xs
xsm
sm
md
lg

ดีเดย์ล่าใบลาออกรมต.วันนี้ สรส.นัดหยุดงาน22พ.ค.จี้'บิ๊กตู่'เจ้าภาพแก้วิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"สุเทพ" ประกาศ"ไทม์ไลน์" ปฏิบัติการการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ดีเดย์บุกไล่ล่าใบลาออกของรัฐมนตรีวันนี้ พนักงานรัฐวิสาหกิจหยุดงานตั้งแต่ 22 พ.ค. 23-24-25 พ.ค.ชุมนุมใหญ่ 2 จุด บนถนนราชดำเนิน และถนนสุขุมวิท 26 พ.ค. ชุมนุมใหญที่ท้องสนามหลวง ประกาศความสำเร็จในการยึดคืนอำนาจอธิปไตย 27 พ.ค.ฉลองชัยชนะ เริ่มต้นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อดีตขรก.จี้'ประยุทธ์'เป็นเจ้าภาพหาทางออกประเทศ ขณะที่กปปส.ต่างจังหวัดเคลื่อนไหวไล่บี้รมต.

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (18พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้หารือร่วมกับตัวแทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ประกอบด้วย ตัวแทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย, การประปานครหลวง, การประปาส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, การบินไทย, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, การท่าเรือแห่งประเทศไทย, บริษัท ขนส่ง จำกัด, บริษัท ทีโอที, บริษัท กสท, องค์การสวนยาง, สหภาพฯโรงงานยาสูบ, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ, กลุ่มสหภาพข้าราชการ และบุคคลากรที่ทำงานภาครัฐ

สรส.นัดหยุดงาน 22 พ.ค.เป็นต้นไป

ต่อมานายคมสัน ทองศิริ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส. ) แถลงภายหลังหารือถึงแนวทางในการต่อสู้กับระบอบทักษิณครั้งสุดท้าย โดยระบุว่า สรส. พร้อมร่วมปฏิบัติการกับ กปปส. และเห็นด้วยว่าการต่อสู้ต้องจบภายในวันที่ 26 พ.ค.นี้ และเป็นครั้งสุดท้าย โดยได้กำหนดรูปแบบดังนี้
1. ขอให้สมาชิก สรส.ทั้งหมด ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจระบอบทักษิณ
2. ขอให้สมาชิก สรส.ได้ขึ้นป้ายข้อความแสดงการไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาล และสนับสนุนให้มีรัฐบาลของประชาชน
3. ขอให้สมาชิกของสรส. แสดงสัญลักษณ์อารยะขัดขืน โดยติดธงชาติ นกหวีด เพื่อเป็นการแสดงตัวตนชัดเจนว่าต่อต้านไม่ยอมรับคำสั่งคนของระบอบทักษิณ
4. ในวันที่ 19-21 พ.ค.นี้ ขอให้สมาชิก สรส.เข้าร่วมไล่ล่า ทวงคืนอำนาจอธิปไตยคืนให้กับประชาชน
5. ขอให้สมาชิก สรส. นัดหยุดงาน ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.นี้ เป็นต้นไปและถ้าหากรัฐบาลยังไม่คืนอำนาจให้ประชาชน จะมีการปฏิบัติการขั้นสูงสุด โดย สรส.จะใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่ ปฏิการพิเศษให้สำเร็จ และได้ชัยชนะเป็นของประชาชน
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องรัฐบาลให้ลาออก และคืนอำนาจให้ประชาชน มิฉะนั้น จะปฏิบัติการขั้นสูงสุด ภายในต้รัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันไม่ตัดน้ำ ตัดไฟประชาชน และจะไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ทาง สรส. ไม่ได้เปิดเผยว่า จะใช้เครื่องมือใดในการขับไล่รัฐบาล โดยขอให้คอยดูในวันที่ 26 พ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ในเวลา 14.00 น. ทางแกนนำกปปส. จะหารือร่วมกับอดีตข้าราชการระดับสูง เพื่อให้เป็นกระบอกเสียงไปถึงข้าราชการปัจจุบัน ให้ออกมาร่วมต่อสู้กับ กปปส. โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. จะปราศรัยชี้แจงรายละเอียดให้ทราบ ที่เวทีมัฆวานรังสรรค์ ในเวลา 20.30 น.

