สลด! หนุ่มผู้ช่วยกุ๊กโรงแรม น้อยใจภรรยาตีตัวจาก ย้อนไปรับลูกวัย 7 ขวบมาแทง ดับ 2 ศพ ก่อนใช้มีดเล่มเดียวกันกระซวกหน้าอกตัวเองตายตาม ภายในบ้านพักย่านปทุมวัน ขณะที่คดี ผอ.คปภ.ตายทั้งกลม เตรียมขออนุมัติหมายจับสามี กรมสุขภาพจิตไม่ฟันธง ทั้ง 2 คดีมีอาการป่วยทางจิตหรือไม่
วานนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.ท.คม รอดเภา พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ภายในบ้านเลขที่ 94/38 ภายในซอยพระเจน ซอย 3 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สูง 2 ชั้น บริเวณห้องนอนชั้น 2 เจ้าหน้าที่พบศพนายณัทธวัฒน์ มาศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่94/38 ตรอกพระเจน ซอย 3 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน อาชีพผู้ช่วยกุ๊กโรงแรมบันยันทรี สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงสีขาว มีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณหน้าอกซ้าย ด้านขวาของนายณัทธวัฒน์ พบศพ ด.ช.ภัชร์ทนันท์ มาศรี หรือ น้องอู๋ อายุ 8 ขวบ สภาพศพสวมเสื้อสีเหลือง กางเกงลายธงชาติสหรัฐอเมริกา นอนตะแคงซ้าย ถูกมีดแทงที่หน้าอกซ้าย และบริเวณด้านซ้ายพบศพ ด.ช.โชติวิทย์ มาศรี หรือ น้องออย อายุ 7 ขวบ สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นลายสก็อต มีบาดแผลถูกแทงที่ราวนมด้านซ้าย โดยแพทย์ระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-12 ชม. จากการตรวจสอบภายในห้องพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต มีคราบเลือดติดอยู่ นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตาย ที่ผู้ตายเขียนขึ้นมีใจความในทำนองตัดพ้อเกี่ยวกับครอบครัวที่แตกแยก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนางธนญ์ญาณัศ อ่อนอก อายุ 52 ปี มารดาของนายณัทธวัฒน์ กล่าวว่า ปกติที่บ้านหลังดังกล่าวจะอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ ผู้ตาย ลูกๆ ทั้งสอง และนางสุวรรณ ทับเอี่ยม อายุ 53 ปี พี่สาวของผู้ตาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุเมื่อวัน 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ไปเยี่ยมลูกๆทั้งสอง ซึ่งอยู่ที่บ้านของนางปาภาภัทร สุขจินดา อายุ 31 ปี แม่ของลูกๆ ทั้งสอง ที่ย่านตลาดพลู ซึ่งทั้งสองได้แยกกันอยู่ประมาณเกือบ 1 เดือนแล้ว เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว โดยผู้ตายจะพาเด็กไปส่งคืนที่บ้านในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งตนเคยบอกกับลูกชายแล้วถ้ามีปัญหาทะเลาะอะไรกันก็ขอให้คุยกันดีๆ จนกระทั่งมาทราบว่าเกิดเหตุเรื่องสลดใจแบบนี้ขึ้น
ต่อมานางปาภาภัทร มารดาของเด็กชายทั้งสอง ได้เดินทางมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ โดยทันทีที่มาถึงและได้พบกับร่างไร้วิญญาณของลูกชายทั้ง 2 คน ถึงกับร่ำไห้อย่างน่าเวทนา พร้อมพยายามจะเข้าไปดูใบหน้าลูกชาย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามปรามไว้เพราะกำลังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะมีปัญหาเรื่องครอบครัวเนื่องจากน้อยใจภรรยาที่ไม่ยอมกลับมาคืนดี จึงตัดสินใจฆ่าลูกทั้งสอง ก่อนปลิดชีพตัวเองตาม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เพื่อชันสูตรการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมารับศพเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ล่าผัวมือแทงผอ.คปภ.ตายทั้งกลม
พ.ต.ต.คมสันต์ บดิกาญจน์ สว.สส. สน.พหลโยธิน กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีพบศพ นางพิสุทธินี วัชรสิรินันท์ อายุ 40 ปี ผู้อำนวยการส่วนอาวุโสคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ผอ.คปภ.) ที่ตั้งครรภ์ประมาณ 7 เดือน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน โดยพบบาดแผลถูกแทงจนไส้ทะลักออกมากองบนพื้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจกำลังติดตามตัว นายพลพรหม วัชรสิรินันท์ อายุ 40 ปี สามีที่หนีหายไป และนำบุตรสาวอีก 2 คนไปด้วย เพราะอาจเกี่ยวข้องกับการสังหารภรรยาของตัวเอง แต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด คาดว่าอาจหนีเตลิดไปไกลพอสมควร แต่ก็ได้พยายามแกะรอยจากญาติของผู้ต้องสงสัยทุกแห่ง และกรณีที่ว่าสามีเป็นพวกคลั่งไสยศาสตร์หรือไม่นั้น จากการสอบสอบสวน ทราบว่ามีอาการทางจิตด้วย ซึ่งหากเจอตัวคดีนี้ก็อาจคลี่คลายได้โดยเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบพรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้ต่อไป
