เมื่อเวลา 08.45 น.วานนี้ (10ก.ค.) ที่บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป ซึ่งมีข้าราชการประชาชนทั่วไปเข้าร่วมด้วย ซึ่งพิธีตักบาตรพระสงฆ์วันนี้ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษาประจำปี 2557 ที่ทาง สปน.ได้ทำพิธีหล่อเทียนพรรษาและแห่เทียนไปยังวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา
**เผยพระให้ฤกษ์บวงสรวงพระพรหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 14 ก.ค.นี้ เวลา 10.00-12.30 น. ม.ล.ปนัดดา จะเป็นประธานในพิธีบวงสรวงสักการบูชาท้าวมหาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งพระภูมิเทวา และศาลปู่ย่าตายาย ซึ่งจะมีการทำพิธีบริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยได้เชิญพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ประกอบพิธีบวงสรวง สักการะบูชา ท้าวมหาพรหมด้วย
ม.ล.ปนัดดา เปิดเผยว่า เหตุที่กำหนดวันบวงสรวงในวันจันทร์ที่ 14 ก.ค. ถือเป็นวันฤกษ์ชัย ที่มีพระสงฆ์ได้กำหนดให้ ซึ่งถือเป็นเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมืองที่เราเคารพนับถือ เป็นเรื่องที่อยากให้คนไทยได้ร่วมกันเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น โดยอาศัยมิติความเชื่อมั่นทางศาสนา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในการนำทางพวกเรา ส่วนที่มองว่าเป็นการทำพิธีแก้เคล็ดนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง
** เชิญ คสช.ร่วมพิธีมงคลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นฤกษ์ของการเริ่มต้นของยุคการบริหารประเทศ หลังจากนี้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า คิดว่าทุกคนคงทราบดีว่าท้าวมหาพรหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ทุกคนให้ความนับถืออย่างมาก ซึ่งแต่แต่มีการบริหารราชการมา ยังไม่เคยมีการทำบุญถวาย ครั้งนี้ก็น่าเป็นโอกาสที่เหมาะสม
เมื่อถามว่าได้เชิญทาง คสช.มาร่วมด้วยหรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ได้เชิญไปแล้ว เป็นการเชิญในฐานะข้าราชการด้วยกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีใครมาร่วมบ้าง ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่
**สั่งจัดขรก.อัธยาศัยดีต้อนรับปชช.
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปฏิรูปประเทศด้วยว่า ขณะนี้หลายส่วนราชการได้แจ้งกลับมาแล้วและมองเห็นว่าหนทางในการแก้ไขในเรื่องแรกๆ เป็นเรื่องอะไรบ้างที่จะให้ประชาชนได้สัมผัสได้ ซึ่งตนได้ย้ำไปทุกภาคส่วนแล้วว่าส่วนใดที่มีหน้าที่ต้อนรับและบริการประชาชนประจำวัน ขอให้คัดเลือกบุคลากรที่มีอัธยาศัยไมตรี มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เอาคนที่หน้าบูดบึ้งไปต้อนรับประชาชน และขอให้ประชาชนช่วยกันดูด้วย หากพบข้าราชการใดคนใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสมแม้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ขอให้ช่วยแจ้งมาที่ สปน.ด้วยเพื่อจะได้ประสานไปยังกระทรวงต้นสังกัด
**ปลุก ขรก.ร่วมโค่นระบบอุปถัมภ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาในหมู่ข้าราชการถือว่าฝังรากลึกมานาน อีกทั้งยังเกี่ยวกับคนจำนวนมาก การทำให้เห็นผลโดยเร็วจะเป็นไปได้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า อาจจะไม่เร็วมาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เรื่องนี้เป็นปัญหาสะสมกันมานาน ก็ต้องมาวางรากฐานที่ดีให้กับข้าราชการรุ่นใหม่ๆเหมือนโปรโมเดล เพื่อให้เข้าใจว่าบทบาทหน้าที่ของข้าราชการจริงๆเป็นอย่างไร ไม่ใช่เข้ามาเป็นเจ้าคน นายคน แต่ต้องเข้ามาเพื่อรับใช้ประชาชน
เมื่อถามว่าปัจจุบันมีเรื่องผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก และข้าราชก็อิงนักการเมือง นักการเมืองก็อิงข้าราชการ ต่างคนต่างได้ประโยชน์ กลายเป็นอุปถัมภ์ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า วิสัยทัศน์แบบนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยน ข้าราชการต้องเข้มแข็ง มีจุดยืนที่มั่นคง ส่วนเรื่องการเลิกระบบอุปถัมภ์นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่บางหน่วยงานละเลยการปฏิบัติ ก็อยากให้ทำกันอย่างเต็มรูปแบบ ให้อยู่ในใจของผู้ที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการและนำทางองค์กรไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