"สุเทพ"หารืออดีตขรก.ชั้นผู้ใหญ่

ต่อมาเวลา 14.20 น. นายสุเทพ พร้อมด้วยแกนนำ กปปส. ได้ประชุมร่วมกับอดีตข้าราชการระดับสูงหลายกระทรวง รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูต และอดีต รมว.ต่างประเทศ โดยกล่าวว่า กปปส. จำเป็นต้องเริ่มต้นเรียกคืนอำนาจกลับมาเป็นของประชาชน เพื่อตั้งรัฐบาลประชาชน สภานิติบัญญัติ เพื่อให้ประเทศปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจนถึงขณะนี้สภาผู้แทนราษฎร ไม่มีแล้ว เหลือเพียงรัฐมนตรีทั้ง 24 คน ที่ยังยึดอำนาจอยู่

ดังนั้น กปปส.จึงเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปฏิบัติการยึดอำนาจคืนประชาชน ที่ผ่านมาคิดว่าฝ่ายต่างๆ จะมีอำนาจช่วยคลี่คลายปัญหาได้ แต่ไม่เป็นผล เพราะสุดท้ายวุฒิสภายังไม่สามารถดำเนินการให้มีนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศได้ เราจึงตัดสินใจเดินหน้า เรามีทางเลือกจำกัด ต้องปฏิบัติด้วยตัวเอง

ขอ"เติ้ง"สั่งรมต.ชาติไทยฯลาออก

" สิ่งที่อยากขอจากผู้อาวุโสทั้งหลาย คือกลุ่มข้าราชการ เพราะไม่สามารถทำได้เต็มที่ เหมือนท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย คือ มวลมหาประชาชน พยายามจะหาทางเข้าให้ถึงตัวรัฐมนตรีที่ยังมีอยู่ ขอให้เขาลาออก โดยจะเดินทางไปหาเขาที่ทำงาน ไปถึงที่บ้านหรือแอบไปทำงานอยู่ที่ไหน จะใช้วิธีที่นุ่มนวลที่สุด ตรงนี้ขอยืนยันกับท่านผู้อาวุโสว่า เรายึดหลักสันติ ไม่มีอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง จะใช้พลังของประชาชนจริงๆ จะทำให้ถึงที่สุด คิดว่าจะทำ 3 วันติดต่อกัน บางกลุ่มคงหาทางไปพูดกับผู้ใหญ่ของเขา เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา จะไปพูดกับคุณบรรหาร ศิลปอาชา ว่าขอให้รัฐมนตรีของท่าน ลาออกได้หรือไม่ ขณะเดียวกันวันที่ 19-21 พ.ค. จะเดินขบวนใหญ่ เพื่อให้ประชาชนที่คิดเห็นเหมือนกันมาแสดงพลังครั้งสุดท้าย และให้รัฐวิสาหกิจทั้งหลาย ร่วมมือปฏิบัติการด้วย โดยเขาได้ออกแถลงการณ์การของเขาแล้วว่า จะทำอย่างไรบ้างเพื่อต่อต้านอำนาจระบอบทักษิณ โดยจะหยุดงานตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป " นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ (19 พ.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ จะปฏิบัติการขั้นสูงสุด ตามความสามารถ ให้เกิดผล ที่จะหนีบพลังของประชาชน แต่จะไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เช่น การจะไม่ไปตัดน้ำ ตัดไฟ ในพื้นที่ กทม. ส่วนในวันที่ 22 พ.ค. จะเชิญข้าราชการมาหารือ เพื่อให้เป็นข้าราชการของประชาชนจริงๆ

อดีตบิ๊ก ขรก.จี้ "ประยุทธ์" โชว์บทบาท

นายจเด็จ อินสว่าง อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะแกนนำอดีตข้าราชการระดับสูง แถลงผลการหารือของกลุ่มอดีตข้าราชการระดับสูง ว่า การหารือไม่เกี่ยวกับเรื่องของการเมือง แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ รัฐบาลไม่มีหัวไม่สามารถทำงานได้ การขาดหายไปของนายกรัฐมนตรีเป็นการหายไปเนื่องจากมีพฤติการณ์ที่ทุจริตและประพฤติมิชอบ รัฐมนตรีที่เหลือก็ไม่มีอำนาจในการบริหารงาน เกิดข้อขัดแย้งทางข้อกฎหมาย

