ASTVผู้จัดการรายวัน - มูลนิธิเสียงธรรมและประชาชน ยื่นฟ้องกสทช.ต่อศาลปกครองอุดรธานี ลิดรอนการออกอากาศสถานีวิทยุเสียงธรรม 128 สถานี แฉฉวยโอกาสอ้างอำนาจคสช.ห้าม วอนขอศาลมีคำสั่งออกอากาศได้ต่อไปทุกสถานี
วานนี้ (1 ก.ค.) ที่หน้าศาลปกครองจังหวัดอุดรธานี มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ร่วมกับประชาชน 137 คน ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกสทช.เขต 8 อุดรธานี เพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยให้สถานีวิทยุเสียงธรรมของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ออกอากาศได้ตามปกติ โดยมีนายพงศธร ศิริรัตน์ ผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทย์ยืนฟ้อง
หลังจากกสทช.วางแนวทางการออกอากาศด้วยเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1.ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการแล้ว 2.เครื่องส่งผ่านการตรวจกำลังส่งไม่เกิน 500 วัตต์ เสาสูง 60 เมตร 3.หนึ่งนิติบุคคลต่อหนึ่งใบอนุญาต 4.เนื้อหาสอดคล้องกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) และ 5.ต้องทำบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูในการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ยื่นฟ้องเห็นว่า แม้คสช.จะมุ่งคืนความสุขให้ประชาชน ด้วยประกาศคสช.ฉบับที่ 66/2557 อนุญาตให้ออกอากาศรายการได้ตามปกติ โดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขกฎหมาย 3 ฉบับ และนายทหารระดับสูงยังแจ้งมาว่า กำลังรอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข อนุญาตออกอากาศไม่ขัดต่อกฎหมาย แต่กสทช.กลับใช้โอกาสนี้กำหนดเงื่อนไข 5 ข้อดังกล่าวออกมา
ดังนั้น มูลนิธิจึงร่วมกับประชาชนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองอุดรธานี เพื่อขอความเมตตาจากศาล วินิจฉัยให้ความเป็นธรรมสถานีวิทยุเสียงธรรมทั้ง 128 สถานีออกอากาศได้ต่อไป ซึ่งศาลปกครองอุดรธานีประทับรับฟ้องคดีดำ หมายเลข 106 /2557
วานนี้ (1 ก.ค.) ที่หน้าศาลปกครองจังหวัดอุดรธานี มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ร่วมกับประชาชน 137 คน ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และกสทช.เขต 8 อุดรธานี เพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยให้สถานีวิทยุเสียงธรรมของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ออกอากาศได้ตามปกติ โดยมีนายพงศธร ศิริรัตน์ ผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทย์ยืนฟ้อง
หลังจากกสทช.วางแนวทางการออกอากาศด้วยเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1.ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการแล้ว 2.เครื่องส่งผ่านการตรวจกำลังส่งไม่เกิน 500 วัตต์ เสาสูง 60 เมตร 3.หนึ่งนิติบุคคลต่อหนึ่งใบอนุญาต 4.เนื้อหาสอดคล้องกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) และ 5.ต้องทำบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูในการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ยื่นฟ้องเห็นว่า แม้คสช.จะมุ่งคืนความสุขให้ประชาชน ด้วยประกาศคสช.ฉบับที่ 66/2557 อนุญาตให้ออกอากาศรายการได้ตามปกติ โดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขกฎหมาย 3 ฉบับ และนายทหารระดับสูงยังแจ้งมาว่า กำลังรอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข อนุญาตออกอากาศไม่ขัดต่อกฎหมาย แต่กสทช.กลับใช้โอกาสนี้กำหนดเงื่อนไข 5 ข้อดังกล่าวออกมา
ดังนั้น มูลนิธิจึงร่วมกับประชาชนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองอุดรธานี เพื่อขอความเมตตาจากศาล วินิจฉัยให้ความเป็นธรรมสถานีวิทยุเสียงธรรมทั้ง 128 สถานีออกอากาศได้ต่อไป ซึ่งศาลปกครองอุดรธานีประทับรับฟ้องคดีดำ หมายเลข 106 /2557