เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดย่านเศรษฐกิจในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อเช้าวันที่ 7 เมษายน 2557 โดยเฉพาะโกดังศรีสมัยค้าส่ง ถนนสิโรรส ที่เกิดเพลิงไหม้ตามมา สินค้าภายในโกดังเสียหายกว่า 100 ล้านบาทนั้น
ไม่ใช่ความสูญเสียครั้งแรกของเจ้าของโกดัง เพราะเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2555 ก็เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดห้างซุปเปอร์ ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ สาขานราธิวาส เสียหายกว่า 70 ล้านบาท
และเมื่อย้อนหลังไปอีก ห้างซุปเปอร์ ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ สาขาปัตตานี ก็ถูกคนร้ายลอบวางเพลิง ตามด้วยเผาโกดังสินค้า 2 แห่งในจ.ยะลา ลอบวางระเบิดร้านสะดวกซื้อ 6 ครั้งในรอบ 6 เดือน
"นางวราพรณ์ ศิริไชย" ซึ่งเป็นเจ้าของทั้งโกดังศรีสมัยค้าส่ง ห้างซุปเปอร์ ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ร้านสะดวกซื้อใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอชายแดนจ.สงขลา จึงตกอยู่ในสถานะของ "เหยื่อซ้ำซาก" ที่แสนจะเจ็บช้ำน้ำใจ
เพราะอะไร?
นางวราพรณ์บอกว่า "หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ กำลังใจทรุดลงเป็นอย่างมาก ท้อแท้ ไม่มีแรงที่จะทำต่อ เพราะยังไม่รู้ได้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ภาครัฐจะช่วยเหลืออย่างไรไม่รู้ได้ ซัพพลายเออร์และประกันจะช่วยได้มากน้อยเพียงใด อยากจะขอให้ทั้งรัฐบาล เอกชนช่วยเหลือ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ พนักงานทั้งหมดจะได้ไม่ตกงาน เพราะหากหยุดกิจการ พนักงานทั้งหมดก็ถูกลอยแพ ตอนนี้มีพนักงานในเครือทั้ง 3 จังหวัดกว่า 1,000 คน เนื่องจากศรีสมัยค้าส่งทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 อำเภอของจ.สงขลา"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกิจการของเราหลายสิบครั้งแล้ว แต่ละครั้งก็หนักเอาการ เหตุการณ์ไหนที่แก้ไขได้เราก็พยายามแก้ด้วยตัวเองมาตลอด ก็อยากให้ภาครัฐเยียวยาให้กำลังใจ รวมถึงซัพพลายเออร์ก็ต้องเข้าใจ และเป็นแรงผลักดันให้เราเดินหน้าต่อไปได้ และอยากจะบอกผู้ก่อเหตุว่าให้เห็นใจคนที่ทำมาหากินบ้าง อย่างน้อยเราก็เป็นคนในพื้นที่ อยู่มากว่า 60 ปี ขอให้คนรุ่นหลังได้อยู่ได้ เชื่อมต่อธุรกิจไปได้ ขอให้เกิดความสงบสุข อยู่ร่วมกันได้"
ด้าน"นายอุปถัมภ์ ศิริไชย" บุตรชายผู้รับช่วงดำเนินกิจการบอกว่า "กิจการของศรีสมัยได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงวันนี้ไม่ต่ำกว่า 40 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด คนงานอีกกว่า 200 ชีวิตได้รับผลกระทบ แต่ยืนยันจะไม่ทิ้ง เราจะกระจายไปยังเครือของศรีสมัยเพื่อให้มีงานทำ เพราะเราก็ยังหวังที่จะสู้และดำเนินธุรกิจต่อไป"
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือศอ.บต. มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นให้แก่เจ้าโกดังศรีสมัยค้าส่ง 2 ล้านบาท ขณะที่ทางจังหวัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
จึงต้องทิ้งท้ายว่า "เหยื่อซ้ำซาก" รายนี้แสนจะเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2555 นางวราพรณ์ก็เคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า
"เจ็บปวดที่สุดในชีวิต ธุรกิจในครอบครัวตกเป็นเป้าถูกทำลายหลายครั้ง การเยียวยาของภาครัฐที่ผ่านมาไม่ถึงร้อยละ 10 ของความเสียหายจริง จึงไม่คาดหวังมากนัก แต่เราก็ต้องต้องดูแลพนักงานไปจนกว่าจะสร้างอาคารใหม่เสร็จ ที่แรกบอกตรงๆว่าเข่าแทบทรุด ไม่มีแรงที่จะทำต่อแล้ว ทุกคนในครอบครัวอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า เอาอีกแล้ว หมดตัวแน่ ตั้งแต่ปี 2547 ถูกระเบิดและเพลิงไหม้ 17 ครั้งแล้ว จะให้ฟื้นตัวได้อย่างไร"
วันที่ 7 เมษายน 2557 จึงอาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย!!!