นายจเด็จ กล่าวว่า ถึงวันนี้จะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไปไม่ได้ ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข คณะข้าราชการอาวุโสเห็นว่า บ้านเมืองมีปัญหาต้องเร่งแก้ไข บ้านเมืองจะต้องมีนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจโดยเร็ว เหมือนที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภาแถลงความเห็นไว้ ทุกกระทรวงทบวงกรมโดยปลัดกระทรวง อธิบดี เพื่อนข้าราชการหรือแม้แต่รัฐมนตรีที่จะต้องกล้าหาญ สำแดงความเป็นข้าราชการที่รักความถูกต้องและเป็นธรรม ไม่ปฏิบัติหน้าที่ต่อการสั่งการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐบาลที่ขาดคุณธรรมและไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ ทางกลุ่มจะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะที่เป็นรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ขอให้เป็นเจ้าภาพเชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวง อธิบดีกรม ทูตานุทูตที่ประจำอยู่ทั่วโลก ประชุมหารือแสวงหาทางออกของประเทศ เพื่อประโยชน์ของประเทศ ถ้าไม่รีบแก้ไขร่วมมือกันแล้ว ประเทศชาติจะล่มสลาย พวกเราห่วงใยประเทศชาติ บ้านเมืองจะแย่ ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องออกมาแก้ไขวิบัติหายนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องการเมือง
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากหนังสือที่จะยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ยังได้ทำหนังสืออีกฉบับถึงนายสุรชัย ระบุว่า เห็นพ้องว่าควรจะได้เร่งตัดสินใจที่จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงพระมหากรุณาธิคุณแต่งตั้งบุคคลผู้เป็นคนดีและมีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อจะได้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ความวิบัติและหายนะ

ปฏิบัติการล่าใบลาออกรัฐมนตรี

เวลา 20.40 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยบนเวทีถนนราชดำเนินอีกครั้ง ว่า วันนี้ (19พ.ค.) จะเป็นวันเริ่มต้นการปฏิบัติการเรียกคืนอำนาจอธิปไตยของประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โดยจะขับไล่ซากเดนระบอบทักษิณให้หมดไป จะมีทีมเคลื่อนที่เร็ว แยกย้ายไปตามล่า หาใบลาออกของคณะรัฐมนตรี ไปที่บ้าน ที่ทำงาน ไปทุกแห่งที่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เพื่อให้เซ็นใบลาออก เพราะอยู่ไปก็ทำประโยชน์ให้ประเทศไม่ได้

ขณะที่นานยสุเทพ จะนำเดินขบวนจากสะพานผ่านฟ้าในเวลา 10.00 น. ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สี่แยกคอกวัว ไปวังบูรพา แยกเจริญกรุง สะพานพุทธฯ ปากคลองตลาด เข้าร.ร.สวนกุหลาบ วนกลับมาที่สะพานผ่านฟ้า เพื่อไล่ครม.ส่วนที่เหลือ 24 คน

