xs
xsm
sm
md
lg

ข้อหาฝืนคำสั่งคสช.-ยุยงให้ปั่นป่วน จาตุรนต์ขึ้นศาลทหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.45 น. วานนี้(28พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารได้ควบคุมตัว นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งกระทำผิดฐานขัดขืนคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และยุยงส่งเสริมให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน เดินทางมาสอบสวนที่กองปราบปราม
ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ ได้ถูกควบคุมตัวมาโดยรถตู้ สีขาว ทะเบียน ฮธ 9337 กรุงเทพมหานคร มีกำลังทหารกว่า 10 นาย เฝ้ารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อมาถึง นายจาตุรนต์ ไม่ได้มีสีหน้าที่แสดงความวิตกกังวลแต่อย่างใด สวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีฟ้า แขนยาว กางเกงสีดำ เดินลงจากรถมาพบกับพ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ที่รอรับอยู่ จากนั้นจึงพากันเดินขึ้นไปยังห้องประชุมสุรสีหนาท ชั้น 2 ทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีนางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยาของนายจาตุรนต์ พร้อมทนายความ เดินทางตามมาที่ บก.ป. เพื่อเตรียมประสานเกี่ยวกับการยื่นขอประกันตัว
ในระหว่างนั้น ทางพนักงานสอบสวนที่เตรียมพร้อมรอสอบปากคำ นายจาตุรนต์ ได้ทยอยกันเข้าห้องไปสอบปากคำนายจตุรนต์ ทันที โดยทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งของคสช. และยุยงส่งเสริมให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ซึ่งนายนายจาตุรนต์ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ใช้เวลาสอบสวนประมาณ 1 ชั่วโมง หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนแจ้งข้อหาแล้ว ทางสารวัตรทหารได้ร่วมกับพนักงานสอบสวน บก.ป. ควบคุมตัวนายจาตุรนต์ ไปขึ้นศาลทหารต่อไป โดยนายจาตุรนต์ นับว่าเป็นพลเรือนคนแรก ที่ถูกนำตัวไปดำเนินคดีใน ศาลทหาร หลังจากมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายจาตุรนต์ ออกมาจากห้องสอบสวน และกำลังเดินเพื่อจะไปขึ้นรถ นายจาตุรนต์ กล่าวกับผู็สื่อข่าวว่า "สบายดี แต่ไม่ทราบว่า เมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ทหารพาไปที่ไหน เป็นเหมือนที่คุมขัง"
ผู้สื่อข่าวถามว่าถูกผูกตาหรือเปล่า นายจาตุรนต์ พยักหน้า พร้อมทั้งกล่าวว่า ฝากบอกประชาชนทั่วไปว่า ไม่ต้องเป็นห่วงตนจะสู้คดีถึงที่สุด ก่อนจะเดินขึ้นรถตู้ โดยมี พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. และเจ้าหน้าที่ทหาร คุมตัวไปในรถคันเดียวกันไปยังศาลทหาร

**ศาลทหารให้'จาตุรนต์'มีทนายแก้ต่างได้

พล.ร.ท.กฤษฎา เจริญพานิช หัวหน้าสำนักตุลาการศาลทหาร กล่าวถึงขั้นตอนการพิจารณาคดี นายจาตุรนต์ ที่ไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งของ คสช. ว่า ก็เหมือนกับคดีอาญาทั่วไป แต่ขณะนี้เป็นพิจารณาของศาลทหารในเวลาไม่ปกติ โดยจำเลยสามารถมีทนายความแก้ต่างได้ตามธรรมนูญศาล ถ้ารับสารภาพ ก็ไม่ต้องรอสืบพยาน สามารถตัดสินคดีได้เลย แต่ถ้าปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ก็ต้องใช้เวลาในการพิจารณาเพื่อให้ฝ่ายโจทก์ยื่นพยานนำสืบ ตาม ป.วิอาญา ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่า ใช้เวลากี่วัน ถึงจะพิจารณาเสร็จสิ้น แต่จะให้รวดเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ในระหว่างพิจารณาคดี สามารถฝากขังได้ ครั้งละ 12 วัน จนครบ 84 วัน ซึ่งคาดจะใช้เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ในการควบคุมตัว ยอมรับว่า หลังจากนี้ คงมีคดีความจำนวนมากเข้าสู่การพิจารณาของศาลทหาร ซึ่งศาลก็ต้องทำงานหนักขึ้น แม้จะมีตุลาการศาลทหารจำกัด แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด และเร็วที่สุด
ทั้งนี้ในคดีความที่ฝ่าฝืน หรือขัดคำสั่ง คสช. ต้องระวางโทษ จำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรณี นายจาตุรนต์ ถือเป็นพลเรือนคนแรก ที่ถูกนำขึ้นศาลทหาร