ไม่ใช่ความสูญเสียครั้งแรกของเจ้าของโกดัง เพราะเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2555 ก็เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดห้างซุปเปอร์ ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ สาขานราธิวาส เสียหายกว่า 70 ล้านบาท
และเมื่อย้อนหลังไปอีก ห้างซุปเปอร์ ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ สาขาปัตตานี ก็ถูกคนร้ายลอบวางเพลิง ตามด้วยเผาโกดังสินค้า 2 แห่งในจ.ยะลา ลอบวางระเบิดร้านสะดวกซื้อ 6 ครั้งในรอบ 6 เดือน
"นางวราพรณ์ ศิริไชย" ซึ่งเป็นเจ้าของทั้งโกดังศรีสมัยค้าส่ง ห้างซุปเปอร์ ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ร้านสะดวกซื้อใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอชายแดนจ.สงขลา จึงตกอยู่ในสถานะของ "เหยื่อซ้ำซาก" ที่แสนจะเจ็บช้ำน้ำใจ
เพราะอะไร?
นางวราพรณ์บอกว่า "หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ กำลังใจทรุดลงเป็นอย่างมาก ท้อแท้ ไม่มีแรงที่จะทำต่อ เพราะยังไม่รู้ได้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ภาครัฐจะช่วยเหลืออย่างไรไม่รู้ได้ ซัพพลายเออร์และประกันจะช่วยได้มากน้อยเพียงใด อยากจะขอให้ทั้งรัฐบาล เอกชนช่วยเหลือ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ พนักงานทั้งหมดจะได้ไม่ตกงาน เพราะหากหยุดกิจการ พนักงานทั้งหมดก็ถูกลอยแพ ตอนนี้มีพนักงานในเครือทั้ง 3 จังหวัดกว่า 1,000 คน เนื่องจากศรีสมัยค้าส่งทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 อำเภอของจ.สงขลา"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกิจการของเราหลายสิบครั้งแล้ว แต่ละครั้งก็หนักเอาการ เหตุการณ์ไหนที่แก้ไขได้เราก็พยายามแก้ด้วยตัวเองมาตลอด ก็อยากให้ภาครัฐเยียวยาให้กำลังใจ รวมถึงซัพพลายเออร์ก็ต้องเข้าใจ และเป็นแรงผลักดันให้เราเดินหน้าต่อไปได้ และอยากจะบอกผู้ก่อเหตุว่าให้เห็นใจคนที่ทำมาหากินบ้าง อย่างน้อยเราก็เป็นคนในพื้นที่ อยู่มากว่า 60 ปี ขอให้คนรุ่นหลังได้อยู่ได้ เชื่อมต่อธุรกิจไปได้ ขอให้เกิดความสงบสุข อยู่ร่วมกันได้"
ด้าน"นายอุปถัมภ์ ศิริไชย" บุตรชายผู้รับช่วงดำเนินกิจการบอกว่า "กิจการของศรีสมัยได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงวันนี้ไม่ต่ำกว่า 40 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด คนงานอีกกว่า 200 ชีวิตได้รับผลกระทบ แต่ยืนยันจะไม่ทิ้ง เราจะกระจายไปยังเครือของศรีสมัยเพื่อให้มีงานทำ เพราะเราก็ยังหวังที่จะสู้และดำเนินธุรกิจต่อไป"
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือศอ.บต. มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นให้แก่เจ้าโกดังศรีสมัยค้าส่ง 2 ล้านบาท ขณะที่ทางจังหวัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
จึงต้องทิ้งท้ายว่า "เหยื่อซ้ำซาก" รายนี้แสนจะเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2555 นางวราพรณ์ก็เคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า
"เจ็บปวดที่สุดในชีวิต ธุรกิจในครอบครัวตกเป็นเป้าถูกทำลายหลายครั้ง การเยียวยาของภาครัฐที่ผ่านมาไม่ถึงร้อยละ 10 ของความเสียหายจริง จึงไม่คาดหวังมากนัก แต่เราก็ต้องต้องดูแลพนักงานไปจนกว่าจะสร้างอาคารใหม่เสร็จ ที่แรกบอกตรงๆว่าเข่าแทบทรุด ไม่มีแรงที่จะทำต่อแล้ว ทุกคนในครอบครัวอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า เอาอีกแล้ว หมดตัวแน่ ตั้งแต่ปี 2547 ถูกระเบิดและเพลิงไหม้ 17 ครั้งแล้ว จะให้ฟื้นตัวได้อย่างไร"
วันที่ 7 เมษายน 2557 จึงอาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย!!!