xs
xsm
sm
md
lg

เจ๊เพ็ญ-จารุพงศ์ นักปฏิวัติ (โคตรฮา) !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 ทำเป็นถือฤกษ์ตอนย่ำรุ่ง วันที่ 24 มิ.ย. ออกแถลงการณ์เปิดตัว องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย คงจะเลียนแบบและสร้างบรรยากาศย้อนไปถึงวันที่ "คณะราษฎร์" ก่อการยึดอำนาจ เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย (แต่ในนาม) เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2475 แต่ที่คราวนี้ที่น่าขำก็คือ พวกที่ก่อการล้วนเป็น "ข้าทาส" สมุนปลายแถวของ ทักษิณ ชินวัตร โจรปล้นชาติ เป็นทรราชย์ที่ปล้นคนไทย ปล้นทรัพยากรของชาติไปเป็นของส่วนตัวและครอบครัว จนบ้านเมืองฉิบหายป่นปี้
00 แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนพวกนี้จะยังมีความพยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อหวังว่าจะรักษา หรือหวนคืนสู่อำนาจอีกครั้ง เพราะผลจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จากคสช. ที่รัฐประหารยึดอำนาจจากพวกเขาไปนั้น มันสร้างผลกระทบที่รุนแรง และไม่เคยเป็นมาก่อน ก็ต้องหาทางสู้ แม้ว่าในความเป็นจริงมันจะห่างไกลนักก็ตาม แต่เมื่อคิดว่ายังมีหวัง มีทุนสนับสนุนจากเงินที่โกงชาติไปให้ทำก็ต้องทำกันต่อไป หวังเผื่อฟลุ๊ก ดีกว่าอยู่เฉยๆ
00 สำหรับตัวบุคคลที่ประกาศตัวออกมาเป็นหัวหน้าก็คือ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่เพิ่งมีการให้ข่าวจากคนในพรรคเพื่อไทย ว่า ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. แต่เพิ่งเป็นข่าวรับรู้กันเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาก่อนที่จะมาเป็น เลขาธิการองค์กรเสรีไทยฯ อะไรนั่น และมีการเปิดตัว ในวันที่ 24 มิ.ย. มีการเผยแพร่คลิปอ่านแถลงการณ์ทางเฟซบุ๊ก ส่วนอีกคนที่เป็นคู่หู่ในการปฏิวัติย่ำรุ่งคราวนี้ก็คือ จักรภพ เพ็ญแข สวมตำแหน่งเลขานุการบริหารองค์กรเสรีไทยฯ คราวนี้ด้วย คงสนุกกันใหญ่ละพี่น้อง !!
00 ถ้าจะเอามัน ก็คงไม่มีปัญหา ทำได้อยู่แล้วตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริงนี่สิมันตลก ทั้งในด้านศักยภาพตัวบุคคล ทั้งคู่ไม่ค่าแทบต่ำกว่าศูนย์ความหมายก็คือ"เรียกแขก"ไม่ได้เลย จะเรียกว่าเป็นนักปฏิวัติชนชั้นที่ผิดคิว ไม่รู้จักกาละเทศะ ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ที่สำคัญคนพวกนี้ไม่เคยมีประวัติร่วมต่อสู้กับมวลชน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนทั้งสิ้น เคยแต่เป็นขี้ข้า ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตอนนั้นก็เป็นได้แค่ขี้ข้าปลายแถว เพิ่งได้เผยอหน้า มีความสำคัญขึ้นมาบ้างในยุคผู้นำ"สมองกลวง" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่แหละเมื่อแถวหนึ่งแถวสองถูกบังคับให้เว้นวรรคทางการเมือง มองในแง่บวกก็อาจจะได้แนวร่วมที่เป็นคนเสื้อแดงที่คุ้นเคยมาก่อนกันได้บ้าง แต่คนทั่วไปละจะเอาด้วยหรือมีอารมณ์ร่วมหรือเปล่า นี่สิคือปัญหา
