ชุดสืบสวนบก.น. 4 และสน.โชคชัย เรียกสอบพยานแวดล้อม 9 ปาก พร้อมตรวจเช็กกล้องวงจรปิด แกะรอยล่าคนร้ายยิงโหด “ไม้หนึ่ง” กวีเสื้อแดงดับคาลานจอดรถครัวครกไม้ไทยลาว ลาดปลาเค้า เชื่อเป็นมืออาชีพ และมีการวางแผนมาอย่างดี ไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง “การเมือง-ชู้สาว” ชี้ผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้ ในวันเกิดเหตุนัดเพื่อนมาทำสัญญาเพื่อเปิดวิทยุคนเสื้อแดงในกทม.ด้านรอง"เอก" ขี้ชุดสืบสวนเร่งคดีไม่ตัดปมสังหารทิ้ง
วานนี้ (24 เม.ย.) ที่ สน.โชคชัย พ.ต.อ.น้ำเพ็ชร ทรัพย์อุดม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.โชคชัย กล่าวถึงกรณีมือปืนไอ้โม่งบุกกระหน่ำยิงนายกมล ดวงผาสุก หรือ “ไม้หนึ่ง ก. กุนที” นักกวีเสื้อแดง เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถร้านอาหารครกไม้ไทย ลาว ซอยลาดปลาเค้า 24 แยก 2 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.เมโย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนยังคงทำงานกันอย่างหนักเพื่อคลี่คลายคดี โดยฝ่ายสอบสวนได้เรียกพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์คนที่อยู่ระแวกที่เกิดเหตุ รวมทั้งเพื่อนที่เดินทางไปกับผู้ตายในวันเกิดเหตุ พร้อมเพื่อนสนิทและญาติคนอื่นๆ มาสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลเบาะแสเหตุจูงใจถึงการสังหารนายกมลในครั้งนี้
ขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมและเพื่อนผู้ตายไปแล้วกว่า 9 ปาก มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฝ่ายสอบสวนยังต้องทำงานตามฝ่ายสืบสวน เนื่องจากฝ่ายสืบสวนจะมีข้อมูลละเอียดมากกว่า รวมทั้งไล่ดูกล้องวงจรปิดอยู่หลายจุดหลายตัว ขณะเดียวกันก็จะเรียกพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกหลายปาก แต่ละคนมีความประสงค์ที่จะให้ข้อมูล โดยมีพยานหลายคนเห็นเหตุการณ์ชัดเจน แต่เพื่อความปลอดภัยพยานเหล่านี้ไม่ประสงค์ที่จะแสดงตัวจึงประสานให้ฝ่ายสืบสวนตามประกบ เชื่อว่าหากสอบปากคำครบน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูป คดีรวมทั้งตำหนิรูปพรรณสันฐานของคนร้ายเพื่อให้ง่ายต่อการติดตามของฝ่ายสืบสวนมากขึ้น
ด้าน พ.ต.ท.นเรนทร์ เครื่องสนุก สว.สส.สน.โชคชัย กล่าวว่า ความคืบหน้ายังมีไม่มากนัก ขณะนี้กำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดและจะนำกล้องวงจรปิดที่ได้จำนวนหลายจุดมาดูให้ละเอียดเพื่อวิเคราะห์และหาเบาะแสรวมทั้งเส้นทางหลบหนีตำหนิยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ ตอนนี้ยังได้กล้องไม่ครบและยังดูไม่หมด จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดไปประชุมร่วมกันทั้งฝ่ายสอบสวน ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.4 และฝ่ายสืบสวนของ บก.สส.บช.น.ซึ่งมีการแบ่งทีมการทำงาน โดยฝ่ายสืบสวนของ สน.จะดูกล้องวงจรปิดเป็นหลัก เชื่อว่าเมื่อมีการประชุมหลายๆ ฝ่ายนำข้อมูลมาประกอบกันน่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น ขณะนี้ยังตั้งประเด็นการสืบสวนคลี่คลายคดีไว้กว้างๆ ทั้งเรื่องการเมือง ความขัดแย้งส่วนตัว เรื่องธุรกิจ และเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และมีอุปนิสัยค่อนข้างเจ้าชู้
