เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (30 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค และทีมงานเข้าพบนายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม หัวหน้าพรรคพลังชล และนายพันธุ์ศักดิ์ เกษวัตถา เลขาธิการพรรคพลังชล เพื่อหาทางออกของปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังการหารือว่า ได้มาแลกเปลี่ยนกับพรรคพลังชลเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งต่างห่วงใยในสถานการณ์ปัจจุบันในความขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่ และกังวลว่า การจะไปเลือกตั้งโดยไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองได้ จะเป็นอุปสรรคสรรคในการเลือกตั้ง จึงได้เสนอเรื่องการปฏิรูปเป็นทางออก และต้องพยายามสร้างกระบวนการความมั่นใจ เพื่อให้การเมืองเดินต่อไปได้ ซึ่งพรรคพลังชลก็สนับสนุนในการหาทางออกของประเทศ ที่ตนดำเนินการอยู่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ตนจะเริ่มต้นเขียนข้อเสนอ และทำข้อสรุป เตรียมทำแนวทางที่จะนำเสนอ เพราะได้พบกับภาคประชาชน และภาคการเมือง รวมทั้งทราบความต้องการของรัฐบาล และกปปส.อยู่แล้ว ก็จะนำทั้งหมดมาทำเป็นข้อเสนอ และจะนำเสนอต่อไปภายใน 2 วันนี้ว่าจะนำเสนอในรูปแบบใดในการไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี และกปปส. เชื่อว่าการทำงานไม่สูญเเปล่า เพราะแต่ละฝ่ายที่พูดคุย ก็ตระหนักถึงความห่วงใย หากเร่งจัดการเลือกตั้งในขณะที่ยังไม่เรียบร้อย
ด้านนายสนธยา กล่าวว่า การหารือเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพราะพรรคพลังชล อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและบ้านเมืองได้มีโอกาสพูดคุย และนำเสนอเพื่อหาทางออกร่วมกัน หรือเป็นการปฏิรูปร่วมกัน ซึ่งทางพรรคพลังชล จะขอรอดูแนวทางปฏิรูปที่พรรคประชาธิปัตย์ จะนำเสนอ จึงจะวิเคราะห์ว่าควรจะปรับปรุงเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร เพราะเชื่อว่าคนไทยทุกคนต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้าไปด้วยกัน ดังนั้น เห็นว่าเมื่อนายอภิสิทธิ์ นำเสนอข้อสรุปจากการเดินสายแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมในการเดินหน้าประเทศไปด้วยกัน ได้พูดคุยและวิเคราะห์ร่วมกัน ส่วนพรรคจะตัดสินใจอย่างไรนั้น ขอรอดูก่อน ทั้งนี้ยืนยันอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย
"ผมจะรอดูแนวทางปฏิรูปของท่าน เพื่อที่จะนำมาวิเคราะห์และวิจารณ์ร่วมกัน ส่วนการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องรอดูก่อนว่าการเลือกตั้งจะเดินหน้าไปอย่างไร เพราะอยากให้การเลือกตั้งเดินไปได้สุดทางจนตั้งรัฐบาลได้ และไม่ติดใจหากการเลือกตั้งจะล่าช้าออกไป เพื่อให้บ้านเมืองสงบ เพื่อหาแนวทางร่วมกัน เพราะเราไม่เคยระบุว่าจะต้องเลือกตั้งวนที่เท่าไหร่ เพราะยังไม่เคยหารือกัน พรรคยังไม่ได้มีข้อเสนออะไร ต้องรอดูข้อสรุปของท่านอภิสิทธิ์ก่อน" นายสนธยา กล่าว
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การทำงานของนายอภิสิทธิ์ เริ่มต้นจากการต้องการหาทางออกให้ประเทศ และอยู่บนพื้นฐานไม่มีการเจรจาต่อรอง หรือผลประโยชน์ หรือการแลกเปลี่ยนทางการเมือง และไม่มีการเจรจาหาคำตอบที่ลงตัวสำหรับการเมือง ไม่ว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือพรรคเพื่อไทย แต่อย่างใด
