ASTV ผู้จัดการรายวัน - พบอาวุธสงครามริมถนนกาญจนาภิเษก บางบัวทอง-ป่าหญ้าริมถนนชัยพฤกษ์ หน้าโครงการสมบัติบุรี ประสานชุดอีโอดีเก็บกู้ คาดผู้ครอบครองกลัวความผิด รรท.ผบ.ตร. ยังคงกัดดันผู้ครอบครองอาวุธสงคราม วัตถุระเบิดอย่างต่อเนื่อง
วานนี้ (10 มิ.ย.) พ.ต.อ.มาโนช รัตนโชติ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารลาดตระเวนว่าพบอาวุธสงครามบรรจุอยู่ในถุงกระสอบปุ๋ยบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้าจาก อ.บางบัวทอง มุ่งหน้า อ.บางใหญ่ หน้าโครงการสมบัติบุรี หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงรายงาน พล.ต.ต.ศรีวรา รังสิพรามหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD เจ้าหน้าที่ทหารจาก ปตอ.1 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบกระสอบปุ๋ยสีขาวจำนวน 2 ใบ ภายในบรรจุอาวุธสงครามและคลุมด้วยผ้าถูกทิ้งอยู่ใกล้กับอาคารสำนักงานโครงการสมบัติบุรี ติดริมถนนกาญจนาภิเษก โดยอาวุธสงครามที่พบประกอบด้วย ซองกระสุนปืน 5 อัน, ปืนยาวไรเฟิล 1 กระบอก, ปืนยาวคาร์บิน 1 กระบอก, ปืนยาวไม่ทราบขนาด 1 กระบอก, ปลายกระบอกปืน M78 จำนวน 1 อัน, กระสุนปืนไรเฟิล 238 นัด, กระสุนปืนคาร์บิน 20 นัด, กระสุนปืน M79 จำนวน 4 นัด, กระสุนปืนยาวขนาด 88 จำนวน 4 นัด, ระเบิดเพลิง 4 ลูก, ระเบิดควัน 4 ลูก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบลายนิ้วมือเพื่อหาผู้ที่นำมาทิ้งไว้ จากการพบอาวุธครั้งนี้เป็นการประสานงานกันระหว่างทหารและตำรวจในการกำชับการตรวจค้นเพื่อกดดันทุกรูปแบบ ด้านทหารได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ให้ผู้ที่ครอบครองอาวุธสงครามนำมามอบให้เจ้าหน้าที่โดยไม่มีการดำเนินคดี แต่ไม่มีใครนำมาคืนจึงได้นำมาทิ้งไว้เนื่องจากกลัวความผิด
นอกจากนี้ ร.ต.ท.ปรเมษฐ์ ดวงแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองข่อย ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่สภาพใหม่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าหญ้าข้างทางบริเวณปากซอยศรีตัญญู ถ.ชัยพฤกษ์ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงรายงาน พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่
จากการตรวจสอบกระเป๋าดังกล่าวพบเครื่องยิงอาร์พีจี รุ่นพีจี 2 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมแมกกาซีน 1 กระบอก, ปืนกลมือทอมสันพร้อมแมกกาซีน 1 กระบอก, ระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก, กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 30 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม.30 นัด พานท้ายปืนเอ็ม 16 จำนวน 9 อัน, ประกับปืนเอ็ม 16 จำนวน 9 อัน และชิ้นส่วนประกอบปืนเอ็ม 16 อีกเป็นจำนวนมาก จึงยึดไว้ตรวจสอบพร้อมเก็บลายนิ้วมือแฝงบนอาวุธเพื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ที่เป็นเจ้าของอาวุธสงครามดังกล่าวน่าจะกลัวความผิดจึงได้นำอาวุธดังกล่าวใส่กระเป๋ามาทิ้งไว้ก่อนจะหลบหนีไป
