00 จะเรียกว่าพูดไม่ออก บอกไม่ถูก กับการเคลื่อนไหวของ "มาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่บอกว่านี่คือ "ทางออกของประเทศ" โดยเดินสายพบปะไปทั่ว จนมาถึง กกต. และวานนี้ (29 เม.ย.) มีกำหนดพบกับ "เสี่ยเติ้ง" บรรหาร ศิลปอาชา และ สุวัจน์ ลิปพัลลภ นี่ยังไม่นับถึงเรื่องที่บอกว่าต้องการหารือ เจรจากับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมๆ กับ ทักษิณ ชินวัตร ได้เห็นแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคง "ตาสว่าง" ว่านี่แหละตัวตนของเขาแท้ๆ เลยแหละ ซึ่งที่ผ่านมาบรรดาแม่ยกทั้งหลาย พยายามออกมาปกป้องแก้ตัวแทน แต่เจอเข้าไปงานนี้ ถึงกับอึ้ง เงียบ ไปไม่เป็นเลยทีเดียว
00 ก็ต้องบอกว่า งานนี้ คนอย่าง อภิสิทธิ์ กล้ามากที่ออกตัวแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละ อีกมุมหนึ่งมันก็ต้องมีสาเหตุและที่สำคัญมันต้องมีการ "ถกลับ" ให้สัญญากันแบบวิน-วิน มาแล้ว โดยเฉพาะกับ"ขุมพลังหลัก" จากฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร เพื่อต่อรองแบ่งเค้กอำนาจกันแบบนักการเมือง ซึ่งนั่นไม่มีปัญหา เพราะเป็นการเมือง "น้ำเน่า" แบบเก่า แต่ที่เชื่อว่าสิ่งที่มวลชน กปปส. รวมไปถึงคนอีกไม่น้อย ที่เห็นด้วยกับแนวทางการต่อสู้เพื่อการปฏิรูปประเทศแบบขนานใหญ่ เขาไม่ต้องการแนวทางแบบนี้ เพราะชาวบ้านที่ "ตื่นรู้" เหล่านี้ เขารังเกียจนักการเมือง ต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์กติกาควบคุมให้เข้มงวดเสียก่อน และที่สำคัญในการปฏิรูป ต้องไม่ให้นักการเมืองเข้ามาสะเออะ อีกทั้งไม่มีทางประนีประนอมกับนักการเมืองชั่ว นักการเมืองขี้โกงอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะพวกนักการเมืองที่ มาร์ค เดินสายไปพบนั่นแหละ ชาวบ้านเขารังเกียจ และสะอิดสะเอียน เพราะที่ผ่านมาเจ็บปวดกับคนพวกนี้มามากเกินพอแล้ว
00 เพราะการที่มีคนพวกนี้มาร่วม มันก็ไม่ใช่เป็นการหาทางออกให้กับประเทศหรอก มันเป็นการหาทางออกให้กับ "คนขี้ฉ้อ" พวกที่ใช้การเมืองทำธุรกิจแสวงหาอำนาจ สร้างความร่ำรวยเท่านั้น ถามว่าคนอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา คนอย่าง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ทักษิณ ชินวัตร ส่วนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ต้องพูดถึง เพราะไร้สติปัญญา ไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ กลายเป็นว่าเวลานี้ได้มีคนอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ถูกรวมอยู่กลุ่มคนพวกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ดีเหมือนกัน มันจะได้ชัดเจน จนไม่ต้องเสียเวลาต้องมาอ้ำอึ้ง ลังเล กันอีกต่อไป ถึงคราวต้องกวาดไปพร้อมกันเลย !!
00 กลายเป็นว่างานนี้ต้องให้กำลังใจ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ต้องให้กำลังใจกันอย่างเต็มที่ เพราะถือว่าได้เสียสละ ยืนหยัดสู้ตามเป้าหมายแบบไม่หวั่นไหว และที่สำคัญเขาได้ "ตกผลึก" ทางความคิดอุดมการณ์กับมวลชนได้อย่างดี แม้ว่าในรายละเอียดบางอย่างอาจยังเกรงใจ "บางคน" อยู่บ้าง โดยเฉพาะกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่นาทีนี้คงเข้าใจมากขึ้นแล้วว่า ใครคือของจริงของปลอมใครคบได้คบไม่ได้ และถึงตอนนั้นการกำหนดวันดีเดย์เผด็จศึกมันก็สะดวกได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะชนะอย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องร่วมกันสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ต้องถามกันแล้ว
00 ถึงอย่างไรศาลก็ต้องเป็นผู้ชี้ขาดในขั้นตอนสุดท้าย และไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้ เหมือนอย่างที่ปรากฏให้เห็นมาหลายกรณี ล่าสุดก็ได้เห็นจากการเด้ง ถวิล เปลี่ยนศรี ในที่สุดก็ได้กลับมานั่งเก้าอี้ เลขาฯ สมช. อีกรอบ เป็น"หนามตำใจ" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กันไปจนจบ แม้ว่าจะพยายามทำยึกยัก ยื้อกันแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจขัดขืนคำสั่งศาลตลอดไปได้หรอก ที่พูดแบบนี้ก็เพื่อชี้เปรียบเทียบให้เห็นว่า หากศาล รธน.ชี้ความผิด หรือ ปปช.ชี้มูลความผิดกับ ยิ่งลักษณ์ ในเร็วๆนี้ ก็ต้องโดนจนได้แหละ แม้จะทำท่าข่มขู่คุกคามกันล่วงหน้าก็ตาม ยกเว้นคำสั่งศาลจะออกมาตรงข้าม ซึ่งทุกทางเป็น ไปได้ทั้งนั้น เพียงแต่แนวโน้มจบเห่มีมากกว่า !!
