พี่สาวแจ้งน้องสาวอายุ 12 ปีหายไปจากขบวนรถไฟ นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ คุมตัวพนักงาน-คนงานบริษัทสอบปากคำ พร้อมตรวจดีเอ็นเอ "ประภัสร" ให้ 5 หมื่นคนชี้เบาะแส ตำรวจพบพิรุธลงจากรถไฟเอง เหตุเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปด้วย แถมปิดโทรศัพท์มือถือ ล่าสุดแม่ค้าอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พบสะพายกระเป๋ามากับผู้ชายอายุ 30 ปีเมื่อบ่ายสอง 6 ก.ค. สั่งอาหารกินเสร็จไม่รู้ออกจากร้านแล้วไปไหน สารวัตรสถานีรถไฟหัวหินระดมกำลังค้นหาตลอดชายหาดชะอำแล้ว
เช้าวานนี้(7 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสน.นพวงศ์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร รับแจ้งจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)ว่ามีผู้โดยสารเป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี สูญหายไปจากตู้นอนพัดลมชั้น 2 ตู้ที่ 3 ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ สอบถามทราบว่าชื่อด.ญ.เอ(ขอสงวนนามสกุล) หรือ "น้องแก้ม" อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังในจ.นนทบุรี เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติที่จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพี่สาว เพื่อนชายของพี่สาว และน้องสาวอายุ 10 ปี โดยออกเดินทางจากจ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันที่ 5 กรกฎาคม
ต่อมา เวลาประมาณ 01.00 น. โบกี้ที่น้องแก้มโดยสารอยู่เกิดไฟฟ้าดับเพียงโบกี้เดียว ช่วงระหว่างจ.ประจวบคีรีขันธ์กับจ.เพชรบุรี ขณะที่พี่สาวนอนหลับและตื่นขึ้นเมื่อเข้าเขตจ.ราชบุรีแต่ไม่พบน้องแก้ม พบร่องรอยการต่อสู้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เมื่อขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยค้นหาทุกโบกี้แล้วแต่ก็ไม่พบร่องรอย จึงประสานกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ติดตามหา
เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ(บก.รฟ.) พ.ต.อ.วิเศษ เกตุพันธ์ รองผบก.รฟ นายประภัสร จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ร.ต.ท.ยุทธพันธุ์ คำแก้ว พนักงานสอบสวนสน.นพวงศ์ พร้อมฝ่ายสืบสวนบก.รฟ. ประชุมคลี่คลายคดีน้องแก้ม ซึ่งตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทที่รฟท.จ้างมาทำความสะอาดบนขบวนรถมาสอบสวนปากคำ และนำตัวไปตรวจร่างกาย ที่กองพิสูจน์หลักฐาน เนื่องจากพบร่องรอยขีดข่วนตามร่างกายบางคน ส่วนกรณีผ้าปูที่นอนหายไปนั้น ตรวจสอบยืนยันว่าไม่มีผ้าหายไป ซึ่งรฟท.ได้ตั้งเงินรางวัล 50,000 บาทสำหรับผู้แจ้งเบาะแสจนพบตัวน้องแก้ม
ด้านพ.ต.อ.วิเศษ กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยไม่ส่อพิรุธระหว่างสอบสวน ส่วนการตรวจร่างกายผู้ต้องสงสัยยังต้องรอผล ล่าสุดฝ่ายสืบสวนบก.รฟ. กำลังประสานงานกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบหลักฐานมาร่วมคลี่คลาย เบื้องต้นคาดว่าเด็กอาจมีชีวิต และไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นแต่อย่างใด
ด้านน.ส.บีพี่สาวน้องแก้ม กล่าวว่า ไปหายายที่อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมน้องแก้ม น้องสาวอายุ 10 ปี และเพื่อนชายของตน และเดินทางกลับด้วยรถไฟนอนชั้น 2 ขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราษฎร์-กรุงเทพฯ จากสถานีพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยตนนอนเตียงล่างคู่กับน้องแก้ม ส่วนเพื่อนชายนอนเตียงชั้นบนคู่กับน้องสาวคนเล็ก จนเวลาประมาณ 02.00 น.ได้หลับไป รู้สึกตัวเวลาประมาณ 04.00 น. ช่วงถึงสถานีนครปฐม แต่น้องแก้มหายไปแล้ว จึงแจ้งพนักงานในตู้ให้ทราบ และช่วยกันเดินตามหาตามโบกี้ จนมาถึงสถานีบางซื่อ ซึ่งนัดให้แม่มารอรับจึงเล่าให้ฟัง ก่อนเดินทางมาแจ้งความที่สน.นพวงษ์
ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดพล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ. ได้แต่งตั้งพ.ต.อ.วิเศษเป็นหัวหน้าชุดสืบสวน และส่งตำรวจค้นหาตั้งแต่สถานีรถไฟนครปฐม ลงไปจนถึงสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นการตรวจสอบกล้องวงจรปิด จากสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ ถึงสถานีรถไฟราชบุรี ไม่พบภาพน้องแก้มจากกล้องวงจรปิด
ขณะที่นายประภัสร์ มอบให้ฝ่ายการช่างโยธา และนายตรวจทางนำรถตรวจทางออกตรวจเส้นทางรถไฟ ตั้งแต่สถานีรถไฟวังก์พง ถึงสถานีรถไฟราชบุรี เพื่อตรวจสอบกรณีเด็กพลัดตกรถไฟ และได้พูดคุยกับมารดาของน้องแก้มที่สน.นพวงศ์ โดยยืนยันว่า รฟท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้พนักงานรถนอน พนักงานทำความสะอาด 4 คนตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจะทราบผลวันที่ 8 กรกฎาคม โดยนายประภัสร์ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ คือ ขอให้พบน้องแก้ม
ด้านนายประสงค์ โกมุก นายสถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการจัดทีมค้นหาตามเส้นทางเขตรับผิดชอบของสถานีต่างๆ ไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟหัวหิน 10 จุด บันทึกภาพขณะรถไฟวิ่งเข้าสถานีได้ 4 จุด โดยขบวนรถที่ 174 มาถึงสถานีหัวหินเวลาประมาณ 01.00 น. ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะตู้นอนที่ 3 ไม่มีผู้โดยสารลงจากขบวน
ทั้งนี้ ขบวนรถที่น้องแก้มโดยสารมาเป็นขบวนรถเร็ว จะจอดที่สถานีหลัก โดยจ.ประจวบคีรีขันธ์ จะจอดที่บ้านกรูด ทับสะแก เมือง วังพงก์ และหัวหิน จากนั้นจะไปจอดที่สถานีเมืองเพชรบุรี ส่วนตู้นอนหลังเวลา 22.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่ประจำ หากมีการเข้า-ออกเจ้าหน้าที่จะพบเห็น กรณีพลัดตกรถไฟก็ต้องมีผู้พบเห็นเช่นกันรวมทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เขตรางก็ต้องเห็น
พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น เชื่อว่าเด็กสมัครใจเดินลงจากโบกี้รถไฟโดยไม่มีการล่อลวง เนื่องจากนำกระเป๋าเสื้อผ้าติดตัวไปด้วย ซึ่งได้แนะนำให้ตำรวจรถไฟตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงจุดที่แจ้งหาย ว่าได้ติดต่อกับผู้ใดบ้าง พิกัดสุดท้ายในพื้นที่ใด ตรวจสอบการใช้โซเชียลมีเดีย โดยตั้งข้อสังเกตุว่าหลังจากหายไปได้ปิดโทรศัพท์มือถือ แม้พี่สาวพยายามติดต่อหลายครั้งแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ
ล่าสุด พ.ต.ท.วุฒิเทพ เพ็ญแสง สารวัตรสถานีรถไฟหัวหิน นำกำลังเจ้าลงพื้นที่เขตติดต่ออ.หัวหิน บริเวณค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีหลายจุด ทั้งร้านสะดวกซื้อ สถานีรถไฟเพชรบุรี ที่ขบวนรถจอด และจุดสัญญาณมือถือที่หายไป คือ บริเวณค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยตรวจสอบที่ร้านอาหารตามสั่งชื่อร้านปั้นป้าย ซอยท่ารถทัวร์ ริมชายหาดชะอำ ซึ่งเจ้าของร้านยืนยันหลังเห็นภาพถ่ายน้องแก้มว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เวลาประมาณ 14.00 น. พบน้องแก้มสะพายกระเป๋ามาพร้อมกับผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี ผิวดำ ผมยาว สูงประมาณ 165 เซนติเมตร โดยเข้ามาสั่งอาหารรับประทานตามปกติ ไม่มีอาการผิดปกติเหมือนเพื่อนมาด้วยกัน ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวใดๆ จึงไม่ได้สงสัย และทั้งคู่ออกจากร้านไปโดยไม่ทราบว่าไปทางไหน
"ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเอกซเรย์บ้านพัก เกสเฮ้าท์ และจุดท่องเที่ยวใกล้เคียง ตลอดแนวชายหาดชะอำแล้ว แต่มีที่พักขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมากจึงต้องใช้เวลา และน้องแก้มอาจไม่ได้พักที่ชายหาดชะอำแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตามถือเป็นความคืบหน้าที่ดีในระดับหนึ่ง เพราะน้องแก้มยังมีชีวิตอยู่"
เช้าวานนี้(7 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสน.นพวงศ์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร รับแจ้งจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)ว่ามีผู้โดยสารเป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี สูญหายไปจากตู้นอนพัดลมชั้น 2 ตู้ที่ 3 ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ สอบถามทราบว่าชื่อด.ญ.เอ(ขอสงวนนามสกุล) หรือ "น้องแก้ม" อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังในจ.นนทบุรี เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติที่จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพี่สาว เพื่อนชายของพี่สาว และน้องสาวอายุ 10 ปี โดยออกเดินทางจากจ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันที่ 5 กรกฎาคม
ต่อมา เวลาประมาณ 01.00 น. โบกี้ที่น้องแก้มโดยสารอยู่เกิดไฟฟ้าดับเพียงโบกี้เดียว ช่วงระหว่างจ.ประจวบคีรีขันธ์กับจ.เพชรบุรี ขณะที่พี่สาวนอนหลับและตื่นขึ้นเมื่อเข้าเขตจ.ราชบุรีแต่ไม่พบน้องแก้ม พบร่องรอยการต่อสู้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เมื่อขบวนรถไฟมาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยค้นหาทุกโบกี้แล้วแต่ก็ไม่พบร่องรอย จึงประสานกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ติดตามหา
เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ(บก.รฟ.) พ.ต.อ.วิเศษ เกตุพันธ์ รองผบก.รฟ นายประภัสร จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ร.ต.ท.ยุทธพันธุ์ คำแก้ว พนักงานสอบสวนสน.นพวงศ์ พร้อมฝ่ายสืบสวนบก.รฟ. ประชุมคลี่คลายคดีน้องแก้ม ซึ่งตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทที่รฟท.จ้างมาทำความสะอาดบนขบวนรถมาสอบสวนปากคำ และนำตัวไปตรวจร่างกาย ที่กองพิสูจน์หลักฐาน เนื่องจากพบร่องรอยขีดข่วนตามร่างกายบางคน ส่วนกรณีผ้าปูที่นอนหายไปนั้น ตรวจสอบยืนยันว่าไม่มีผ้าหายไป ซึ่งรฟท.ได้ตั้งเงินรางวัล 50,000 บาทสำหรับผู้แจ้งเบาะแสจนพบตัวน้องแก้ม
ด้านพ.ต.อ.วิเศษ กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยไม่ส่อพิรุธระหว่างสอบสวน ส่วนการตรวจร่างกายผู้ต้องสงสัยยังต้องรอผล ล่าสุดฝ่ายสืบสวนบก.รฟ. กำลังประสานงานกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบหลักฐานมาร่วมคลี่คลาย เบื้องต้นคาดว่าเด็กอาจมีชีวิต และไม่เกิดเหตุร้ายขึ้นแต่อย่างใด
ด้านน.ส.บีพี่สาวน้องแก้ม กล่าวว่า ไปหายายที่อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมน้องแก้ม น้องสาวอายุ 10 ปี และเพื่อนชายของตน และเดินทางกลับด้วยรถไฟนอนชั้น 2 ขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราษฎร์-กรุงเทพฯ จากสถานีพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยตนนอนเตียงล่างคู่กับน้องแก้ม ส่วนเพื่อนชายนอนเตียงชั้นบนคู่กับน้องสาวคนเล็ก จนเวลาประมาณ 02.00 น.ได้หลับไป รู้สึกตัวเวลาประมาณ 04.00 น. ช่วงถึงสถานีนครปฐม แต่น้องแก้มหายไปแล้ว จึงแจ้งพนักงานในตู้ให้ทราบ และช่วยกันเดินตามหาตามโบกี้ จนมาถึงสถานีบางซื่อ ซึ่งนัดให้แม่มารอรับจึงเล่าให้ฟัง ก่อนเดินทางมาแจ้งความที่สน.นพวงษ์
ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดพล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ. ได้แต่งตั้งพ.ต.อ.วิเศษเป็นหัวหน้าชุดสืบสวน และส่งตำรวจค้นหาตั้งแต่สถานีรถไฟนครปฐม ลงไปจนถึงสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นการตรวจสอบกล้องวงจรปิด จากสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์ ถึงสถานีรถไฟราชบุรี ไม่พบภาพน้องแก้มจากกล้องวงจรปิด
ขณะที่นายประภัสร์ มอบให้ฝ่ายการช่างโยธา และนายตรวจทางนำรถตรวจทางออกตรวจเส้นทางรถไฟ ตั้งแต่สถานีรถไฟวังก์พง ถึงสถานีรถไฟราชบุรี เพื่อตรวจสอบกรณีเด็กพลัดตกรถไฟ และได้พูดคุยกับมารดาของน้องแก้มที่สน.นพวงศ์ โดยยืนยันว่า รฟท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้พนักงานรถนอน พนักงานทำความสะอาด 4 คนตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจะทราบผลวันที่ 8 กรกฎาคม โดยนายประภัสร์ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ คือ ขอให้พบน้องแก้ม
ด้านนายประสงค์ โกมุก นายสถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการจัดทีมค้นหาตามเส้นทางเขตรับผิดชอบของสถานีต่างๆ ไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟหัวหิน 10 จุด บันทึกภาพขณะรถไฟวิ่งเข้าสถานีได้ 4 จุด โดยขบวนรถที่ 174 มาถึงสถานีหัวหินเวลาประมาณ 01.00 น. ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะตู้นอนที่ 3 ไม่มีผู้โดยสารลงจากขบวน
ทั้งนี้ ขบวนรถที่น้องแก้มโดยสารมาเป็นขบวนรถเร็ว จะจอดที่สถานีหลัก โดยจ.ประจวบคีรีขันธ์ จะจอดที่บ้านกรูด ทับสะแก เมือง วังพงก์ และหัวหิน จากนั้นจะไปจอดที่สถานีเมืองเพชรบุรี ส่วนตู้นอนหลังเวลา 22.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่ประจำ หากมีการเข้า-ออกเจ้าหน้าที่จะพบเห็น กรณีพลัดตกรถไฟก็ต้องมีผู้พบเห็นเช่นกันรวมทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เขตรางก็ต้องเห็น
พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น เชื่อว่าเด็กสมัครใจเดินลงจากโบกี้รถไฟโดยไม่มีการล่อลวง เนื่องจากนำกระเป๋าเสื้อผ้าติดตัวไปด้วย ซึ่งได้แนะนำให้ตำรวจรถไฟตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงจุดที่แจ้งหาย ว่าได้ติดต่อกับผู้ใดบ้าง พิกัดสุดท้ายในพื้นที่ใด ตรวจสอบการใช้โซเชียลมีเดีย โดยตั้งข้อสังเกตุว่าหลังจากหายไปได้ปิดโทรศัพท์มือถือ แม้พี่สาวพยายามติดต่อหลายครั้งแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ
ล่าสุด พ.ต.ท.วุฒิเทพ เพ็ญแสง สารวัตรสถานีรถไฟหัวหิน นำกำลังเจ้าลงพื้นที่เขตติดต่ออ.หัวหิน บริเวณค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีหลายจุด ทั้งร้านสะดวกซื้อ สถานีรถไฟเพชรบุรี ที่ขบวนรถจอด และจุดสัญญาณมือถือที่หายไป คือ บริเวณค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยตรวจสอบที่ร้านอาหารตามสั่งชื่อร้านปั้นป้าย ซอยท่ารถทัวร์ ริมชายหาดชะอำ ซึ่งเจ้าของร้านยืนยันหลังเห็นภาพถ่ายน้องแก้มว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เวลาประมาณ 14.00 น. พบน้องแก้มสะพายกระเป๋ามาพร้อมกับผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี ผิวดำ ผมยาว สูงประมาณ 165 เซนติเมตร โดยเข้ามาสั่งอาหารรับประทานตามปกติ ไม่มีอาการผิดปกติเหมือนเพื่อนมาด้วยกัน ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวใดๆ จึงไม่ได้สงสัย และทั้งคู่ออกจากร้านไปโดยไม่ทราบว่าไปทางไหน
"ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเอกซเรย์บ้านพัก เกสเฮ้าท์ และจุดท่องเที่ยวใกล้เคียง ตลอดแนวชายหาดชะอำแล้ว แต่มีที่พักขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมากจึงต้องใช้เวลา และน้องแก้มอาจไม่ได้พักที่ชายหาดชะอำแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตามถือเป็นความคืบหน้าที่ดีในระดับหนึ่ง เพราะน้องแก้มยังมีชีวิตอยู่"