ส่วนข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ขอให้ติดธงชาติ แขวนนกหวีดไปทำงาน ขอให้ประชาชนที่อยู่ที่บ้านชักธงชาติที่บ้านด้วย ส่วนคนที่เดินทางมีรถ ขอให้ติดธงชาติที่รถด้วย เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ว่า เราไม่เอาระบอบทักษิณ
ปฏิบัติการขั้นที่สอง พนักงานรัฐวิสาหกิจจะหยุดงานตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป
ปฏิบัติการขั้นที่ 3 วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เราจะมีการชุมนุมใหญ่ 3วันติดต่อ บนถนนราชดำเนิน จากลานพระบรมรูปทรงม้า ถึงสนามหลวง และบนถนนสุขุมวิท ตั้งแต่ ซอยอ่อนนุช ถึงแยกปทุมวัน ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป เวลา 6 โมงเย็น เราจะร้องเพลงชาติพร้อมกัน และจะเลิกเวลา 3-4 ทุ่ม เราจะแสดงให้เห็นถึงพลังของมวลมหาประชาชน ที่ต้องการขจัดระบอบทักษิณ มาทวงคืนอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย
วันจันทร์ที่ 26 พ.ค. เราจะมีพิธีที่ท้องสนามหลวง เวลา 1 ทุ่ม จะประกาศถึงความสำเร็จว่า บัดนี้อำนาจอธิไตยได้กลับคืนมาเป็นของปวงชนชาวไทยเรียบร้อยแล้ว เป็นการปิดเกมการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน และวันที่ 27 พ.ค. จะเป็นวันฉลองชัยชนะของมวลมหาประชาชน และเป็นวันเริ่มต้นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างแท้จริง

กปปส.ลั่น 26 พ.ค.จบจริง

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. เปิดเผยว่า เป้าหมายของกปปส. คือเร่งดำเนินการให้มีนายกฯ ที่มีอำนาจเต็ม ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการปฏิบัติจะเริ่มต้นในวันที่ 19-21 พ.ค.นี้ และในวันที่ 22 พ.ค. จะเรียกร้องให้ส่วนราชการเข้ามาหารือ และหาทางออก ส่วนวันที่ 23-26 พ.ค. จะเป็นการเคลื่อนไหวลุกฮือครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ กดดันทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะไม่มีการปิดสถานที่ราชการ เพราะเป้าหมายชัดเจนคือ ตัวรัฐมนตรี ที่อยากเรียกร้องให้ลาออก เนื่องจากข้าราชการมีความสับสน เพราะไม่รู้ว่ารัฐมนตรี ยังมีอำนาจสามารถสั่งการได้หรือไม่ ทั้งนี้ หากคนเสื้อแดงจัดมวลชนออกมาปกป้องรัฐมนตรี เราก็จะหลีกเลี่ยงการปะทะ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า กปปส. จะเคลื่อนมวลชนไปปิดสถานีโทรทัศน์ และสถานที่ราชการ โดยเฉพาะหน่วยทหารนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้สถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ให้ความร่วมมือตามที่เคยตกลงกันทุกประการ เราไม่ได้คุกคามสื่อ แต่สื่อต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาล และศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ส่วนแนวทางของวุฒิสภาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่เขายังไม่ทำ ดังนั้นประชาชนจะทำให้ และขอยืนยันว่า ในวันที่ 26 พ.ค. นี้ จะจบจริง

มท.1ห้ามขรก.รายงานตัวกปปส.

ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ ประกาศไล่ล่า ครม.ที่เหลืออยู่ และนำใบลาออกไปให้เซ็นว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องโจ๊ก ไร้สาระโดยสิ้นเชิง ที่นายสุเทพ จะมาไล่ล่าคนอื่น มีแต่นายสุเทพ จะถูกไล่ล่า ซึ่งครม.ที่เหลืออยู่นั้นชอบด้วยกฎหมาย แต่ กปปส.เป็นองค์กรเถื่อน ไม่อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย
ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ ได้มีหนังสือสั่งการถึง นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, อธิบดีกรม ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ห้ามมิให้เดินทางไปรายงานตัวกับผู้ชุมนุมทางการเมือง

นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่ปรึกษา ศอ.รส. กล่าวว่า กรณีนายสุเทพ ประกาศไล่ล่าครม.ที่เหลืออยู่ และนำไปลาออกไปให้เซ็น ภายในวันที่ 19-21พ.ค.นั้น มองว่า เป็นความพยายามที่จะเคลื่อนไหวให้ครบวงจร เพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองของกปปส. ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ เป็นการประกาศเพื่อเอาใจมวลชน โดยตนเชื่อว่า การประกาศเช่นนี้เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายการชุมนุมของกปปส. จะจบในวันที่ 26 พ.ค.ได้อย่างที่ประกาศไว้ เพราะได้ประกาศเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายมาหลายครั้งแล้ว และยืนยันว่าครม.นั้นลาออกไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญบังคับให้อยู่ต่อ