00 ก็ต้องบอกว่า งานนี้ คนอย่าง อภิสิทธิ์ กล้ามากที่ออกตัวแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละ อีกมุมหนึ่งมันก็ต้องมีสาเหตุและที่สำคัญมันต้องมีการ "ถกลับ" ให้สัญญากันแบบวิน-วิน มาแล้ว โดยเฉพาะกับ"ขุมพลังหลัก" จากฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร เพื่อต่อรองแบ่งเค้กอำนาจกันแบบนักการเมือง ซึ่งนั่นไม่มีปัญหา เพราะเป็นการเมือง "น้ำเน่า" แบบเก่า แต่ที่เชื่อว่าสิ่งที่มวลชน กปปส. รวมไปถึงคนอีกไม่น้อย ที่เห็นด้วยกับแนวทางการต่อสู้เพื่อการปฏิรูปประเทศแบบขนานใหญ่ เขาไม่ต้องการแนวทางแบบนี้ เพราะชาวบ้านที่ "ตื่นรู้" เหล่านี้ เขารังเกียจนักการเมือง ต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์กติกาควบคุมให้เข้มงวดเสียก่อน และที่สำคัญในการปฏิรูป ต้องไม่ให้นักการเมืองเข้ามาสะเออะ อีกทั้งไม่มีทางประนีประนอมกับนักการเมืองชั่ว นักการเมืองขี้โกงอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะพวกนักการเมืองที่ มาร์ค เดินสายไปพบนั่นแหละ ชาวบ้านเขารังเกียจ และสะอิดสะเอียน เพราะที่ผ่านมาเจ็บปวดกับคนพวกนี้มามากเกินพอแล้ว
00 เพราะการที่มีคนพวกนี้มาร่วม มันก็ไม่ใช่เป็นการหาทางออกให้กับประเทศหรอก มันเป็นการหาทางออกให้กับ "คนขี้ฉ้อ" พวกที่ใช้การเมืองทำธุรกิจแสวงหาอำนาจ สร้างความร่ำรวยเท่านั้น ถามว่าคนอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา คนอย่าง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ทักษิณ ชินวัตร ส่วนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ต้องพูดถึง เพราะไร้สติปัญญา ไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ กลายเป็นว่าเวลานี้ได้มีคนอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ถูกรวมอยู่กลุ่มคนพวกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ดีเหมือนกัน มันจะได้ชัดเจน จนไม่ต้องเสียเวลาต้องมาอ้ำอึ้ง ลังเล กันอีกต่อไป ถึงคราวต้องกวาดไปพร้อมกันเลย !!
00 กลายเป็นว่างานนี้ต้องให้กำลังใจ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ต้องให้กำลังใจกันอย่างเต็มที่ เพราะถือว่าได้เสียสละ ยืนหยัดสู้ตามเป้าหมายแบบไม่หวั่นไหว และที่สำคัญเขาได้ "ตกผลึก" ทางความคิดอุดมการณ์กับมวลชนได้อย่างดี แม้ว่าในรายละเอียดบางอย่างอาจยังเกรงใจ "บางคน" อยู่บ้าง โดยเฉพาะกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่นาทีนี้คงเข้าใจมากขึ้นแล้วว่า ใครคือของจริงของปลอมใครคบได้คบไม่ได้ และถึงตอนนั้นการกำหนดวันดีเดย์เผด็จศึกมันก็สะดวกได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะชนะอย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องร่วมกันสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ต้องถามกันแล้ว
00 ถึงอย่างไรศาลก็ต้องเป็นผู้ชี้ขาดในขั้นตอนสุดท้าย และไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้ เหมือนอย่างที่ปรากฏให้เห็นมาหลายกรณี ล่าสุดก็ได้เห็นจากการเด้ง ถวิล เปลี่ยนศรี ในที่สุดก็ได้กลับมานั่งเก้าอี้ เลขาฯ สมช. อีกรอบ เป็น"หนามตำใจ" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กันไปจนจบ แม้ว่าจะพยายามทำยึกยัก ยื้อกันแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจขัดขืนคำสั่งศาลตลอดไปได้หรอก ที่พูดแบบนี้ก็เพื่อชี้เปรียบเทียบให้เห็นว่า หากศาล รธน.ชี้ความผิด หรือ ปปช.ชี้มูลความผิดกับ ยิ่งลักษณ์ ในเร็วๆนี้ ก็ต้องโดนจนได้แหละ แม้จะทำท่าข่มขู่คุกคามกันล่วงหน้าก็ตาม ยกเว้นคำสั่งศาลจะออกมาตรงข้าม ซึ่งทุกทางเป็น ไปได้ทั้งนั้น เพียงแต่แนวโน้มจบเห่มีมากกว่า !!
