ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้เป็นตัวแทนกระทรวงแรงงานเข้าร่วมประชุมคณะทำงานจัดทำร่างตราสารอาเซียน ว่าด้วยการปฏิบัติให้เป็นไปตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานต่างด้าว หรือ ปฏิญญาเซบู ซึ่งมี 9 ประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมยกเว้นเวียดนามที่ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่า หลักการของกรอบร่างตราสารอาเซียนฯควรกำหนดให้ประเทศที่เป็นผู้ส่งแรงงานและรับแรงงานขจัดการใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมายและไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบ นอกจากนี้ จะต้องดูแลแรงงานต่างด้าวให้ได้รับการคุ้มครองและมีการแจ้งแรงงานต่างด้าวให้ได้รับทราบถึงสิทธิตามสัญญาจ้างและดูแลการจ่ายค่าจ้าง สิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ รวมถึงมีความสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม
รองปลัด รง. กล่าวอีกว่า หลังจากกำหนดหลักการข้างต้นแล้วทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนคือ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ส่งแรงงาน และประเทศผู้รับแรงงานคือ บรูไน มาเลเซียและสิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทยซึ่งเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับแรงงานจะประชุมร่วมกันอีกประมาณ 3
ครั้งภายในสิ้นปีนี้เพื่อร่วมกันกำหนดสิทธิของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และกำหนดรูปแบบของร่างตราสารว่าจะให้มีผูกพันหรือไม่ผูกพันตามกฎหมาย ทั้งนี้ หลังจากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปแน่นอนแล้วทั้ง 10 ประเทศจะร่วมกันประกาศตราสารอาเซียนฯในปีหน้า ซึ่งตนเชื่อว่าการที่มีตราสารอาเซียนฯนี้จะเป็นหนทางหนึ่งในการป้องกันและแก้ปัญหาค้ามนุษย์ในไทยและกลุ่มประเทศอาเซีย
รองปลัด รง. กล่าวอีกว่า หลังจากกำหนดหลักการข้างต้นแล้วทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนคือ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ส่งแรงงาน และประเทศผู้รับแรงงานคือ บรูไน มาเลเซียและสิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทยซึ่งเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับแรงงานจะประชุมร่วมกันอีกประมาณ 3
ครั้งภายในสิ้นปีนี้เพื่อร่วมกันกำหนดสิทธิของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และกำหนดรูปแบบของร่างตราสารว่าจะให้มีผูกพันหรือไม่ผูกพันตามกฎหมาย ทั้งนี้ หลังจากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปแน่นอนแล้วทั้ง 10 ประเทศจะร่วมกันประกาศตราสารอาเซียนฯในปีหน้า ซึ่งตนเชื่อว่าการที่มีตราสารอาเซียนฯนี้จะเป็นหนทางหนึ่งในการป้องกันและแก้ปัญหาค้ามนุษย์ในไทยและกลุ่มประเทศอาเซีย