**ราชทัณฑ์พร้อมรับตัวผู้ต้องขังจากศาลทหาร

พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณี คสช. มีคำสั่งที่ 44/2557 ให้เรือนจำกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติตามหมายของศาลทหาร ว่า กรมราชทัณฑ์พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งคสช. หากมีการส่งตัวผู้ต้องขังจากศาลทหาร โดยเตรียมส่งตัวผู้ต้องขังเข้าควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เบื้องต้นเชื่อว่า มีความสามารถในการรองรับผู้ต้องขังเหล่านี้ เพราะน่าจะมีจำนวนไม่มาก ซึ่งเท่าที่เรียกไปรายงานตัวเพิ่งจะมีส่งตัวขึ้นศาลทหารเพียงรายเดียว คือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ
ส่วนการจะย้ายตัวผู้ต้องขังในกลุ่มนี้ไปไว้ที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ได้หรือไม่นั้น พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ ถือเป็นเรือนจำสาขาของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ การจะแยกไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวหรือไม่ ผบ.เรือนจำ จะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม แต่ยังต้องขึ้นอยู่กับนโยบายขอ งคสช.

**แกนนำกปปส.มอบตัวดีเอสไอข้อหากบฏ

ในวันเดียวกันนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 8 ศูนย์ราชการ อาคาร บี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ พร้อมด้วย พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี และนายมั่นแม่น กะการดี 3 แกนนำ กปปส. ที่ดีเอสไอขออนุญาตศาลออกหมายจับข้อหากบฏและอื่นๆ อีก 8 ข้อหา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมี พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษเป็นผู้รับมอบตัว และสอบปากคำตามขั้นตอน ก่อนอนุญาตให้ประกันตัววงเงินคนละ 100,000 บาท
ต่อมานายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส. และอดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินทางเข้าพบพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ที่ศูนย์ราชการอาคาร บี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีกบฏ โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจบริเวณหน้าห้องสอบสวนด้วย
สำหรับนายอิสสระ นอกจากถูกดำเนินคดีข้อหากบฏแล้ว ยังมีหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าและทำร้ายผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพจนได้รับอันตราย กรณีนายยืม นิลหล้า อายุ 33 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต โดยมีการนำร่างโยนทิ้งแม่น้ำบางปะกง ถนนบางนา-ตราด กม.50 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นนายอิสสระ แจ้งพนักงานสอบสวนว่า หลังให้ปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะเดินทางไปมอบตัวสู้คดีดังกล่าวด้วยตนเอง ที่ สภ.บางปะกง

**"ชวน"ร่วมเป็นพยานสู้คดีกบฏ

นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. กล่าวถึงแนวทางในการต่อสู้คดีของ กปปส. หลังจากได้รับการประกันตัวในข้อกบฏว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะชี้แจงเป็นรายลักษณ์อักษร เพื่อส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานอัยการสูงสุด แผนกคดีพิเศษ เพื่อหักล้างข้อกล่าวหาของดีเอสไอ และ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบแห่งชาติ (ศอ.รส.) เพื่อชี้ให้เห็นว่าการดำเนินการที่ผ่านมาของ กปปส.ไม่ใช่กบฏ และยืนยันว่า เอกสารคำส่งฟ้องที่ดีเอสไอ ยื่นต่ออัยการคดีพิเศษ กว่า 50,000 หน้า ทางอัยการใช้เวลาอ่านเพียง 5-6 วัน ซึ่งยืนยันว่า เป็นการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่ให้สิทธิการรับรองการชุมนุมของประชาชนโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่มีการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 แต่อย่่างใด ซึ่งในกรณีนี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยยกคำร้องในเรื่องนี้มาก่อนแล้วจึงเป็นแนวทางในการต่อสู้
นายถาวร กล่าวว่า ได้อ้างพยานบุคคล และองค์กรเช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ รอง ผบช.น. และ ผกก.สน. ในท้องที่ต่างๆ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยืนยันว่า การเคลื่อนไหวที่ผ่านมาไม่เข้าข่ายความผิดฐานกบฏ ซึ่งต่อจากนี้จะได้มีการหารือกันอีกครั้งในคณะทำงานด้านกฎหมายอีกครั้ง