**เผยพระให้ฤกษ์บวงสรวงพระพรหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 14 ก.ค.นี้ เวลา 10.00-12.30 น. ม.ล.ปนัดดา จะเป็นประธานในพิธีบวงสรวงสักการบูชาท้าวมหาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งพระภูมิเทวา และศาลปู่ย่าตายาย ซึ่งจะมีการทำพิธีบริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยได้เชิญพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ประกอบพิธีบวงสรวง สักการะบูชา ท้าวมหาพรหมด้วย
ม.ล.ปนัดดา เปิดเผยว่า เหตุที่กำหนดวันบวงสรวงในวันจันทร์ที่ 14 ก.ค. ถือเป็นวันฤกษ์ชัย ที่มีพระสงฆ์ได้กำหนดให้ ซึ่งถือเป็นเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมืองที่เราเคารพนับถือ เป็นเรื่องที่อยากให้คนไทยได้ร่วมกันเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น โดยอาศัยมิติความเชื่อมั่นทางศาสนา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในการนำทางพวกเรา ส่วนที่มองว่าเป็นการทำพิธีแก้เคล็ดนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง
** เชิญ คสช.ร่วมพิธีมงคลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นฤกษ์ของการเริ่มต้นของยุคการบริหารประเทศ หลังจากนี้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า คิดว่าทุกคนคงทราบดีว่าท้าวมหาพรหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ทุกคนให้ความนับถืออย่างมาก ซึ่งแต่แต่มีการบริหารราชการมา ยังไม่เคยมีการทำบุญถวาย ครั้งนี้ก็น่าเป็นโอกาสที่เหมาะสม
เมื่อถามว่าได้เชิญทาง คสช.มาร่วมด้วยหรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ได้เชิญไปแล้ว เป็นการเชิญในฐานะข้าราชการด้วยกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีใครมาร่วมบ้าง ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ คนใหม่
**สั่งจัดขรก.อัธยาศัยดีต้อนรับปชช.
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปฏิรูปประเทศด้วยว่า ขณะนี้หลายส่วนราชการได้แจ้งกลับมาแล้วและมองเห็นว่าหนทางในการแก้ไขในเรื่องแรกๆ เป็นเรื่องอะไรบ้างที่จะให้ประชาชนได้สัมผัสได้ ซึ่งตนได้ย้ำไปทุกภาคส่วนแล้วว่าส่วนใดที่มีหน้าที่ต้อนรับและบริการประชาชนประจำวัน ขอให้คัดเลือกบุคลากรที่มีอัธยาศัยไมตรี มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่เอาคนที่หน้าบูดบึ้งไปต้อนรับประชาชน และขอให้ประชาชนช่วยกันดูด้วย หากพบข้าราชการใดคนใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสมแม้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ขอให้ช่วยแจ้งมาที่ สปน.ด้วยเพื่อจะได้ประสานไปยังกระทรวงต้นสังกัด
**ปลุก ขรก.ร่วมโค่นระบบอุปถัมภ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาในหมู่ข้าราชการถือว่าฝังรากลึกมานาน อีกทั้งยังเกี่ยวกับคนจำนวนมาก การทำให้เห็นผลโดยเร็วจะเป็นไปได้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า อาจจะไม่เร็วมาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เรื่องนี้เป็นปัญหาสะสมกันมานาน ก็ต้องมาวางรากฐานที่ดีให้กับข้าราชการรุ่นใหม่ๆเหมือนโปรโมเดล เพื่อให้เข้าใจว่าบทบาทหน้าที่ของข้าราชการจริงๆเป็นอย่างไร ไม่ใช่เข้ามาเป็นเจ้าคน นายคน แต่ต้องเข้ามาเพื่อรับใช้ประชาชน
เมื่อถามว่าปัจจุบันมีเรื่องผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก และข้าราชก็อิงนักการเมือง นักการเมืองก็อิงข้าราชการ ต่างคนต่างได้ประโยชน์ กลายเป็นอุปถัมภ์ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า วิสัยทัศน์แบบนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยน ข้าราชการต้องเข้มแข็ง มีจุดยืนที่มั่นคง ส่วนเรื่องการเลิกระบบอุปถัมภ์นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่บางหน่วยงานละเลยการปฏิบัติ ก็อยากให้ทำกันอย่างเต็มรูปแบบ ให้อยู่ในใจของผู้ที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการและนำทางองค์กรไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