****ทหาร-ตร.สนธิ ลุยกวาดอชญ.
ที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.สส.บก.น.7 และเจ้าหน้าที่ทหารป.พัน 9 ร่วมกันแถลงข่าว การกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดภายใต้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ ทหารอละตำรวจได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย 5 แห่งได้ตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติดคือ นายอภินันท์ ประชาธิรัตน์ นายสมชาย สุขประเสริฐ นางสาวปทุม เอื้องทองคำ นายพิชิต หยกเล็ก นายรังสรรค์ ตันติชวโอชานนท์ นายอำนาจ เกตุกลิ่นหอม ยึดของกลางยาบ้ารวม 1,200 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง เล็ก ยาอี 80 เม็ด ยาเคตามีน 110 ขวด เงินสดที่ได้จากการซื้อขาย 80,000 บาทและ รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีขาว ทะเบียน 2 กณ-1087กรุงเทพมหานคร จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงาน สอบสวนแต่ละท้องที่ดำเนินการตามกฎหมาย
*** สตช.กดดันจับอาวุธสงคราม
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางคสช.ได้ประกาศขอความร่วมมือคนที่ครอบครองอาวุธสงคราม อาวุธปืน วัตถุระเบิด ให้ส่งมอบกับทางการ ทางตร.เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีถึงแม้ว่ากำหนดของคสช.จะสิ้นสุดลงและไม่ได้ขยายเวลาออกไป แต่ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบนโยบายไปว่าให้ประชาสัมพันธ์และกดดันในพื้นที่ต่างๆ จะมาทิ้งหรือมาคืนก็แล้วแต่ ถ้าเราสามารถยึด อายัดอาวุธเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ก็จะทำให้สังคมปลอดจากความรุนแรงเพราะอาวุธเหล่านี้ได้ใช้ไปกระทำความผิด
รรท.ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำหนดให้รณรงค์ปราบปรามอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.เป็นต้นไปโดยเน้น 2-3 เรื่องด้วยกันคือ เรื่องอาวุธปืน อบายมุข ยาเสพติด เป็นนโยบายสำคัญที่ต้องเอาใจใส่อย่างจริงจัง ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้ประชาชนมั่นใจว่าว่าเขาจะมีความปลอดภัย.
วานนี้ (10 มิ.ย.) พ.ต.อ.มาโนช รัตนโชติ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารลาดตระเวนว่าพบอาวุธสงครามบรรจุอยู่ในถุงกระสอบปุ๋ยบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้าจาก อ.บางบัวทอง มุ่งหน้า อ.บางใหญ่ หน้าโครงการสมบัติบุรี หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงรายงาน พล.ต.ต.ศรีวรา รังสิพรามหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD เจ้าหน้าที่ทหารจาก ปตอ.1 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบกระสอบปุ๋ยสีขาวจำนวน 2 ใบ ภายในบรรจุอาวุธสงครามและคลุมด้วยผ้าถูกทิ้งอยู่ใกล้กับอาคารสำนักงานโครงการสมบัติบุรี ติดริมถนนกาญจนาภิเษก โดยอาวุธสงครามที่พบประกอบด้วย ซองกระสุนปืน 5 อัน, ปืนยาวไรเฟิล 1 กระบอก, ปืนยาวคาร์บิน 1 กระบอก, ปืนยาวไม่ทราบขนาด 1 กระบอก, ปลายกระบอกปืน M78 จำนวน 1 อัน, กระสุนปืนไรเฟิล 238 นัด, กระสุนปืนคาร์บิน 20 นัด, กระสุนปืน M79 จำนวน 4 นัด, กระสุนปืนยาวขนาด 88 จำนวน 4 นัด, ระเบิดเพลิง 4 ลูก, ระเบิดควัน 4 ลูก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบลายนิ้วมือเพื่อหาผู้ที่นำมาทิ้งไว้ จากการพบอาวุธครั้งนี้เป็นการประสานงานกันระหว่างทหารและตำรวจในการกำชับการตรวจค้นเพื่อกดดันทุกรูปแบบ ด้านทหารได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ให้ผู้ที่ครอบครองอาวุธสงครามนำมามอบให้เจ้าหน้าที่โดยไม่มีการดำเนินคดี แต่ไม่มีใครนำมาคืนจึงได้นำมาทิ้งไว้เนื่องจากกลัวความผิด
