xs
xsm
sm
md
lg

เหิม!บึ้มป่วนกรุง3จุด ผลพวงตัดสิน'ปู'พ้นนายกฯ รพ.จุฬาภรณ์จวกไร้มนุษยธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนร้ายป่วนหลายจุดยิงระเบิด M79 ใส่ รพ.จุฬาภรณ์ หลักสี่ เเละธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน และบ้านพัก “สุพจน์ ไข่มุกด์”ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายในซอยลาดพร้าว 34 ได้รับความเสียหาย ผบ.ตร.สั่งเข้มดูแลบ้านบุคคลสำคัญ "สุพจน์"ไม่หวั่น ถูกปาระเบิดใส่บ้านยันทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ขณะที่ รพ.จุฬาภรณ์ ออกแถลงการณ์ประณามคนร้ายยิง M79 ใส่โรงพยาบาล จวกคนทำอุกอาจไร้มนุษยธรรม มุ่งร้ายสถานพยาบาล ร้องเจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนเอาคนผิดมาลงโทษ

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงค่ำของวันที่ 7 พ.ค. ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในพื้นที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ แขวงตลาดบางเขน ย่านหลักสี่ ร.ต.อ.รักเกียรติ ปทุมวัน พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ร่วมทำการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ระเบิดลูกแรกตกที่ร่องน้ำในสวนหย่อมทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโรงพยาบาล แรงระเบิดทำให้รถแท็กซี่ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ทม-8249 กทม.กระจกแตกเสียหาย ส่วนระเบิดลูกที่ 2 ตกใส่ตัวอาคารที่บริเวณชั้น 9 ด้านทิศเหนือของตัวอาคาร แรงระเบิดทำให้ห้องพักของแพทย์ห้อง 920 กระจกแตกและทรัพย์สินภายในห้องเสียหาย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด

เวลาต่อมา เกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 2 ลูก ใส่ตัวอาคารของธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ บริเวณแยกรัชโยธิน แรงระเบิดทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหาย แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและบุคคลภายนอกเข้าไปภายในอาคาร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

ด้านร.ต.ท.สมศักดิ์ ตันติ๊บ พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่บ้านพักเลขที่ 26 และ 26/2 ซอยลาดพร้าว 34 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. บ้านพักของนายสุพจน์ ไข่มุกด์ 1 ใน 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นมีรั้วรอบขอบชิด ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ติดกับคลองน้ำแก้ว จากการตรวจสอบบริเวณโรงจอดรถซึ่งอยู่ติดกับคลองดังกล่าว พบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 3 สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ศว-293 กทม.จอดอยู่ในโรงรถ ถูกสะเก็ดระเบิดจนกระจกหน้าแตกและกระโปรงหน้ารถได้รับความเสียหาย กระเบื้องหลังคาโรงรถถูกแรงระเบิดจนแตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบกระเดื่องและสะเก็ดของระเบิดสังหารชนิดเอ็ม 67 ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน ด.ต.ชำนาญ ศรีหริ่ง ผบ.หมู่ ป.สน.สุทธิสาร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 01.10 น. ตนได้เดินจากบริเวณริมคลองน้ำแก้วเพื่อมาเซ็นตู้แดงที่บริเวณหน้าประตูบ้าน และเตรียมกำลังจะเดินกลับไปที่เต็นท์อำนวยการหน้าบ้าน ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงคล้ายกับวัตถุตกใส่บริเวณหลังคาโรงรถแล้วกลิ้งไปมา จากนั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น ตนตกใจมากจึงรีบวิ่งไปดูแต่ก็ไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด จากนั้นตนก็รีบแจ้งผู้บังคับบัญชาทันที

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบ้านหลังดังกล่าวที่ส่องไปบริเวณทางเดินเท้าริมคลองน้ำแก้ว ปรากฏว่ากล้องสามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ โดยเหตุเกิดช่วงเวลา 01.09 น. คนร้ายเป็นชายสวมหมวกแก๊ป เสื้อยืด และกางเกงขายาวไม่ทราบสี เดินเท้ามาตามทางเดินริมคลองน้ำแก้วจากฝั่งที่ทะลุได้ทั้งถนนรัชดาภิเษก และซอยลาดพร้าว 28 จากนั้นก็ขว้างระเบิดเข้าไปในบ้าน ก่อนจะวิ่งหลบหนีกลับไปทางเดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้เป็นแนวทางในการติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

ด้านพ.ต.อ.กำธร อุ่นเจริญ ผกก.ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกระเดื่องและเศษสะเก็ดของระเบิดสังหารแบบขว้างชนิดเอ็ม 67 มีรัศมีฉกรรจ์ในระยะ 15 เมตร หน่วงเวลา 4-5 วินาที ขว้างจากนอกบ้านฝั่งติดลำคลองลงมาบริเวณกลางหลังคา แต่มีการหน่วงเวลาทำให้ระเบิดไหลลงไปอยู่ในรางระบายน้ำจากนั้นจึงระเบิดทำลายเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ ระเบิดชนิดนี้เป็นชนิดเดียวกับที่คนร้ายใช้ปาใส่บ้านของนายสำราญ รอดเพชร แกนนำ กปปส.ที่ย่านคันนายาว เมื่อหลายเดือนก่อน

หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เร่งรัดสืบสวนติดตามตัวคนร้าย นอกจากนี้ยังสั่งการให้ บช.น., บช.ภ.1 และบช.ภ.7 ซึ่งมีบ้านพักของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ตั้งอยู่ เพิ่มความเข้มในการตั้งด่านความมั่นคง รวมทั้งการแสดงกำลังเพื่อเป็นการป้องปราม โดยเน้นการดูแลทั้งบ้านพักตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการ ป.ป.ช. รวมทั้งบุคคลสำคัญอื่นๆ

*** สุพจน์"ไม่หวั่น ถูกปาระเบิดใส่บ้าน

แหล่งข่าวใกล้ชิดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแจ้ง ว่า จากกรณีมีมือมืดปาระเบิดใส่บ้านาย สุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จนเป็นเหตุให้หลังคาโรงรถพัง อีกทั้งเหตุการณ์การยิงปืนใส่หน้าศาลรัฐธรรมนูญหลังจากที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยจบนั้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไร เพราะว่า ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เตรียมแผน และได้วางมาตรการป้องกันและรองรับไว้แล้ว อาทิ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลประจำที่บ้านพัก และ ตุลาการทุกคน

“ขณะเกิดเหตุ นายสุพจน์ ก็พักอาศัยอยู่ในบ้านพัก ก็บอกไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ชินแล้ว ไม่รู้สึกว่าเหนือความคาดหมาย เพราะที่ผ่านมารู้ตัวว่าตกเป็นเป้าของคนในรัฐบาล โดยเฉพาะตั้งแต่คดีเงินกู้ 2 ล้านล้าน ก็ถามคำถามหลายคำถามที่จี้ใจดำรัฐบาล และยังเคยเป็นส.ส.ร. ปี 50 จึงไม่เป็นที่พอใจของคนสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว” แหล่งข่าวระบุว่า

แหล่งข่าวคนเดียวกันนี้ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่ทางตุลาการได้มีการประเมินกันก่อนแล้วว่าจะต้องมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นกับตุลาการคนใดคนหนึ่ง ซึ่งนายสุพจน์นั้น ในการวินิจฉัยคดีอื่นๆ ที่ผ่านมา ก็เคยมีคนส่งภาพคนตายแล้วไปให้ถึงบ้าน เพื่อข่มขู่ และนายสุพจน์รู้สึกรับไม่ได้ แต่ปัจจุบัน นายสุพจน์ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวและเห็นว่าเมื่อทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร และทราบว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) นั้นได้จับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ อยู่ จึงมันใจว่า ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไรน่าเป็นห่วง

*** รพ.จุฬาภรณ์ ประณามมือยิง M79

ด้านโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ออกแถลงการณ์ "ประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม" ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อขวัญกำลังใจ และจิตใจผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ รพ.จุฬาภรณ์ จึงขอประณามการกระทำที่มุ่งร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและไร้มนุษยธรรม ทั้งที่เป็นที่ยอมรับโดยสากลว่าไม่มีการทำร้ายโรงพยาบาลหรือหน่วยแพทย์ แม้ยามศึกสงคราม อย่างไรก็ตาม แม้จะเกิดเหตุการณ์รุนแรง แต่ รพ.จุฬาภรณ์ ยังยึดมั่นให้การรักษาพยาบาลเพื่อนมนุษย์ในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวนและนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพื่อให้สังคมร่วมประณาม และเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้กระทำความผิดต่อไป

**สมาคมแบงก์ชี้ยิงเอ็ม 79 ถล่มไทยพาณิชย์ ไม่ควรเกิด***

จากกรณีคนร้ายยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 เข้าใส่ตัวอาคารของธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ บริเวณแยกรัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก ได้รับความเสียหาย นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยทุกแห่ง มีหน้าที่ให้บริการกับประชาชนทั่วไป โดยไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งต่างๆ แต่จะกำชับให้ธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

นายบุญทักษ์ ยอมรับว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ สะท้อนได้จากการใช้จ่ายที่ลดลง แต่เศรษฐกิจยังได้รับผลดีอยู่บ้างจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐและญี่ปุ่นที่ทำให้การส่งออกขยายตัวได้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกภาคการส่งออก โดยภาคการเกษตรชะลอตัว ตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ตกต่ำ

อย่างไรก็ตาม มองว่าในระยะต่อไปปัญหาการเมืองจะคลี่คลายได้โดยเร็ว โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ของไทยปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 2-3 และการขยายตัวของสินเชื่อจะอยู่ที่ร้อยละ 6-8 ส่วนปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้นมากกว่าปีนี้

นอกจากนี้ ภาคเอกชนและสถาบันการเงิน มีความสามารถปรับตัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสามารถรองรับผลกระทบเพราะมีความแข็งแกร่ง มีเงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงถึงร้อยละ 160 แม้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะเพิ่มขึ้น ขณะที่สถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้งยังคงจัดให้สถาบันการเงินของไทยมีความมั่นคง.
กำลังโหลดความคิดเห็น