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวด้านการสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุได้ตามดูพฤติกรรมของผู้ตายจนแน่ชัดว่าจะเดินทางไปไหนทำอะไร และมีการวางแผนมาอย่างดี แต่ตัดสินใจลงมือสังหารอย่างอุกอาจในช่วงกลางวันแสกๆ และมีผู้คนเห็นเยอะ อาจเป็นเพราะสบโอกาสพอดี โดยปกติแล้วผู้ตายมักมากินข้าวที่ร้านครกไม้ไทยลาวเหมือนเป็นลูกค้าขาประจำ แต่ละสัปดาห์จะเข้ามากินอาหารที่ร้านแห่งนี้อย่างน้อย 2-3 ครั้ง และในวันเกิดเหตุผู้ตายได้นัดเพื่อนมาเซ็นสัญญาเกี่ยวกับการเปิดสถานีวิทยุ ที่ผู้ตายเตรียมจะเปิดสถานีวิทยุเกี่ยวกับเสื้อแดงในพื้นที่กรุงเทพฯ เร็วๆ นี้ จึงนัดแนะมาพูดคุย เตรียมเอกสารมาเซ็นสัญญาเกี่ยวกับการเปิดคลื่นวิทยุที่ร้านดังกล่าว ก่อนจะถูกมือปืนมาดักยิงระหว่างจะเดินทางออกจากร้านอาหารที่บริเวณลานจอดรถ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุยิงนายกมล ดวงผาสุก หรือไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีเสื้อแดง เสียชีวิต บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านอาหารครกไม้ไทยลาว ซ.ลาดปลาเค้า 24 ว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างผบช.น.ก็ได้มีการสั่งกำชับให้มีการเร่งรัดคดีนี้ โดยมอบหมายให้รองผบช.น.ลงไปกำกับการสืบสวนสอบสวนคดี อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด รวมทั้งสาเหตุของการสังหารว่ามาจากเรื่องใด โดยในช่วงเย็นวันนี้ได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้ที่ บช.น. ซึ่งตนจะเดินทางไปร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจให้น้ำหนักปมสังหารว่ามาจากเรื่องใด พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยืนยันตลอดเวลาว่าหากเราไม่สามารถยืนยันว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดได้ เราคงจะไม่สามารถสรุปว่าปมสังหารมาจากสาเหตุส่วนตัว หรือ การเมือง เมื่อถามว่า นายกมล มีบทบาทในกลุ่มเสื้อแดง จึงอาจตกเป็นเป้าจากฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนเฉพาะพฤติกรรมบุคคลของผู้ตายยังไม่มีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามที่จะมาทำร้าย อย่างไรก็ตามคดีนี้มีเริ่มมีเบาะแส โดยล่าสุดมีรายงานว่าพบรถผู้ต้องสงสัยมาจอดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบรถต้องสงสัยคันนี้ ซึ่งหากสามารถยืนยันรถได้ว่า ก็จะนำไปสู่การจับกุมตัวบุคคลต่อไป
วานนี้ (24 เม.ย.) ที่ สน.โชคชัย พ.ต.อ.น้ำเพ็ชร ทรัพย์อุดม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.โชคชัย กล่าวถึงกรณีมือปืนไอ้โม่งบุกกระหน่ำยิงนายกมล ดวงผาสุก หรือ “ไม้หนึ่ง ก. กุนที” นักกวีเสื้อแดง เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถร้านอาหารครกไม้ไทย ลาว ซอยลาดปลาเค้า 24 แยก 2 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.เมโย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนยังคงทำงานกันอย่างหนักเพื่อคลี่คลายคดี โดยฝ่ายสอบสวนได้เรียกพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์คนที่อยู่ระแวกที่เกิดเหตุ รวมทั้งเพื่อนที่เดินทางไปกับผู้ตายในวันเกิดเหตุ พร้อมเพื่อนสนิทและญาติคนอื่นๆ มาสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลเบาะแสเหตุจูงใจถึงการสังหารนายกมลในครั้งนี้
ขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมและเพื่อนผู้ตายไปแล้วกว่า 9 ปาก มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฝ่ายสอบสวนยังต้องทำงานตามฝ่ายสืบสวน เนื่องจากฝ่ายสืบสวนจะมีข้อมูลละเอียดมากกว่า รวมทั้งไล่ดูกล้องวงจรปิดอยู่หลายจุดหลายตัว ขณะเดียวกันก็จะเรียกพยานมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกหลายปาก แต่ละคนมีความประสงค์ที่จะให้ข้อมูล โดยมีพยานหลายคนเห็นเหตุการณ์ชัดเจน แต่เพื่อความปลอดภัยพยานเหล่านี้ไม่ประสงค์ที่จะแสดงตัวจึงประสานให้ฝ่ายสืบสวนตามประกบ เชื่อว่าหากสอบปากคำครบน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูป คดีรวมทั้งตำหนิรูปพรรณสันฐานของคนร้ายเพื่อให้ง่ายต่อการติดตามของฝ่ายสืบสวนมากขึ้น