อย่างไรก็ตาม หากผู้ชุมนุม กปปส. จะมาหาตน รวมถึงครม.คนอื่นๆนั้น ถ้ามาดีๆ ก็มาพูดคุยกันได้ แต่ต้องไม่ใช่การใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ เพราะไม่เช่นนั้นก็มีสิทธิ์ ที่จะคุ้มครองตัวเอง ทั้งนี้หากครม.ที่ถูกประกาศไล่ล่ารู้สึกกังวลในความปลอดภัยทาง ศอ.รส. เองก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล ซึ่งเดิมทีก็มีการจัดกำลังดูแลบุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่ม กปปส.อยู่แล้ว
ส่วนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในขณะนี้นั้น เชื่อว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ หากการชุมนุมใหญ่อีกครั้งของ กปปส. ไม่รุนแรง ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึงการยกระดับบังคับใช้กฎหมายเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่อย่างใด นอกจากนี้ตนเชื่อว่าในช่วงสัปดาห์นี้ จะมีแกนนำ กปปส. ที่ถูกหมายจับ เข้ามอบตัวกับทางศอ.รส.เพิ่มขึ้นด้วย

นปช.ตั้งเงินรางวัลนำจับสุเทพ 5 ล้าน

ขณะเดียวกัน ที่เวทีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถนนอักษะ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ขณะนี้มีผู้หวังดี มอบเงิน 5 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนตั้งต้น สำหรับรางวัลในการนำจับผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีกบฏ ที่ศาลอนุมัติ อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และบรรดาแกนนำ กปปส. ซึ่งผู้หวังดีคนดังกล่าวไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว เนื่องจากห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะขนาดแค่ประชาชนไปย้ายกรวย ยังถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตนถือเป็นเป้าหมายหนึ่ง ที่จะถูกไล่ล่าบังคับให้เซ็นใบลาออกจากรัฐมนตรี เรื่องนี้ถือเป็นการคุกคาม ข่มขู่สิทธิเสรีภาพ จึงอยากเรียกร้องให้ ศอ.รส. ยื่นเรื่องต่อศาลโดยเร็ว ในเรื่องของการถอนประกัน ในคดีกบฏ และเชื่อว่าหาก กปปส. ดำเนินการอย่างที่พูดจริง จะเกิดความวุ่นวายแน่นอน เพราะทีมรักษาความปลอดภัยของรัฐมนตรีแต่ละคน คงไม่ปล่อยให้รัฐมนตรี ถูกจับตัวอย่างแน่นอน

"ตู่"เชื่อกปปส.ยกระดับ เปิดทางปฏิวัติ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า นปช.จะยังคงปักหลักชุมนุม อยู่ที่ถนนอักษะ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศจะต่อสู้จนถึงวันที่ 26 พ.ค. และหากไม่สำเร็จ จะมอบตัวในวันที่ 27 พ.ค.นั้น เราเป็นห่วงว่า จะมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ทหารและกองทัพบอกว่า ไม่มีทางเลือก ดังนั้นนปช. จึงเตรียมความพร้อมเคลื่อนออกจากถนนอักษะ เพื่อยกระดับการต่อสู้ในทันที หากสถานการณ์เลวร้าย ทั้งนี้การประกาศล่าตัวรัฐมนตรี 12 คน ให้เขียนใบลาออก ในลักษณะการบังคับ เพราะนายสุเทพ รู้ว่าชุดรักษาความปลอดภัย ต้องปกป้องรัฐมนตรี จึงมีโอกาสปะทะสูง ตนจึงเรียกร้องศอ.รส. ให้ใช้มาตราการขั้นสูงสุด ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ศาลอนุมัติหมายจับข้อหากบฎ

"ผมห่วงการสร้างสถานการณ์จนเป็นเหตุให้มีการออกมายึดอำนาจ จะเห็นได้ว่าการประชุมร่วมกับรัฐวิสาหกิจที่เป็น กปปส. อาจจะมีการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดระบบสาธารณูปโภค ยึดพื้นที่การสื่อสาร แม้ว่านายสุเทพ จะพูดว่าไม่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว แต่เชื่อว่าคำพูดของนายสุเทพจะเป็นตรงกันข้าม ซึ่งจะทำให้เกิดความรุนแรง และเกิดความโกลาหล จนทหารออกมายึดอำนาจ" นายจตุพร กล่าว

