ ได้แล้ว 3 คน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าจับกุมได้ที่ใด และกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกลุ่มใด โดยเฉพาะการจับกุมอาวุธสงครามในช่วงที่ผ่านมา โดยในวันนี้(15 ก.ค.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสาราชกิจ รรท.ผบ.ตร. จะแถลงผลการจับกุม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 10.00 น. โดยภายหลังการแถลงข่าว แล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุด เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุยิงเอ็ม 79 ในจุดที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี โดยยิงจากกลางสะพานข้ามแยกประตูน้ำ ก่อนหลบหนีไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เพื่อขยายผลหาความเชื่อมโยงกับคดียิงเอ็ม 79 ในจุดอื่นๆ ด้วย

***หลอมทำลายอาวุธเกือบ 4 หมื่นกระบอก

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า อาวุธปืนดังกล่าวเป็นของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้วซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ยึดและนำไปทำลาย ตั้งแต่ปี 2543-2556 โดยจำแนกเป็นอาวุธปืนสั้น 21,950 กระบอกและอาวุธปืนยาว 12,400 กระบอก ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีระเบียบที่จะต้องนำอาวุธปืนดังกล่าวไปทำลาย เนื่องจากไม่เป็นประโยชน์หากเก็บไว้ ทั้งนี้ตามระเบียบแล้วหากอาวุธปืนของกลางที่ใช้งานได้ทางเจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เพื่อนำไปใช้งานคิดเป็นเพียงร้อยละ 5 ของอาวุธที่ยึดได้ทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก อย่างไรก็ตาม อาวุธปืนของกลางในครั้งนี้ไม่มีอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ในช่วงการชุมนุม เนื่องจากเป็นอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ตั้งแต่กลางปี 2546-2547 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบว่ามีการใช้ในการกระทำความผิดหรือไม่ และการทำลายในครั้งนี้มุ่งเน้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้

พล.ต.ท.ชัยยะกล่าวว่า การทำลายอาวุธปืนครั้งนี้เป็นของกลางที่ไม่ได้มีการทำลายมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว ซึ่งกระบวนการในการคัดแยกนั้นจะมีด้วยกัน 4 ขั้นตอน คือ 1. อาวุธปืนที่สามารถเก็บไว้ใช้ในราชการได้ 2. อาวุธปืนที่เก็บไว้ใช้เพื่อการศึกษา 3. คืออุปกรณ์อะไหล่ที่สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานราชการได้ และ 4. อาวุธปืนในการทำลาย ซึ่งจะมีการคัดแยกโลหะออกจากตัวพันท้ายหรือด้ามปืนที่เป็นไม้ออกจากกันก่อนนำไปหลอมทำลาย โดยหลังจากการตรวจนับบรรจุลงกล่องแล้วจะมีการหีบห่อประทับตราครั่งเพื่อป้องกันการถูกเปิด
กำลังโหลดความคิดเห็น