ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานกกต.ว่า ตั้งแต่ เวลา 09.00 น. วานนี้ (9 เม.ย.) สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ที่กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งทั้ง 58 จังหวัดได้ทยอยเดินทางมารับหนังสือรับรอง เพื่อไปรายงานตัวที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยในจำนวนส.ว.ที่มารับหนังสือคือนางอาภรณ์ สาราคำ ส.ว.อุดรธานี ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งนายขวัญชัย ก็เดินทางมาให้กำลังใจ ท่ามกลางความสนใจของสื่อฯ ที่ได้สอบถามถึงอาการหลังถูกยิง ซึ่งนายขวัญชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว
ทั้งนี้ ตลอดวานนี้ มีส.ว.เดินทางมารับหนังสือรับรองแล้ว 45 คน อาทิ นางอาภรณ์ สาราคำ ส.ว. อุดรธานี นายอภิชาต ดำดี ส.ว.กระบี่ นายศรีเมือง เจริญศิริ ส.ว.มหาสารคาม นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ว.ชัยนาท โดยมี ผู้ที่กกต.ประกาศรับรองแล้ว แต่ยังไม่ได้มารับหนังสือรับรองอีก 13 คน ประกอบด้วย นางพจนา กิจกาญจน์ ส.ว.จันทบุรี นายอดิศร กำเนิดศิริ ส.ว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ ส.ว.ชุมพร นายสมศักดิ์ โล่สถาพรพิพิธ ส.ว.ตรัง นายสมหวัง อภิชัยรักษ์ ส.ว.ปัตตานี นายทวี ภูมิสิงหราช ส.ว.พัทลุง นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ว.ยะลา นายสมเกียรติ พื้นแสน ส.ว.ร้อยเอ็ด นายสุรชัย ปิตุเตชะ ส.ว.ระยอง นายอนุมัติ อาหมัด ส.ว.สงขลา นายอิบรอเหม อาดำ ส.ว.สตูล นางดวงพร เทียนทอง ส.ว.สระแก้ว นายบุญส่ง เกิดหลำ ส.ว. สระบุรี
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการที่ กกต. ยังไม่ประกาศรับรองส.ว. 19 จังหวัดว่า เพราะมีเรื่องคัดค้านเข้ามา ที่ต้องสอบสวนข้อเท็จจริง แต่หลายเรื่องก็ยังไม่มีน้ำหนักมากนัก เช่น กรณีการติดโปสเตอร์ คัดเอ๊าต์ การหาเสียงทำให้สำคัญผิด ที่ใช้รูปในอดีตนำมาหาเสียง ซึ่งการร้องคัดค้านแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คาดว่า กกต.จะประกาศรับรองส.ว.ชุดต่อไปได้ในเร็วๆ นี้
"ประเด็นร้องคัดค้านที่มูลเหตุ เช่น ซื้อเสียง ปราศรัยให้ร้าย หรืออื่นๆ จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว หากเสร็จก่อน 30 วัน กกต.ก็จะพิจารณาว่าจะประกาศ หรือไม่ประกาศบุคคลนั้นเป็นส.ว. แต่ถ้าเสร็จไม่ทัน กกต.ก็จะประกาศรับรองผลไปก่อน แล้วจึงจะมาพิจารณา ถ้าพบว่าเป็นความผิดที่สามารถให้ใบเหลือง ใบแดงได้ ก็ต้องส่งเรื่องไปศาลฎีกา ”นายสมชัย กล่าว และว่า การประกาศรับรองผลส.ว.ในรอบที่ 2 เชื่อว่าจะมีจำนวนไม่มาก และคงไม่เพียงพอที่จะทำให้เปิดประชุมสภาได้
สำหรับกรุงเทพฯ มีร้องเรียนเข้ามา 4 เรื่อง แต่บางคำร้องก็เป็นเรื่องที่ไม่มีน้ำหนัก บางเรื่องมีประเด็นที่ กกต.กทม. ต้องสอบสวนก่อน แล้วส่งเรื่องมาที่ กกต.กลาง
**"ศรีเมือง"แบะท่าพร้อมเป็นปธ.วุฒิ
นายศรีเมือง เจริญศิริ ส.ว.มหาสารคาม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าแสดงตนต่อวุฒิสภา ถึงการทำหน้าที่ ส.ว.ว่าจะยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก และต้องอ่านรัฐธรรมนุญปี 50 ให้เข้าใจ เพราะค่อนข้างเข้าใจยาก ส่วนจะเข้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือไม่นั้น คิดว่ายังเป็นเรื่องห่างไกลที่จะพูดถึง เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงรับรองส.ว.อยู่ ยังไม่มีการประชุมใดๆ ทั้งสิ้น คงต้องให้สมาชิกได้ทำงานร่วมกันซักระยะ ซึ่งหลังจากนั้นส.ว.แต่ละคนคงจะเห็นว่า ใครเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนสมาชิกมากที่สุด ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร
อย่างไรก็ตาม คิดว่าคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าทำหน้าที่ประธานวุฒิสภา จะต้องมีความรู้ เป็นอิสระ มีความรับผิดชอบ และจากประสบการณ์ที่เป็นส.ว.ชุดแรก ไม่เคยเจอส.ว.ที่แบ่งออกมาเป็น 2 ฝ่าย ก็คงต้องเรียนรู้กันไป คิดว่าผู้ที่จะเข้ามาชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา คงต้องดูว่า ใครทำตัวให้เป็นที่น่านับถือ ให้เพื่อนเคารพไว้ใจ ก็อาจได้รับเลือกก็ได้
เมื่อถามว่า ถ้าหากมีเพื่อนสมาชิกเสนอให้เป็นประธานวุฒิสภา นายศรีเมือง กล่าวว่า อยู่ที่ว่าตนทำตัวให้เพื่อน ส.ว.เคารพนับถือ และเชื่อใจกันหรือไม่ แต่ส่วนตัวเมื่ออาสามาทำงานเพื่อบ้านเมือง อะไรถ้าทำเพื่อบ้านเมือง ก็ต้องทำทั้งนั้น เมื่อถามว่า มีกระแสออกมาว่า มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายศรีเมือง กล่าวว่า ตนรู้จักกับพ.ต.ท.ทักษิณ มาหลายสิบปี เพราะเคยอยู่พรรคพลังธรรมด้วยกัน เมื่อปี 37 จากนั้นตนก็มาเป็นส.ว.ชุดแรก เมื่อปี 43 ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับเลือกเป็น นายกรัฐมนตรี ในปีต่อมา พอตนหมดวาระจาก ส.ว. ก็มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน ก็ได้รีบเลือกให้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ เบอร์ 1 ของโซนอีสาน แต่ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค และตัดสิทธิ 5 ปี ก็ไม่ได้ยุ่งกับการเมือง ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาลงส.ว.ก็ไม่ได้คุยกันกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด ตนสมัครเอง
ส่วนที่มีกระแสว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนตนให้ชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภานั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้เกี่ยวกับส.ว. เพราะ ส.ว.ไม่ได้มีพรรคการมือง สังกัด ตนมาจากการเลือกตั้งของประชาชน จ.มหาสารคาม เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว
** "จองชัย"คุยจะสลายขั้วส.ว.
นายจองชัย เที่ยงธรรม ส.ว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ตนไม่หนักใจ ที่ได้รับเลือกเป็นส.ว.ถือว่าเป็นการลองของ โดยภารกิจแรกจะทำตามสิทธิ และหน้าที่ของส.ว.ที่มี แม้จะยังเปิดประชุมวุฒิสภาไม่ได้อย่างชัดเจน แต่เชื่อว่าจะทำหน้าที่นอกห้องประชุมไปก่อนได้ ขณะเดียวกัน ตนมีแนวคิดต้องการจะสลายพฤติกรรมการแบ่งขั้วของ ส.ว. เพราะเรื่องการแบ่งกลุ่ม เป็นเรื่องน่ากลัว ถ้ายังจะมีการฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเกิดความลำบาก ส่วนปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ก็ยังไม่เชื่อว่าจะเป็นทางตัน ถ้าทางตันจริงๆ ก็สามารถหาทางออกได้ด้วยข้อกฏหมาย
ส่วนเรื่อ'ที่มีชื่อตนเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภานั้น ตนพร้อมเสนอตัวเอง แต่เบื้องต้น ต้องขอตรวจสอบเสียงสนับสนุนก่อน ว่ามีมากน้อยแค่ไหนาทั้งนี้ ตนพร้อมที่จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาอยู่แล้ว หากได้รับเลือก