"วิชา"ชี้กม.มีทางออกเสมอ ไม่ตัน

นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 (ส.ส.ร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ตนก็มีความเป็นห่วงเหมือนกับคนไทยทุกๆ คน เพราะยืดเยื้อมายาวนาน และถ้ายืดเยื้อต่อไปคงไม่ดี เพราะการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่ทำแบบเล่นขายของ ต้องรับผิดชอบประชาชนที่มากกว่าการทำงานในระดับปกติ สำหรับทางออกของประเทศในขณะนี้ วุฒิสภาก็กำลังพยายามช่วยกันทำอยู่ คงต้องรอฟังว่าจะทำอะไรกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลางทำได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า “อย่าให้ผมพูดเลย เดี๋ยวจะหาว่าผมเข้าไปสนับสนุน แล้วจะหาว่าผมเป็นกบฏไปอีกคนหนึ่ง เอาเป็นว่าในทางการเมืองแล้ว กฎหมายไม่มีทางตัน มีทางออกเสมอ ซึ่งภาษิตทางกฎหมายมีอยู่ว่าประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฎหมายสูงสุด นี่คือหัวใจกฎหมายมหาชน ดังนั้นสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดของประชาชนคือกฎหมายสูงสุดที่ไม่มีทางตัน”

เมื่อถามว่าถึงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องมีนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า "อย่าเรียกว่านายกฯ เฉพาะกิจเลย แต่เรียกว่านายกฯ เพื่อการปฏิรูปประเทศจะดีกว่า เพราะถ้าเรียกนายกฯเฉพาะกิจ ผู้คนอีกบางส่วนก็อาจจะเรียกว่านายกฯ ชั่วคราว อย่างนั้นคงไม่ค่อยดี"
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา สามารถเป็นผู้นำชื่อนายกฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า "อย่าพูดว่าสามารถ หรือไม่สามารถเลย การแสวงหาทางออก จะต้องเตรียมทางที่ไม่ตันเอาไว้ ซึ่ง ส.ว.รับหน้าที่ไปแล้ว เราคงไม่ต้องไปจ้ำจี้จ้ำไช ถึงแม้ว่าจะมีการตีความสถานภาพของนายสุรชัย อยู่ก็ทำกันไป เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ชอบตีความอยู่แล้ว" นายวิชา กล่าว

ปูดอาวุธสงคราม โผล่นครนายก

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่เกิดอย่างต่อเนื่อง แตกต่างจากการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่ถนนอักษะ ที่เป็นไปอย่างเรียบร้อย ในขณะที่มวลชนอีกกลุ่มถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว โดยรัฐบาลและ ศอ.รส.ไม่เคยให้ความสนใจที่จะสอบสวนเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ จึงพูดได้ว่า ปฏิบัติการก่อเหตุดังกล่าวต้องมีผู้อำนาจรัฐรู้เห็นเป็นใจ ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่า สัปดาห์ที่จะถึงนี้เป็นสัปดาห์อันตราย โดยล่าสุดมีการพบอาวุธสงครามซึ่งพบว่ารถที่ใช้ขนถ่ายอาวุธเป็นของนักการเมืองใหญ่ในจังหวัดดังกล่าว จากนั้นยังมีคนระดับรัฐมนตรี ไปเคลียร์เพื่อไม่ให้มีการดำเนินคดีแต่ตำรวจในพื้นที่ไม่ยอมและมีการตรวจสอบร่วมกับ กอ.รมน.
"ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า อาวุธดังกล่าวตั้งใจที่จะนำมาก่อเหตุใน กทม. หรือไม่ เพราะมีการย้ายจากรถที่ติดป้ายทะเบียนจังหวัดเชียงราย มาขนถ่ายที่นครนายก ขึงขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันททร์โอชา ผบ.ทบ. สกัดกั้นการขนอาวุธมาโจมตีคนไทยด้วยกัน เพราะทหารน่าจะรู้ดีที่สุดว่ามีอะไรเกิดขึ้น ใครขนอาวุธ ใครบงการอยู่เบื้องหลัง จึงขอให้ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเต็มที่ และรัฐบาลโดยเฉพาะนาย นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ควรปลดล็อคตัวเองอย่าสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติมในสังคมไทย และเราให้กำลังใจส.ว.ในการแสวงจุดร่วมเพื่อหาคำตอบให้ประเทศภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ขอให้ดำเนินการโดยอิสระไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันของฝ่ายใด เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับแต่ต้องทำโดยเร็ว เพราะไม่ควรปล่อยให้ประชาชนเสี่ยงตายแทนนักการเมืองอีกต่อไป"