แต่วันนี้นายอภิสิทธิ์ กังวลว่า การทำงานของรัฐบาลขณะนี้ จะลากประเทศ และประชาชนทุกคนเข้ามาเป็นตัวประกัน เพื่อให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย เอาตัวรอดจากสถานการณ์ ทั้งที่ข้อเท็จจริงสถานการณ์บ้านเมืองวิกฤต เพราะผลการกระทำมาในช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมา แต่คนเหล่านี้ไม่มีสำนึกถึงบาปกรรมที่ทำกับประเทศไว้ ยังพยายามท่องคาถาเดินหน้าเลือกตั้ง และอ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้สร้างความขัดแย้ง ทั้งที่การไม่ลงเลือกตั้งของพรรค ไม่ใช่ต้นตอการวิกฤตการเมืองไทย แต่เป็นผลจากปลายเหตุจากสิ่งที่รัฐบาลสร้างไว้
ขณะนี้ป.ป.ช.กำลังจะชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ในเร็วๆ นี้ รวมถึง ศาลรัฐธรรมนูญที่อาจจะชี้มูลในเวลาใกล้เคียงกัน แต่พรรคเพื่อไทย กลับใช้องคาพยพมวลชนคนเสื้อแดงข่มขู่คุกคามทุกเวลา แกนนำเดินสายปลุกกระดมมวลชนให้เป็นเกราะกำบัง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ ต้องออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนคนไทยต้องฆ่ากันเอง เพื่อปกป้องคนโกง
"อยากให้พรรคเพื่อไทยมีสำนึก อย่าปล่อยลิ่วล้อออกมาพูดเสียดสี ว่าทำไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ควรกลับไปเลือกตั้ง พวกท่านควรตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองสักนิด ว่าใครสร้างวิกฤต แต่ท่านอภิสิทธิ์ เสียสละออกมาเพื่อปกป้องคนไทย และยังต้องการให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ปีแห่งการปฏิรูปอย่างแท้จริง โดยสร้างกลไกเครื่องมือผูกพันให้รัฐบาลชุดต่อไปได้ดำเนินการ ให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยภายใน 2 วันนี้ จะมีการจัดพิมพ์เขียวการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย รวมถึงแผนการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง 8 ประเด็นใหญ่ และจะทยอยเผยแพร่ โดยจะมีกลไกผูกมัดนักการเมืองให้ต้องปฏิบัติตาม เพื่อแก้ไขทั้งปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการและเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการเห็นการปฏิรูปแน่นอน" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังการหารือว่า ได้มาแลกเปลี่ยนกับพรรคพลังชลเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งต่างห่วงใยในสถานการณ์ปัจจุบันในความขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่ และกังวลว่า การจะไปเลือกตั้งโดยไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองได้ จะเป็นอุปสรรคสรรคในการเลือกตั้ง จึงได้เสนอเรื่องการปฏิรูปเป็นทางออก และต้องพยายามสร้างกระบวนการความมั่นใจ เพื่อให้การเมืองเดินต่อไปได้ ซึ่งพรรคพลังชลก็สนับสนุนในการหาทางออกของประเทศ ที่ตนดำเนินการอยู่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ตนจะเริ่มต้นเขียนข้อเสนอ และทำข้อสรุป เตรียมทำแนวทางที่จะนำเสนอ เพราะได้พบกับภาคประชาชน และภาคการเมือง รวมทั้งทราบความต้องการของรัฐบาล และกปปส.อยู่แล้ว ก็จะนำทั้งหมดมาทำเป็นข้อเสนอ และจะนำเสนอต่อไปภายใน 2 วันนี้ว่าจะนำเสนอในรูปแบบใดในการไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี และกปปส. เชื่อว่าการทำงานไม่สูญเเปล่า เพราะแต่ละฝ่ายที่พูดคุย ก็ตระหนักถึงความห่วงใย หากเร่งจัดการเลือกตั้งในขณะที่ยังไม่เรียบร้อย
ด้านนายสนธยา กล่าวว่า การหารือเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพราะพรรคพลังชล อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและบ้านเมืองได้มีโอกาสพูดคุย และนำเสนอเพื่อหาทางออกร่วมกัน หรือเป็นการปฏิรูปร่วมกัน ซึ่งทางพรรคพลังชล จะขอรอดูแนวทางปฏิรูปที่พรรคประชาธิปัตย์ จะนำเสนอ จึงจะวิเคราะห์ว่าควรจะปรับปรุงเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร เพราะเชื่อว่าคนไทยทุกคนต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้าไปด้วยกัน ดังนั้น เห็นว่าเมื่อนายอภิสิทธิ์ นำเสนอข้อสรุปจากการเดินสายแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมในการเดินหน้าประเทศไปด้วยกัน ได้พูดคุยและวิเคราะห์ร่วมกัน ส่วนพรรคจะตัดสินใจอย่างไรนั้น ขอรอดูก่อน ทั้งนี้ยืนยันอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย
"ผมจะรอดูแนวทางปฏิรูปของท่าน เพื่อที่จะนำมาวิเคราะห์และวิจารณ์ร่วมกัน ส่วนการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องรอดูก่อนว่าการเลือกตั้งจะเดินหน้าไปอย่างไร เพราะอยากให้การเลือกตั้งเดินไปได้สุดทางจนตั้งรัฐบาลได้ และไม่ติดใจหากการเลือกตั้งจะล่าช้าออกไป เพื่อให้บ้านเมืองสงบ เพื่อหาแนวทางร่วมกัน เพราะเราไม่เคยระบุว่าจะต้องเลือกตั้งวนที่เท่าไหร่ เพราะยังไม่เคยหารือกัน พรรคยังไม่ได้มีข้อเสนออะไร ต้องรอดูข้อสรุปของท่านอภิสิทธิ์ก่อน" นายสนธยา กล่าว
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การทำงานของนายอภิสิทธิ์ เริ่มต้นจากการต้องการหาทางออกให้ประเทศ และอยู่บนพื้นฐานไม่มีการเจรจาต่อรอง หรือผลประโยชน์ หรือการแลกเปลี่ยนทางการเมือง และไม่มีการเจรจาหาคำตอบที่ลงตัวสำหรับการเมือง ไม่ว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือพรรคเพื่อไทย แต่อย่างใด
แต่วันนี้นายอภิสิทธิ์ กังวลว่า การทำงานของรัฐบาลขณะนี้ จะลากประเทศ และประชาชนทุกคนเข้ามาเป็นตัวประกัน เพื่อให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย เอาตัวรอดจากสถานการณ์ ทั้งที่ข้อเท็จจริงสถานการณ์บ้านเมืองวิกฤต เพราะผลการกระทำมาในช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมา แต่คนเหล่านี้ไม่มีสำนึกถึงบาปกรรมที่ทำกับประเทศไว้ ยังพยายามท่องคาถาเดินหน้าเลือกตั้ง และอ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้สร้างความขัดแย้ง ทั้งที่การไม่ลงเลือกตั้งของพรรค ไม่ใช่ต้นตอการวิกฤตการเมืองไทย แต่เป็นผลจากปลายเหตุจากสิ่งที่รัฐบาลสร้างไว้
ขณะนี้ป.ป.ช.กำลังจะชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ในเร็วๆ นี้ รวมถึง ศาลรัฐธรรมนูญที่อาจจะชี้มูลในเวลาใกล้เคียงกัน แต่พรรคเพื่อไทย กลับใช้องคาพยพมวลชนคนเสื้อแดงข่มขู่คุกคามทุกเวลา แกนนำเดินสายปลุกกระดมมวลชนให้เป็นเกราะกำบัง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ ต้องออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนคนไทยต้องฆ่ากันเอง เพื่อปกป้องคนโกง
"อยากให้พรรคเพื่อไทยมีสำนึก อย่าปล่อยลิ่วล้อออกมาพูดเสียดสี ว่าทำไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ควรกลับไปเลือกตั้ง พวกท่านควรตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองสักนิด ว่าใครสร้างวิกฤต แต่ท่านอภิสิทธิ์ เสียสละออกมาเพื่อปกป้องคนไทย และยังต้องการให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ปีแห่งการปฏิรูปอย่างแท้จริง โดยสร้างกลไกเครื่องมือผูกพันให้รัฐบาลชุดต่อไปได้ดำเนินการ ให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยภายใน 2 วันนี้ จะมีการจัดพิมพ์เขียวการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย รวมถึงแผนการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง 8 ประเด็นใหญ่ และจะทยอยเผยแพร่ โดยจะมีกลไกผูกมัดนักการเมืองให้ต้องปฏิบัติตาม เพื่อแก้ไขทั้งปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการและเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการเห็นการปฏิรูปแน่นอน" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