เมื่อถามว่า มีการคาดหมายว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมือง นายจองชัย กล่าวว่า ยอมรับว่ามีเสียงส.ส.- ส.ว.สนับสนุน หากตนอยากเป็นประธานวุฒิสภา ก็ต้องได้รับการสนับสนุน แต่ก็ต้องดูจำนวนเสียง แต่ถ้าไม่มั่นคง ก็ไม่เสนอตัวเอง เมื่อถามต่อว่ากังวลหรือไม่ ที่ถูกมองว่า เป็น ส.ว.ที่ถูกครอบงำจากพรรคการเมือง นายจองชัย กล่าวว่า ความเป็นการเมืองต้องติดตัวอยู่แลัว เพราะพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ จากส.ส.ต้องสังกัดพรรรการเมือง ดังนั้นจึงต้องมีพรรคพวกผ่านการสัมผัสทางการเมือง แต่ก็ยังมีการถูกให้เว้นวรรคการทำหน้าที่ถึง 5 ปี จึงอยู่ที่ตัวคนแล้วว่าจะแยกตัวออกจากพรรคการเมือง ได้หรือไม่
ทั้งนี้ ตลอดวานนี้ มีส.ว.เดินทางมารับหนังสือรับรองแล้ว 45 คน อาทิ นางอาภรณ์ สาราคำ ส.ว. อุดรธานี นายอภิชาต ดำดี ส.ว.กระบี่ นายศรีเมือง เจริญศิริ ส.ว.มหาสารคาม นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ว.ชัยนาท โดยมี ผู้ที่กกต.ประกาศรับรองแล้ว แต่ยังไม่ได้มารับหนังสือรับรองอีก 13 คน ประกอบด้วย นางพจนา กิจกาญจน์ ส.ว.จันทบุรี นายอดิศร กำเนิดศิริ ส.ว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ ส.ว.ชุมพร นายสมศักดิ์ โล่สถาพรพิพิธ ส.ว.ตรัง นายสมหวัง อภิชัยรักษ์ ส.ว.ปัตตานี นายทวี ภูมิสิงหราช ส.ว.พัทลุง นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ว.ยะลา นายสมเกียรติ พื้นแสน ส.ว.ร้อยเอ็ด นายสุรชัย ปิตุเตชะ ส.ว.ระยอง นายอนุมัติ อาหมัด ส.ว.สงขลา นายอิบรอเหม อาดำ ส.ว.สตูล นางดวงพร เทียนทอง ส.ว.สระแก้ว นายบุญส่ง เกิดหลำ ส.ว. สระบุรี
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการที่ กกต. ยังไม่ประกาศรับรองส.ว. 19 จังหวัดว่า เพราะมีเรื่องคัดค้านเข้ามา ที่ต้องสอบสวนข้อเท็จจริง แต่หลายเรื่องก็ยังไม่มีน้ำหนักมากนัก เช่น กรณีการติดโปสเตอร์ คัดเอ๊าต์ การหาเสียงทำให้สำคัญผิด ที่ใช้รูปในอดีตนำมาหาเสียง ซึ่งการร้องคัดค้านแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คาดว่า กกต.จะประกาศรับรองส.ว.ชุดต่อไปได้ในเร็วๆ นี้
"ประเด็นร้องคัดค้านที่มูลเหตุ เช่น ซื้อเสียง ปราศรัยให้ร้าย หรืออื่นๆ จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว หากเสร็จก่อน 30 วัน กกต.ก็จะพิจารณาว่าจะประกาศ หรือไม่ประกาศบุคคลนั้นเป็นส.ว. แต่ถ้าเสร็จไม่ทัน กกต.ก็จะประกาศรับรองผลไปก่อน แล้วจึงจะมาพิจารณา ถ้าพบว่าเป็นความผิดที่สามารถให้ใบเหลือง ใบแดงได้ ก็ต้องส่งเรื่องไปศาลฎีกา ”นายสมชัย กล่าว และว่า การประกาศรับรองผลส.ว.ในรอบที่ 2 เชื่อว่าจะมีจำนวนไม่มาก และคงไม่เพียงพอที่จะทำให้เปิดประชุมสภาได้
สำหรับกรุงเทพฯ มีร้องเรียนเข้ามา 4 เรื่อง แต่บางคำร้องก็เป็นเรื่องที่ไม่มีน้ำหนัก บางเรื่องมีประเด็นที่ กกต.กทม. ต้องสอบสวนก่อน แล้วส่งเรื่องมาที่ กกต.กลาง
**"ศรีเมือง"แบะท่าพร้อมเป็นปธ.วุฒิ
นายศรีเมือง เจริญศิริ ส.ว.มหาสารคาม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าแสดงตนต่อวุฒิสภา ถึงการทำหน้าที่ ส.ว.ว่าจะยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก และต้องอ่านรัฐธรรมนุญปี 50 ให้เข้าใจ เพราะค่อนข้างเข้าใจยาก ส่วนจะเข้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือไม่นั้น คิดว่ายังเป็นเรื่องห่างไกลที่จะพูดถึง เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงรับรองส.ว.อยู่ ยังไม่มีการประชุมใดๆ ทั้งสิ้น คงต้องให้สมาชิกได้ทำงานร่วมกันซักระยะ ซึ่งหลังจากนั้นส.ว.แต่ละคนคงจะเห็นว่า ใครเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนสมาชิกมากที่สุด ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร
อย่างไรก็ตาม คิดว่าคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าทำหน้าที่ประธานวุฒิสภา จะต้องมีความรู้ เป็นอิสระ มีความรับผิดชอบ และจากประสบการณ์ที่เป็นส.ว.ชุดแรก ไม่เคยเจอส.ว.ที่แบ่งออกมาเป็น 2 ฝ่าย ก็คงต้องเรียนรู้กันไป คิดว่าผู้ที่จะเข้ามาชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา คงต้องดูว่า ใครทำตัวให้เป็นที่น่านับถือ ให้เพื่อนเคารพไว้ใจ ก็อาจได้รับเลือกก็ได้
เมื่อถามว่า ถ้าหากมีเพื่อนสมาชิกเสนอให้เป็นประธานวุฒิสภา นายศรีเมือง กล่าวว่า อยู่ที่ว่าตนทำตัวให้เพื่อน ส.ว.เคารพนับถือ และเชื่อใจกันหรือไม่ แต่ส่วนตัวเมื่ออาสามาทำงานเพื่อบ้านเมือง อะไรถ้าทำเพื่อบ้านเมือง ก็ต้องทำทั้งนั้น เมื่อถามว่า มีกระแสออกมาว่า มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายศรีเมือง กล่าวว่า ตนรู้จักกับพ.ต.ท.ทักษิณ มาหลายสิบปี เพราะเคยอยู่พรรคพลังธรรมด้วยกัน เมื่อปี 37 จากนั้นตนก็มาเป็นส.ว.ชุดแรก เมื่อปี 43 ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับเลือกเป็น นายกรัฐมนตรี ในปีต่อมา พอตนหมดวาระจาก ส.ว. ก็มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน ก็ได้รีบเลือกให้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ เบอร์ 1 ของโซนอีสาน แต่ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค และตัดสิทธิ 5 ปี ก็ไม่ได้ยุ่งกับการเมือง ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาลงส.ว.ก็ไม่ได้คุยกันกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด ตนสมัครเอง
ส่วนที่มีกระแสว่า พรรคเพื่อไทยสนับสนุนตนให้ชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภานั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้เกี่ยวกับส.ว. เพราะ ส.ว.ไม่ได้มีพรรคการมือง สังกัด ตนมาจากการเลือกตั้งของประชาชน จ.มหาสารคาม เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว
** "จองชัย"คุยจะสลายขั้วส.ว.
นายจองชัย เที่ยงธรรม ส.ว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ตนไม่หนักใจ ที่ได้รับเลือกเป็นส.ว.ถือว่าเป็นการลองของ โดยภารกิจแรกจะทำตามสิทธิ และหน้าที่ของส.ว.ที่มี แม้จะยังเปิดประชุมวุฒิสภาไม่ได้อย่างชัดเจน แต่เชื่อว่าจะทำหน้าที่นอกห้องประชุมไปก่อนได้ ขณะเดียวกัน ตนมีแนวคิดต้องการจะสลายพฤติกรรมการแบ่งขั้วของ ส.ว. เพราะเรื่องการแบ่งกลุ่ม เป็นเรื่องน่ากลัว ถ้ายังจะมีการฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเกิดความลำบาก ส่วนปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ก็ยังไม่เชื่อว่าจะเป็นทางตัน ถ้าทางตันจริงๆ ก็สามารถหาทางออกได้ด้วยข้อกฏหมาย
ส่วนเรื่อ'ที่มีชื่อตนเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภานั้น ตนพร้อมเสนอตัวเอง แต่เบื้องต้น ต้องขอตรวจสอบเสียงสนับสนุนก่อน ว่ามีมากน้อยแค่ไหนาทั้งนี้ ตนพร้อมที่จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาอยู่แล้ว หากได้รับเลือก
เมื่อถามว่า มีการคาดหมายว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมือง นายจองชัย กล่าวว่า ยอมรับว่ามีเสียงส.ส.- ส.ว.สนับสนุน หากตนอยากเป็นประธานวุฒิสภา ก็ต้องได้รับการสนับสนุน แต่ก็ต้องดูจำนวนเสียง แต่ถ้าไม่มั่นคง ก็ไม่เสนอตัวเอง เมื่อถามต่อว่ากังวลหรือไม่ ที่ถูกมองว่า เป็น ส.ว.ที่ถูกครอบงำจากพรรคการเมือง นายจองชัย กล่าวว่า ความเป็นการเมืองต้องติดตัวอยู่แลัว เพราะพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ จากส.ส.ต้องสังกัดพรรรการเมือง ดังนั้นจึงต้องมีพรรคพวกผ่านการสัมผัสทางการเมือง แต่ก็ยังมีการถูกให้เว้นวรรคการทำหน้าที่ถึง 5 ปี จึงอยู่ที่ตัวคนแล้วว่าจะแยกตัวออกจากพรรคการเมือง ได้หรือไม่
