เมื่อเวลา 09.58 น.วานนี้ (14ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีบวงสรวง สักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับข้าราชการสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ข้าราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และข้าราชการกรุงเทพมหานคร โดยก่อนเริ่มพิธีบวงสรวงพระพรหม ที่ประดิษฐานบนดาดฟ้าตึกไทยคู่ฟ้า ม.ล.ปนัดดาได้สักการะศาลพระภูมิ ศาลตายาย ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าตึกบัญชาการ พร้อมถวายพวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องสังเวย ขนมมงคล 9 อย่าง จากนั้น เวลา 11.45 น. ม.ล.ปนัดดา เป็นประธานพิธีบวงสรวงพระพรหม ที่จัดทำพิธีที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า มีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ประกอบพิธี โดยจัดขนมหวาน ผลไม้ 9 อย่าง แอปเปิ้ล,แคนตาลูป, มะม่วง, ขนุน, สับปะรด, มะพร้าวน้ำหอม, กล้วย,องุ่น, และส้ม ถั่ว งา ข้าวตอก ดอกไม้ และน้ำเบญจอำมฤต ที่มีส่วนประกอบของ นมเปรี้ยว นมจืด โยเกิร์ต น้ำผึ้ง เนย ประกอบในพิธี
ทั้งนี้ ทันทีที่เริ่มพิธีได้เกิดปรากฎการณ์ พระอาทิตย์ทรงกลดขึ้น ประมาณ 15 นาที สร้างความฮือฮาให้กับผู้ร่วมพิธี โดยหลังพิธี พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ กล่าวว่า ถือเป็นประเพณีของผู้ที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ทำงานในทำเนียบฯ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องบวงสรวงพระพรหม เพื่อความเป็นมงคลในการเริ่มต้นการทำงาน เกิดกำลังใจที่ดี ส่วนที่ถือฤกษ์เวลา 11.45 น.ประกอบพิธี เพราะจากปฏิทินสุริยยาตร์ ถือเป็นเวลามหาฤกษ์ เห็นได้ว่า ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ซึ่งถือเป็นวันดี ลางดี เป็นสิริมงคล ไม่ได้เป็นการแก้คุณไสย จากการชุมนุมทางการเมือง อย่างที่เป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำพิธีบวงสรวง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ฝ่ายกิจการพิเศษ ไม่ได้มาร่วมพิธี แต่อย่างใด
**สื่อค้านปรับรังนกกระจอกทำสวนหย่อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการปรับปรุงซ่อมแซมทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมการทำงานรัฐบาลชุดใหม่ครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าจะย้ายศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสรไปที่ตึกบัญชาการ 2 โดยใช้ตึกนารีสโมสรเพื่อใช้เป็นห้องรับรองสำหรับผู้ที่เดินทางมาประชุม ติดต่อราชการ รองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีแผนปรับห้องผู้สื่อข่าว 1 (รังนกกระจอกเก่า ) ซึ่งติดกับตึกนารีสโมสร ใช้พื้นที่ทำสวนหย่อม โดยย้ายสื่อมวลชนทั้งหมดไปรวมกันอยู่ที่ห้องผู้สื่อข่าว 2 ข้างประตู 2 ริมคลองเปรมประชากร เพื่อป้องกันข่าวรั่วไหล โดยเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล อ้างว่าเป็นคำสั่งคสช. และการปรับปรุงห้องผู้สื่อข่าว 1 ได้มีการหารือกับทางกรมศิลปากรเรียบร้อยแล้ว ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากผู้สื่อข่าวในทำเนียบฯ เนื่องจากรังนกกระจอก 1 เป็นห้องทำงานของสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของทำเนียบฯ ตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 35 ปีที่แล้ว
นางยุวดี ธัญศิริ (เจ๊ยุ) ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ยังไม่ทราบความชัดเจน ต้องเข้าใจก่อนว่า ทุกวันนี้จำนวนนักข่าวที่มาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล มีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีนักข่าวเป็นร้อยคน เป็นห่วงว่าจะไปอยู่ตรงไหนกัน ความจริงการเรื้อรังนกกระจอก 1 เคยมีแนวคิดในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ก็ยุติไป