นายชวนนท์ ยังวิงวอนไปถึงคนเสื้อแดงว่า จะหลงกลแกนนำที่ระดมคนเข้ามาปกป้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเพียงหน้าฉากเท่านั้น แต่หลังฉากคือ การขนอาวุธสงครามเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งอาจมีการสร้างสถานการณ์ถึงขั้นฆ่าคนเสื้อแดง เหมือนที่เคยเกิดมาแล้วในปี 53 จึงขอให้คนเสื้อแดง กลับถิ่นฐานอย่าตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้อีกต่อไป นอกจากนี้ขอให้สังคมช่วยกันเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศไทย และให้มีการแก้ปัญหาประเทศอย่างเหมาะสมเพื่อลดการเผชิญหน้า ยุติความสูญเสีย

กปปส.โคราชไล่กดดันรมต.อุตฯ

วานนี้ (18 พ.ค.) ที่อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการ กปปส. จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ได้มีการหารือและตกลงกันว่า จะจัดทีมมวลชนไล่ล่ารัฐมนตรีหนึ่งเดียว ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา คือนายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยขณะนี้ได้ให้แกนนำของ อ.สีคิ้ว, อ.สูงเนิน และ อ.เมือง เพื่อจัดมวลชนเตรียมความพร้อมที่จะเคลื่อนไหวไล่ล่านายประเสริฐทุกพื้นที่ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งอาจจะไปชุมนุมบริเวณหน้าที่ทำการพรรคชาติพัฒนาด้วย ขณะเดียวกันในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ทางกลุ่ม กปปส.จังหวัดนคราชสีมา ก็จะนัดกันขึ้นรถยนต์ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร โดยบางส่วนก็ได้เดินทางไปก่อนล่วงหน้าแล้ว

พบศพลอยอืดในคลองผดุงฯใกล้กปท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.เสน่ห์ บุญโญพิชัย พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำห่อด้วยผ้าใบ ภายในคลองผดุงกรุงเกษม ด้านหลังร้านอาหารสยามเฮาส์ ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. จึงรุดๆไปตรวจสอบ โดยจุดที่เกิดเหตุภายในคลองผดุงกรุงเกษม พบผ้าใบสีฟ้าห่อหุ้มสิ่งของขนาดตัวมนุษย์ ผูกปิดหัวท้ายด้วยเชือกไนลอนสีเขียว โดยมีก้อนอิฐตัวหนอนผูกถีวงน้ำหนักไว้ 1 ก้อน และเมื่อนำศพขึ้นมาได้ และตรวจสอบภายในผ้าใบดังกล่าว พบเป็นศพเพศชายอายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ อยู่ในสภาพเสียชีวิตในท่าเก็บคองอเข่า มีกระสอบทรายกั้นแนวบังเกอร์ 2 ถุง อิฐตัวหนอน 2 ก้อน และริบบิ้นธงชาติ 1 เส้น ตรวจสอบสภาพศพพบมีบาดแผลกรามซ้ายหัก บริเวณชายโครงซ้ายถูกแทงด้วยของมีดคม 6 แผล ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน
พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า ผู้ตายเป็นใครนั้นจากการตรวจสอบไม่พบเอกสารสำคัญในตัวผู้ตาย ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.นางเลิ้งตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุแลัว พร้อมกับเร่งสอบปากคำพยานบุคคลและหาพยานแวดล้อมภายในที่เกิดเหตุทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น