กรมสุขภาพจิตไม่ฟันธงป่วยทางจิต
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญ สามีน้อยใจภรรยา แทงลูก 2 คนตาย ก่อนฆ่าตัวตายตาม ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิตหรือไม่ ต้องมีการศึกษาประวัติและรายละเอียดอื่น ๆ ของผู้ก่อเหตุเพิ่มเติมมาประกอบกัน อย่างไรก็ตามจากพฤติกรรมผู้ก่อเหตุ ก็อาจมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิต เนื่องจากมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากการก่อเหตุทั่วไป ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นแค่การฆ่าให้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นให้ก่อเหตุดังกล่าว อาจเกิดจากภาวะทางอารมณ์ที่เครียดจัด จากปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว ปัญหาเรื่องความรัก และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่ประกอบกัน เช่นเดียวกับเหตุสะเทือนขวัญสามีก่อเหตุฆาตกรรมแทงภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ 7 เดือน โดยมีบาดแผลถูกผ่าท้องจนไส้ทะลัก ซึ่งเป็นการก่อเหตุที่โหดเหี้ยม และผู้ก่อเหตุยังมีพฤติกรรมที่เกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์อีกด้วย
จากสถิติโดยรวมแล้วผู้ป่วยทางจิตที่ก่อเหตุฆาตกรรม ยังมีน้อยกว่าเหตุฆาตกรรมทั่วไป โดยสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยทางจิตมาก่อเหตุฆาตกรรม เนื่องจากมีอาการทางจิตแล้วรักษาไม่ต่อเนื่อง และขาดยา หรือเหตุผลอื่นๆ จึงต้องมีการดูแลรักษาผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ห้ามละเลยอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามไม่อยากให้เหมารวมว่าผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงจะเป็นผู้ทางจิตไปหมด.
วานนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.ท.คม รอดเภา พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ภายในบ้านเลขที่ 94/38 ภายในซอยพระเจน ซอย 3 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สูง 2 ชั้น บริเวณห้องนอนชั้น 2 เจ้าหน้าที่พบศพนายณัทธวัฒน์ มาศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่94/38 ตรอกพระเจน ซอย 3 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน อาชีพผู้ช่วยกุ๊กโรงแรมบันยันทรี สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงสีขาว มีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณหน้าอกซ้าย ด้านขวาของนายณัทธวัฒน์ พบศพ ด.ช.ภัชร์ทนันท์ มาศรี หรือ น้องอู๋ อายุ 8 ขวบ สภาพศพสวมเสื้อสีเหลือง กางเกงลายธงชาติสหรัฐอเมริกา นอนตะแคงซ้าย ถูกมีดแทงที่หน้าอกซ้าย และบริเวณด้านซ้ายพบศพ ด.ช.โชติวิทย์ มาศรี หรือ น้องออย อายุ 7 ขวบ สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นลายสก็อต มีบาดแผลถูกแทงที่ราวนมด้านซ้าย โดยแพทย์ระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-12 ชม. จากการตรวจสอบภายในห้องพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต มีคราบเลือดติดอยู่ นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตาย ที่ผู้ตายเขียนขึ้นมีใจความในทำนองตัดพ้อเกี่ยวกับครอบครัวที่แตกแยก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนางธนญ์ญาณัศ อ่อนอก อายุ 52 ปี มารดาของนายณัทธวัฒน์ กล่าวว่า ปกติที่บ้านหลังดังกล่าวจะอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ ผู้ตาย ลูกๆ ทั้งสอง และนางสุวรรณ ทับเอี่ยม อายุ 53 ปี พี่สาวของผู้ตาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุเมื่อวัน 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ไปเยี่ยมลูกๆทั้งสอง ซึ่งอยู่ที่บ้านของนางปาภาภัทร สุขจินดา อายุ 31 ปี แม่ของลูกๆ ทั้งสอง ที่ย่านตลาดพลู ซึ่งทั้งสองได้แยกกันอยู่ประมาณเกือบ 1 เดือนแล้ว เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว โดยผู้ตายจะพาเด็กไปส่งคืนที่บ้านในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งตนเคยบอกกับลูกชายแล้วถ้ามีปัญหาทะเลาะอะไรกันก็ขอให้คุยกันดีๆ จนกระทั่งมาทราบว่าเกิดเหตุเรื่องสลดใจแบบนี้ขึ้น