เพราะมีกระแสต้าน โดยให้เหตุผลว่า นักการเมืองมาแล้วก็ไป แต่รังนกกระจอก เป็นส่วนหนึ่งประวัติศาสตร์ทำเนียบฯ โดยส่วนตัวแล้ว การปรับอะไรให้ดีขึ้น และเหมาะสมก็เห็นด้วย แต่ถ้าปรับแล้วไม่ดี ก็ไม่เห็นด้วย ส่วนกระแสข่าวใช้งบฯ 300 ล้านบาท ปรับปรุงทำเนียบฯ ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ตั้งคำถามว่า รัฐบาลที่ มาจาก คสช. จะเข้ามาจะอยู่ทำเนียบฯ นานเท่าไร ทำไมต้องใช้งบฯ มากถึง 300 ล้านบาท และจะคอยติดตามการทำงาน และดูว่าจะมีการทุจริตกันหรือไม่
ทั้งนี้ ทันทีที่เริ่มพิธีได้เกิดปรากฎการณ์ พระอาทิตย์ทรงกลดขึ้น ประมาณ 15 นาที สร้างความฮือฮาให้กับผู้ร่วมพิธี โดยหลังพิธี พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ กล่าวว่า ถือเป็นประเพณีของผู้ที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ทำงานในทำเนียบฯ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องบวงสรวงพระพรหม เพื่อความเป็นมงคลในการเริ่มต้นการทำงาน เกิดกำลังใจที่ดี ส่วนที่ถือฤกษ์เวลา 11.45 น.ประกอบพิธี เพราะจากปฏิทินสุริยยาตร์ ถือเป็นเวลามหาฤกษ์ เห็นได้ว่า ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ซึ่งถือเป็นวันดี ลางดี เป็นสิริมงคล ไม่ได้เป็นการแก้คุณไสย จากการชุมนุมทางการเมือง อย่างที่เป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำพิธีบวงสรวง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ฝ่ายกิจการพิเศษ ไม่ได้มาร่วมพิธี แต่อย่างใด
**สื่อค้านปรับรังนกกระจอกทำสวนหย่อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการปรับปรุงซ่อมแซมทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมการทำงานรัฐบาลชุดใหม่ครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าจะย้ายศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสรไปที่ตึกบัญชาการ 2 โดยใช้ตึกนารีสโมสรเพื่อใช้เป็นห้องรับรองสำหรับผู้ที่เดินทางมาประชุม ติดต่อราชการ รองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีแผนปรับห้องผู้สื่อข่าว 1 (รังนกกระจอกเก่า ) ซึ่งติดกับตึกนารีสโมสร ใช้พื้นที่ทำสวนหย่อม โดยย้ายสื่อมวลชนทั้งหมดไปรวมกันอยู่ที่ห้องผู้สื่อข่าว 2 ข้างประตู 2 ริมคลองเปรมประชากร เพื่อป้องกันข่าวรั่วไหล โดยเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล อ้างว่าเป็นคำสั่งคสช. และการปรับปรุงห้องผู้สื่อข่าว 1 ได้มีการหารือกับทางกรมศิลปากรเรียบร้อยแล้ว ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากผู้สื่อข่าวในทำเนียบฯ เนื่องจากรังนกกระจอก 1 เป็นห้องทำงานของสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของทำเนียบฯ ตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 35 ปีที่แล้ว
นางยุวดี ธัญศิริ (เจ๊ยุ) ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ยังไม่ทราบความชัดเจน ต้องเข้าใจก่อนว่า ทุกวันนี้จำนวนนักข่าวที่มาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล มีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีนักข่าวเป็นร้อยคน เป็นห่วงว่าจะไปอยู่ตรงไหนกัน ความจริงการเรื้อรังนกกระจอก 1 เคยมีแนวคิดในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ก็ยุติไป เพราะมีกระแสต้าน โดยให้เหตุผลว่า นักการเมืองมาแล้วก็ไป แต่รังนกกระจอก เป็นส่วนหนึ่งประวัติศาสตร์ทำเนียบฯ โดยส่วนตัวแล้ว การปรับอะไรให้ดีขึ้น และเหมาะสมก็เห็นด้วย แต่ถ้าปรับแล้วไม่ดี ก็ไม่เห็นด้วย ส่วนกระแสข่าวใช้งบฯ 300 ล้านบาท ปรับปรุงทำเนียบฯ ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ตั้งคำถามว่า รัฐบาลที่ มาจาก คสช. จะเข้ามาจะอยู่ทำเนียบฯ นานเท่าไร ทำไมต้องใช้งบฯ มากถึง 300 ล้านบาท และจะคอยติดตามการทำงาน และดูว่าจะมีการทุจริตกันหรือไม่