ด้าน พ.ต.ท.นเรนทร์ เครื่องสนุก สว.สส.สน.โชคชัย กล่าวว่า ความคืบหน้ายังมีไม่มากนัก ขณะนี้กำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดและจะนำกล้องวงจรปิดที่ได้จำนวนหลายจุดมาดูให้ละเอียดเพื่อวิเคราะห์และหาเบาะแสรวมทั้งเส้นทางหลบหนีตำหนิยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ ตอนนี้ยังได้กล้องไม่ครบและยังดูไม่หมด จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดไปประชุมร่วมกันทั้งฝ่ายสอบสวน ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.4 และฝ่ายสืบสวนของ บก.สส.บช.น.ซึ่งมีการแบ่งทีมการทำงาน โดยฝ่ายสืบสวนของ สน.จะดูกล้องวงจรปิดเป็นหลัก เชื่อว่าเมื่อมีการประชุมหลายๆ ฝ่ายนำข้อมูลมาประกอบกันน่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น ขณะนี้ยังตั้งประเด็นการสืบสวนคลี่คลายคดีไว้กว้างๆ ทั้งเรื่องการเมือง ความขัดแย้งส่วนตัว เรื่องธุรกิจ และเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และมีอุปนิสัยค่อนข้างเจ้าชู้
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวด้านการสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุได้ตามดูพฤติกรรมของผู้ตายจนแน่ชัดว่าจะเดินทางไปไหนทำอะไร และมีการวางแผนมาอย่างดี แต่ตัดสินใจลงมือสังหารอย่างอุกอาจในช่วงกลางวันแสกๆ และมีผู้คนเห็นเยอะ อาจเป็นเพราะสบโอกาสพอดี โดยปกติแล้วผู้ตายมักมากินข้าวที่ร้านครกไม้ไทยลาวเหมือนเป็นลูกค้าขาประจำ แต่ละสัปดาห์จะเข้ามากินอาหารที่ร้านแห่งนี้อย่างน้อย 2-3 ครั้ง และในวันเกิดเหตุผู้ตายได้นัดเพื่อนมาเซ็นสัญญาเกี่ยวกับการเปิดสถานีวิทยุ ที่ผู้ตายเตรียมจะเปิดสถานีวิทยุเกี่ยวกับเสื้อแดงในพื้นที่กรุงเทพฯ เร็วๆ นี้ จึงนัดแนะมาพูดคุย เตรียมเอกสารมาเซ็นสัญญาเกี่ยวกับการเปิดคลื่นวิทยุที่ร้านดังกล่าว ก่อนจะถูกมือปืนมาดักยิงระหว่างจะเดินทางออกจากร้านอาหารที่บริเวณลานจอดรถ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุยิงนายกมล ดวงผาสุก หรือไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีเสื้อแดง เสียชีวิต บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านอาหารครกไม้ไทยลาว ซ.ลาดปลาเค้า 24 ว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างผบช.น.ก็ได้มีการสั่งกำชับให้มีการเร่งรัดคดีนี้ โดยมอบหมายให้รองผบช.น.ลงไปกำกับการสืบสวนสอบสวนคดี อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด รวมทั้งสาเหตุของการสังหารว่ามาจากเรื่องใด โดยในช่วงเย็นวันนี้ได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้ที่ บช.น. ซึ่งตนจะเดินทางไปร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจให้น้ำหนักปมสังหารว่ามาจากเรื่องใด พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยืนยันตลอดเวลาว่าหากเราไม่สามารถยืนยันว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดได้ เราคงจะไม่สามารถสรุปว่าปมสังหารมาจากสาเหตุส่วนตัว หรือ การเมือง เมื่อถามว่า นายกมล มีบทบาทในกลุ่มเสื้อแดง จึงอาจตกเป็นเป้าจากฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนเฉพาะพฤติกรรมบุคคลของผู้ตายยังไม่มีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามที่จะมาทำร้าย อย่างไรก็ตามคดีนี้มีเริ่มมีเบาะแส โดยล่าสุดมีรายงานว่าพบรถผู้ต้องสงสัยมาจอดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบรถต้องสงสัยคันนี้ ซึ่งหากสามารถยืนยันรถได้ว่า ก็จะนำไปสู่การจับกุมตัวบุคคลต่อไป