00 ออกตัวได้จังหวะทำแต้มได้เต็มๆไปอีกดอกใหญ่ สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่ล่าสุดร้องขอไปถึง ฮุนเซน ให้ปล่อยตัว วีระ สมความคิด จนได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว เดินทางกลับบ้านพร้อมกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว (2ก.ค.) แน่นอนว่า เบื้องหลังของการปล่อยตัวดังกล่าวย่อมมีหลายเรื่องราวให้ได้พิจารณากัน แต่เอาเป็นว่าเมื่อ วีระ ได้รับการปล่อยตัวออกมาได้กลับมาสู่ครอบครัว หลังจากต้องไปทนทุกข์ที่นั่นถึงกว่าสามปี ทุกคนก็ย่อมดีใจ
00 งานนี้ต้องยกเครดิตให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเต็มๆ ที่ใช้จังหวะส่งคำร้องขอแบบเงียบๆไปถึงตัว ฮุนเซน โดยตรง พร้อมกับยื่นไมตรีนำหน้าไปก่อน เรื่องการแก้ไขปัญหาแรงงานกัมพูชา ไม่ให้ถูกเอาเปรียบ มีการจัดระเบียบใหม่ให้ถูกกม. มีการรักษาสิทธิของแรงงานต่างด้าวมากกว่าเดิม ที่สำคัญ วิน-วิน กันทั้งสองฝ่าย นั่นคือฝ่ายไทยได้แรงงานกลับมางานก่อสร้าง ธุรกิจหลายอย่างไม่มีผลกระทบ ขณะฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา ก็ไม่ต้องแบกรับภาระแรงงานที่ไหลทะลักกลับ เมื่อย้อนกลับมาอีก ก็มีรายได้ส่งเงินกลับเข้าประเทศ ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่าเดิม ไม่ต้องผ่านนายหน้าขูดรีดหลายขั้นตอน
00อีกทางหนึ่งมันก็สามารถจับทาง ฮุนเซน ได้อย่างชัดเจนแล้วว่า นาทีนี้เขาเปลี่ยนหน้าเล่นใหม่แล้ว เริ่มทิ้งระยะห่างกับ ทักษิณ ชินวัตร เพราะนกรู้อย่างเขา รู้ดีว่าสถานการณ์ยามนี้สมควรเล่นเกมแบบไหนกับใคร เพราะหากย้อนอดีตความสัมพันธ์ระหว่าง ฮุนเซนกับ ทักษิณ เคยจะฆ่ากันตายหลายครั้ง ถ้ายังจำ "นายพลสินสอง" ก็นั่นแหละที่เคยได้รับว่าจ้างให้รัฐประหารฮุนเซ็น แต่ล้มเหลวจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าไทย หากยังจำไม่ได้ และถาม ทักษิณ ไม่มีคำตอบ ก็ลองไปถาม พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเศรษฐ์ ก็ได้ ว่าเขาไปร่วมทำอะไรเอาไว้บ้างในตอนนั้น แต่มาระยะหลังด้วยผลประโยชน์ที่ลงตัว จากเดิมที่โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเรื่องเผาสถานทูตไทยในกัมพูชาแล้ว "ธุรกิจชิน" โดนเผาวายวอดไปด้วย แต่เมื่อมีการเคลียร์จ่ายเงินจ่ายทองกันเรียบร้อยเกินเป้า ก็หันมาจูบปากกันต่อ มาวันนี้ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป คนก็ต้องเปลี่ยนตาม มาต่อว่ากันไม่ได้นะเฟ้ย เพื่อนแม้ว !!
