xs
xsm
sm
md
lg

บมจ.กรุ๊ปลิสทุ่ม 1.5 พันล.ฮุปธุรกิจเช่าซื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-บมจ.กรุ๊ปลีส ทุ่ม 1,500 ล้านบาท ขยายฐานธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และสินเชื่อเพื่อรายย่อย ด้วยการซื้อกิจการบริษัทธนบรรณ จากธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ในเครือไทยประกันชีวิต คาดดันยอดรวมเพิ่มกว่า 30% ทะลุ 6,200 ล้านบาท

นายมิทซึจิ โคโนซิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทกรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ธนบรรณ จำกัด จำนวน 5,649,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของธนบรรณ รวมมูลค่าไม่เกิน 1.53 พันล้านบาท (รวมหนี้สินและภาระผูกพันทั้งหมด)จากธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อยโดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงที่จะปฏิบัติกับพนักงานทั้งหมดกว่า 400 คนของธนบรรณเป็นอย่างดี โดย GL จะยินดีต้อนรับพนักงานเหล่านี้เข้าสู่ GL ทั้งหมด
สำหรับข้อตกลงซื้อกิจการของธนบรรณในครั้งนี้ GL จะทำให้สาขาของบริษัทฯเพิ่มขึ้นอีก 8 สาขา ซึ่งจะรวมเป็นทั้งสิ้น 14-15 สาขา รวมถึง GL จะรับโอนยอดสินเชื่อทั้งหมดของธนบรรณเป็นมูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และอีกส่วนเป็นสินเชื่อเพื่อรายย่อย โดยหากนำสินเชื่อของธนบรรณมารวมเข้ากับพอร์ตสินเชื่อของ GL เอง ที่ปัจจุบันมียอดอยู่ประมาณ 4,700 ล้านบาท จะทำให้ยอดสินเชื่อรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นกว่า 30% หรือเป็นยอดรวม 6,200 ล้านบาท จากปัจจุบันมียอดสินเชื่ออยู่ที่ 4,700 ล้านบาท
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL บริษัทฯมองว่าจะเริ่มปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองส่งผลให้สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย มีการจ่ายเงินจำนำข้าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น โดยยอด NPL ของธนบรรณ อยู่ที่ 4.5-5% จากเดิมมียอด NPL ที่ 8% ทั้งนี้ยอด NPL จะบันทึกเข้ามากับบริษัทฯหรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการโอนถ่าย NPL ไปยังบริษัทย่อยของบริษัทฯอย่างแน่นอน
นายมิทซึจิ กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นของบริษัท ธนบรรณในครั้งนี้เป็นการรวมธุรกิจส่วนที่บริษัทไม่มีเข้ามาเสริมธุรกิจหลักด้วย อาทิ Auto for cash สินเชื่อจักรยานยนต์มือสอง ถือเป็นการเตรียมพร้อมที่จะรุกเข้าสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเลือกที่จะเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว และกัมพูชาก่อน
“ตลาด AEC เป็นตลาดขนาดใหญ่ ขณะที่ผู้ปะกอบธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มักจะเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กๆ จึงเชื่อว่าแนวโน้มต่อไปน่าจะมีการรวมตัวกันของธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทก็พร้อมที่จะพิจารณาซื้อหุ้นหรือพอร์ตใดๆที่มีความเหมาะสมในระยะต่อไป” นายมิทซึจิ กล่าว
ด้านนายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกรรมครั้งนี้เป็นการนำผู้นำของผู้ให้บริหารสินเชื่อรถจักรยานยนต์ชั้นนำสองแห่งมารวมกัน ซึ่งก่อให้เกิดผู้นำที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นสำหรับอนาคตของธุรกิจ เราเชื่อว่านี่เป็นโอกาสอันดีต่อลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย และพนักงานในการเติบโตไปข้างหน้าภายใต้การบริหารของ GL ที่จะนำพาธุรกิจนี้ไปข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น