นอกจากนี้ ร.ต.ท.ปรเมษฐ์ ดวงแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองข่อย ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่สภาพใหม่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าหญ้าข้างทางบริเวณปากซอยศรีตัญญู ถ.ชัยพฤกษ์ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงรายงาน พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่
จากการตรวจสอบกระเป๋าดังกล่าวพบเครื่องยิงอาร์พีจี รุ่นพีจี 2 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมแมกกาซีน 1 กระบอก, ปืนกลมือทอมสันพร้อมแมกกาซีน 1 กระบอก, ระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก, กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 30 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม.30 นัด พานท้ายปืนเอ็ม 16 จำนวน 9 อัน, ประกับปืนเอ็ม 16 จำนวน 9 อัน และชิ้นส่วนประกอบปืนเอ็ม 16 อีกเป็นจำนวนมาก จึงยึดไว้ตรวจสอบพร้อมเก็บลายนิ้วมือแฝงบนอาวุธเพื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ที่เป็นเจ้าของอาวุธสงครามดังกล่าวน่าจะกลัวความผิดจึงได้นำอาวุธดังกล่าวใส่กระเป๋ามาทิ้งไว้ก่อนจะหลบหนีไป
****ทหาร-ตร.สนธิ ลุยกวาดอชญ.
ที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.สส.บก.น.7 และเจ้าหน้าที่ทหารป.พัน 9 ร่วมกันแถลงข่าว การกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดภายใต้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ ทหารอละตำรวจได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย 5 แห่งได้ตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติดคือ นายอภินันท์ ประชาธิรัตน์ นายสมชาย สุขประเสริฐ นางสาวปทุม เอื้องทองคำ นายพิชิต หยกเล็ก นายรังสรรค์ ตันติชวโอชานนท์ นายอำนาจ เกตุกลิ่นหอม ยึดของกลางยาบ้ารวม 1,200 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง เล็ก ยาอี 80 เม็ด ยาเคตามีน 110 ขวด เงินสดที่ได้จากการซื้อขาย 80,000 บาทและ รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีขาว ทะเบียน 2 กณ-1087กรุงเทพมหานคร จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงาน สอบสวนแต่ละท้องที่ดำเนินการตามกฎหมาย
*** สตช.กดดันจับอาวุธสงคราม
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางคสช.ได้ประกาศขอความร่วมมือคนที่ครอบครองอาวุธสงคราม อาวุธปืน วัตถุระเบิด ให้ส่งมอบกับทางการ ทางตร.เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีถึงแม้ว่ากำหนดของคสช.จะสิ้นสุดลงและไม่ได้ขยายเวลาออกไป แต่ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบนโยบายไปว่าให้ประชาสัมพันธ์และกดดันในพื้นที่ต่างๆ จะมาทิ้งหรือมาคืนก็แล้วแต่ ถ้าเราสามารถยึด อายัดอาวุธเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ก็จะทำให้สังคมปลอดจากความรุนแรงเพราะอาวุธเหล่านี้ได้ใช้ไปกระทำความผิด
รรท.ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำหนดให้รณรงค์ปราบปรามอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.เป็นต้นไปโดยเน้น 2-3 เรื่องด้วยกันคือ เรื่องอาวุธปืน อบายมุข ยาเสพติด เป็นนโยบายสำคัญที่ต้องเอาใจใส่อย่างจริงจัง ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้ประชาชนมั่นใจว่าว่าเขาจะมีความปลอดภัย.