00 สังเกตคำพูดที่เน้นย้ำออกมาแบบตั้งใจก็คือ รัฐบาลฮุนเซน จะไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทยอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นท่าทีที่ยืนยันออกมาอย่างต่อเนื่อง และแสดงให้เห็นด้วยการไม่ยอมให้พวกลิ่วล้อแม้วใช้กัมพูชาเห่าหอน หรือเคลื่อนไหวข้ามแดนเป็นอันขาด นี่ก็แสดงให้เห็นชัดแล้วเขาอ่านสถานการณ์ได้ขาด ไม่เช่นนั้นคงยื้อนั่งเก้าอี้ผู้นำถาวรนานหลายสิบปีหรอก
00 วกมาเรื่องในประเทศไทยกันบ้าง จะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เน้นย้ำอยู่ตลอดเวลาก็คือ คสช.ไม่มีเรื่องทุจริต ไม่รับผลประโยชน์ ทำเพื่อส่วนรวม หากใครพบเห็นเรื่องดังให้แจ้งมาได้ทันที นั่นก็แสดงให้เห็นว่า เขารับรู้ถึงประเด็น "อ่อนไหว" เหล่านี้ได้ดี รู้ดีว่า พวกเขาอยู่ได้ด้วยความศรัทธา ความไว้วางใจจากประชาชนส่วนใหญ่ ดังนั้นหากจะบริหารความศรัทธาให้คงอยู่ไปนานๆ ก็ต้องเน้นย้ำในเรื่องของ "ความซื่อสัตย์" ไม่โกง และไม่ยอมให้ใครโกง สิ่งเหล่านี้แหละจะเป็นยันต์ป้องกันภัย นอกเหนือจากความตั้งใจ และฝีมือในการกวาดบ้านเมืองให้สะอาด
00 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มักเน้นย้ำเรื่องดังกล่าวเป็นระยะ ให้เห็นว่า "หัวไม่ส่าย" เพราะแน่นอนว่า ภารกิจที่กำลังเร่งทำอยู่มันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หากหวั่นไหวมันก็ตกเป็นเหยื่อ และพังไปก่อนได้ง่าย ยิ่งในปัจจุบันระบบการสื่อสารออนไลน์รวดเร็วฉับไว มีการบันทึกหลักฐานได้ชัดเจน ที่สำคัญเป็นยุคที่ประชาชนเป็นสื่อเองเสียด้วย แล้วไหนจะมีพวกอำนาจเก่าที่เพิ่งเสียประโยชน์คอยจ้องซ้ำเข้ามาอีก มันถึงต้องระวังตัวแจ เพราะถ้าเกิดเรื่องอื้อฉาวติดๆ กัน สักเรื่องสองเรื่อง รับรองว่าจบเห่แน่ หรืออย่างน้อยเมื่อความศรัทธาทรุดภารกิจใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าก็จะยากขึ้นมาเป็นร้อยเท่า หรืออาจล้มครืนลงก็ได้ !!
00 งานนี้ต้องยกเครดิตให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเต็มๆ ที่ใช้จังหวะส่งคำร้องขอแบบเงียบๆไปถึงตัว ฮุนเซน โดยตรง พร้อมกับยื่นไมตรีนำหน้าไปก่อน เรื่องการแก้ไขปัญหาแรงงานกัมพูชา ไม่ให้ถูกเอาเปรียบ มีการจัดระเบียบใหม่ให้ถูกกม. มีการรักษาสิทธิของแรงงานต่างด้าวมากกว่าเดิม ที่สำคัญ วิน-วิน กันทั้งสองฝ่าย นั่นคือฝ่ายไทยได้แรงงานกลับมางานก่อสร้าง ธุรกิจหลายอย่างไม่มีผลกระทบ ขณะฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา ก็ไม่ต้องแบกรับภาระแรงงานที่ไหลทะลักกลับ เมื่อย้อนกลับมาอีก ก็มีรายได้ส่งเงินกลับเข้าประเทศ ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่าเดิม ไม่ต้องผ่านนายหน้าขูดรีดหลายขั้นตอน
00อีกทางหนึ่งมันก็สามารถจับทาง ฮุนเซน ได้อย่างชัดเจนแล้วว่า นาทีนี้เขาเปลี่ยนหน้าเล่นใหม่แล้ว เริ่มทิ้งระยะห่างกับ ทักษิณ ชินวัตร เพราะนกรู้อย่างเขา รู้ดีว่าสถานการณ์ยามนี้สมควรเล่นเกมแบบไหนกับใคร เพราะหากย้อนอดีตความสัมพันธ์ระหว่าง ฮุนเซนกับ ทักษิณ เคยจะฆ่ากันตายหลายครั้ง ถ้ายังจำ "นายพลสินสอง" ก็นั่นแหละที่เคยได้รับว่าจ้างให้รัฐประหารฮุนเซ็น แต่ล้มเหลวจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าไทย หากยังจำไม่ได้ และถาม ทักษิณ ไม่มีคำตอบ ก็ลองไปถาม พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเศรษฐ์ ก็ได้ ว่าเขาไปร่วมทำอะไรเอาไว้บ้างในตอนนั้น แต่มาระยะหลังด้วยผลประโยชน์ที่ลงตัว จากเดิมที่โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเรื่องเผาสถานทูตไทยในกัมพูชาแล้ว "ธุรกิจชิน" โดนเผาวายวอดไปด้วย แต่เมื่อมีการเคลียร์จ่ายเงินจ่ายทองกันเรียบร้อยเกินเป้า ก็หันมาจูบปากกันต่อ มาวันนี้ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป คนก็ต้องเปลี่ยนตาม มาต่อว่ากันไม่ได้นะเฟ้ย เพื่อนแม้ว !!