**"หลวงปู่ฯ"ให้ปากคำดีเอสไอเพิ่ม

ด้านหลาวงปู่พุทธะอิสระ แกนนำกปปส. เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และอัยการ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน ข้อหากบฏและข้อหาอื่น หลังได้เข้ามอบตัวไปแล้ว โดยระบุว่า พร้อมต่อสู้คดีและได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา รับเพียงข้อหาปิดกั้นการจราจร ส่วนข้อหาขัดขวางการเลือกตั้งได้ประสานให้ผู้อำนวยการเขตหลักสี่เป็นพยาน เนื่องจากขณะนั้นมีหลักฐานยืนยันได้ว่า ที่ต้องปิดเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย สำหรับข้อหากบฏ เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองช่วยเป็นพยานยืนยันให้ได้
" หลังจากนี้ 30 วัน พนักงานสอบสวนให้อาตมาส่งคำแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามระหว่างการสอบปากคำมีโอกาสได้พูดคุยกับพนักงานสอบสวน เรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะตำรวจ ซึ่งไม่ว่ากฎหมายจะเขียนอย่างไร ก็ไม่สำคัญเท่ากับจิตสำนึกของคนใช้กฎหมาย ที่จะต้องปลูกฝังที่ให้มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม ยึดมั่นความถูกต้อง ขณะนี้ประชาชนควรให้ความร่วมมือกับทหาร ที่จะแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองให้ลุล่วง"
หลวงปู่ฯ กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสี นำความไว้วางใจที่เคยให้กับนักการเมืองที่ทำให้เจ็บช้ำ มามอบให้ทหาร เพื่อให้ทำหน้าที่ในการปฏิรูปบ้านเมือง ที่ผ่านมาลูกนักการเมืองตั้งบ่อน ตู้ม้า ตู้เกม โต๊ะบอล หวยเถื่อน ตลอด 24 ชั่วโมง ชาวบ้านส่งข้อมูลกับรูปมาให้ ซึ่งเรื่องนี้ จะสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงการดำเนินการกับคนกลุ่มนี้ต่อไป
สำหรับวันนี้ (29 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ จะมีชาวนาแถบจังหวัดภาคกลาง ที่ได้รับเงินจำนำข้าวแล้ว จะเดินทางไปรวมกลุ่มกันให้กำลังทหาร พร้อมยื่นเรื่องให้ผลักดันการตั้งสภาชาวนาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าให้ปากคำครั้งนี้ ดีเอสไอ ได้จัดสถานที่ให้หลวงปู่พุทธะอิสระ พบพนักงานสอบสวนที่บ้านเรือนไทย ริมถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นสถานที่พักของหลวงปู่พุทธะอิสระ ในช่วงที่มีการชุมนุม โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ขณะที่มีญาติโยมและประชาชนกลุ่ม กปปส. จำนวนหนึ่งเดินทางมาต้อนรับ และถวายภัตตาหารเพล

**ชุมชนมุสลิมมอบดอกไม้ให้กำลังใจตร.

เวลา 16.00 น.วานนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รอง ผบช.น. ผู้บัญชาการกองร้อย และรอง ผบก.น.1-9 มารับช่อดอกไม้จาก นายฮิมรอน สว่างนวล ตัวแทนมัสยิดดินแดง และประชาชนในชุมชนสวนอ้อย ที่เดินทางมามอบช่อดอกไม้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ที่ผ่านมา รวมทั้งมอบเครื่องดื่มชูกำลังแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย
นายฮิมรอน กล่าวว่า ตนไม่รู้จะต้องติดต่อเข้ามามอบดอกไม้แก่เจ้าหน้าที่อย่างไร จึงติดต่อไปที่ พล.1 ขอร้องให้ติดต่อเข้า บช.น.เพื่อมอบช่อดอกไม้และกล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะที่ผ่านมารู้สึกสงสารเจ้าหน้าที่ที่คอยปฏิบัติหน้าที่เรื่อยมา และในวันนี้รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้มีโอกาสมามอบช่อดอกไม้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
กำลังโหลดความคิดเห็น