ต่อมานางปาภาภัทร มารดาของเด็กชายทั้งสอง ได้เดินทางมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ โดยทันทีที่มาถึงและได้พบกับร่างไร้วิญญาณของลูกชายทั้ง 2 คน ถึงกับร่ำไห้อย่างน่าเวทนา พร้อมพยายามจะเข้าไปดูใบหน้าลูกชาย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามปรามไว้เพราะกำลังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะมีปัญหาเรื่องครอบครัวเนื่องจากน้อยใจภรรยาที่ไม่ยอมกลับมาคืนดี จึงตัดสินใจฆ่าลูกทั้งสอง ก่อนปลิดชีพตัวเองตาม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เพื่อชันสูตรการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมารับศพเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ล่าผัวมือแทงผอ.คปภ.ตายทั้งกลม
พ.ต.ต.คมสันต์ บดิกาญจน์ สว.สส. สน.พหลโยธิน กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีพบศพ นางพิสุทธินี วัชรสิรินันท์ อายุ 40 ปี ผู้อำนวยการส่วนอาวุโสคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ผอ.คปภ.) ที่ตั้งครรภ์ประมาณ 7 เดือน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน โดยพบบาดแผลถูกแทงจนไส้ทะลักออกมากองบนพื้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจกำลังติดตามตัว นายพลพรหม วัชรสิรินันท์ อายุ 40 ปี สามีที่หนีหายไป และนำบุตรสาวอีก 2 คนไปด้วย เพราะอาจเกี่ยวข้องกับการสังหารภรรยาของตัวเอง แต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด คาดว่าอาจหนีเตลิดไปไกลพอสมควร แต่ก็ได้พยายามแกะรอยจากญาติของผู้ต้องสงสัยทุกแห่ง และกรณีที่ว่าสามีเป็นพวกคลั่งไสยศาสตร์หรือไม่นั้น จากการสอบสอบสวน ทราบว่ามีอาการทางจิตด้วย ซึ่งหากเจอตัวคดีนี้ก็อาจคลี่คลายได้โดยเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบพรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้ต่อไป
กรมสุขภาพจิตไม่ฟันธงป่วยทางจิต
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญ สามีน้อยใจภรรยา แทงลูก 2 คนตาย ก่อนฆ่าตัวตายตาม ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิตหรือไม่ ต้องมีการศึกษาประวัติและรายละเอียดอื่น ๆ ของผู้ก่อเหตุเพิ่มเติมมาประกอบกัน อย่างไรก็ตามจากพฤติกรรมผู้ก่อเหตุ ก็อาจมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิต เนื่องจากมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากการก่อเหตุทั่วไป ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นแค่การฆ่าให้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นให้ก่อเหตุดังกล่าว อาจเกิดจากภาวะทางอารมณ์ที่เครียดจัด จากปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว ปัญหาเรื่องความรัก และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่ประกอบกัน เช่นเดียวกับเหตุสะเทือนขวัญสามีก่อเหตุฆาตกรรมแทงภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ 7 เดือน โดยมีบาดแผลถูกผ่าท้องจนไส้ทะลัก ซึ่งเป็นการก่อเหตุที่โหดเหี้ยม และผู้ก่อเหตุยังมีพฤติกรรมที่เกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์อีกด้วย
จากสถิติโดยรวมแล้วผู้ป่วยทางจิตที่ก่อเหตุฆาตกรรม ยังมีน้อยกว่าเหตุฆาตกรรมทั่วไป โดยสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยทางจิตมาก่อเหตุฆาตกรรม เนื่องจากมีอาการทางจิตแล้วรักษาไม่ต่อเนื่อง และขาดยา หรือเหตุผลอื่นๆ จึงต้องมีการดูแลรักษาผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ห้ามละเลยอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามไม่อยากให้เหมารวมว่าผู้ที่ก่อเหตุรุนแรงจะเป็นผู้ทางจิตไปหมด.