00 สังเกตคำพูดที่เน้นย้ำออกมาแบบตั้งใจก็คือ รัฐบาลฮุนเซน จะไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทยอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นท่าทีที่ยืนยันออกมาอย่างต่อเนื่อง และแสดงให้เห็นด้วยการไม่ยอมให้พวกลิ่วล้อแม้วใช้กัมพูชาเห่าหอน หรือเคลื่อนไหวข้ามแดนเป็นอันขาด นี่ก็แสดงให้เห็นชัดแล้วเขาอ่านสถานการณ์ได้ขาด ไม่เช่นนั้นคงยื้อนั่งเก้าอี้ผู้นำถาวรนานหลายสิบปีหรอก
00 วกมาเรื่องในประเทศไทยกันบ้าง จะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เน้นย้ำอยู่ตลอดเวลาก็คือ คสช.ไม่มีเรื่องทุจริต ไม่รับผลประโยชน์ ทำเพื่อส่วนรวม หากใครพบเห็นเรื่องดังให้แจ้งมาได้ทันที นั่นก็แสดงให้เห็นว่า เขารับรู้ถึงประเด็น "อ่อนไหว" เหล่านี้ได้ดี รู้ดีว่า พวกเขาอยู่ได้ด้วยความศรัทธา ความไว้วางใจจากประชาชนส่วนใหญ่ ดังนั้นหากจะบริหารความศรัทธาให้คงอยู่ไปนานๆ ก็ต้องเน้นย้ำในเรื่องของ "ความซื่อสัตย์" ไม่โกง และไม่ยอมให้ใครโกง สิ่งเหล่านี้แหละจะเป็นยันต์ป้องกันภัย นอกเหนือจากความตั้งใจ และฝีมือในการกวาดบ้านเมืองให้สะอาด
00 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มักเน้นย้ำเรื่องดังกล่าวเป็นระยะ ให้เห็นว่า "หัวไม่ส่าย" เพราะแน่นอนว่า ภารกิจที่กำลังเร่งทำอยู่มันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หากหวั่นไหวมันก็ตกเป็นเหยื่อ และพังไปก่อนได้ง่าย ยิ่งในปัจจุบันระบบการสื่อสารออนไลน์รวดเร็วฉับไว มีการบันทึกหลักฐานได้ชัดเจน ที่สำคัญเป็นยุคที่ประชาชนเป็นสื่อเองเสียด้วย แล้วไหนจะมีพวกอำนาจเก่าที่เพิ่งเสียประโยชน์คอยจ้องซ้ำเข้ามาอีก มันถึงต้องระวังตัวแจ เพราะถ้าเกิดเรื่องอื้อฉาวติดๆ กัน สักเรื่องสองเรื่อง รับรองว่าจบเห่แน่ หรืออย่างน้อยเมื่อความศรัทธาทรุดภารกิจใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าก็จะยากขึ้นมาเป็นร้อยเท่า หรืออาจล้มครืนลงก็ได้ !!