00 การออกแถลงการณ์ การใช้สื่ออนไลน์ออกแถลงการณ์ หรือเคลื่อนไหวผ่านสื่อประเภทนี้ในยุคสมัยใหม่ ใครก็ทำได้ แต่ความหมายก็คือมันจะสามารถสร้างแรงดึงดูดได้หรือเปล่า ซึ่งพิจารณาจากเครดิตตัวบุคคล อย่าคิดเป็นนักปฏิวัติประชาธิปไตย ที่เป็นเรื่องใหญ่เลย แค่ระดมมวลชนระดับหมู่บ้านชุมชนหนึ่ง ก็ยังทำไม่ได้เลย ดังนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นของทั้งคู่จึงถือว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน เป็นคู่หูคู่ฮาคู่ใหม่ และคนที่ถูกลากลงรูไปด้วยก็คือ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่ต้องกลายมาเป็นเครื่องมือให้ "เจ๊เพ็ญ" จักรภพ เพ็ญแข เชิดชักปากจนได้
00 สำหรับ คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อว่าคงจะไม่มีอาการหวั่นไหวอะไร เพราะยิ่งมีการแถลงการณ์ตอบโต้ ก็ยิ่งเหมือนกับไปกระพือ ยกระดับความสำคัญให้พวกกระจอกพวกนี้เพิ่มขึ้นไปอีก เพราะตราบใดที่ คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังดำเนินการอยู่นั้นยังอยู่ในเส้นทางปฏิรูปเพื่อคนส่วนใหญ่ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง มันก็ไม่มีปัญหา ความหมายตรงๆก็คือ หาก "ไม่โกง ไม่บ้าอำนาจ ไม่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว" แล้วไซร้ ก็ไม่มีปัญหา สิ่งเหล่านี้จะเป็นยันต์กันภัยให้อย่างดี อย่างน้อยก็พิสูจน์ให้เห็นในเบื้องต้นมาแล้ว จากสารพัดโพล ที่ให้คะแนนเกือบเต็มสิบ ขณะเดียวกันยังหนุนให้เขานั่งเก้าอี้นายกฯ เสียเองอีกด้วย สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าชาวบ้าน ยังไว้ใจและเชื่อมั่น แต่วันใดก็ตาม ถ้าออกมาในทางตรงข้ามนั่นแหละ สหบาทาจะมาเยือนทันที !!
00 พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคสช. ก็ต้องบอกว่านับจากนี้ไปจะเริ่มเข้าสู่การพิสูจน์ที่เข้มข้นว่า "ของจริงหรือว่าของปลอม" กันแล้ว เพราะถือว่าเมื่อผ่านช่วง 1 เดือน เข้าสู่เดือนที่สอง สาม จะผ่านช่วงฮันนีมูนออกไปเรื่อยๆ ต่อไปจะขึ้นอยู่กับฝีมือล้วนๆ ยิ่งในสภาวะที่ทั้งในและนอกประเทศกำลังจ้องมองกันตาไม่กระพริบ พลาดมาเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากผลงานที่เริ่มต้นก็ต้องบอกว่ายังไม่มีอะไรเสียหาย แต่ต่อไปจะเจอแต่งานหิน ต้องเลือกระหว่างพวกพ้องน้องพี่ และส่วนรวมเดี๋ยวก็รู้ว่าผ่านหรือไม่
00 ได้เห็นท่าทางเอาจริงเอาจังของตำรวจ กับการติดตามจับกุมพวกหมิ่นสถาบันฯ ไม่ว่าจะเป็น "ตั้งอาชีวะ หรือ โรส อะไรนั่น แม้ว่าเป็นเรื่องถูกต้องที่ต้องเร่งตามล่ามาดำเนินคดีตาม กม. ซึ่งสมควรดำเนินการมาตั้งนานแล้ว แต่คำถามก็คือ คนพวกนี้มันแค่ปลายแถว ทำไมไม่สนใจตัวใหญ่ที่เป็นต้นตอของปัญหาโดยเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีเจตนาจาบจ้วงเบื้องสูงมาอย่างต่อเนื่อง มีทั้งภาพและเสียงชัดเจน หรือแม้แต่เรื่องบรรทัดฐานทางกม. พื้นๆในเรื่องการเพิกถอนหนังสือเดินทาง การริบเครื่องราชย์ การถอดยศกับอาชญากรหนีคดีที่ศาลพิพากษาถึงที่สุด ทำไมไม่ติดตาม ไม่ขอตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน (วะ) ถ้าไม่ทำ มันก็ไม่ต่างจากการเลือกปฏิบัติ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น