xs
xsm
sm
md
lg

บึ้มโกดังระเบิดยุคสงครามโลกครั้งที่2 พบตายเพิ่มหนึ่ง โผล่อีกที่ศรีราชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รองผบ.ตร.เอก ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุโกดังรับซื้อของเก่าระเบิด ภายในซ.ลาดปลาเค้า พบเป็นระเบิดในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 รัศมีการทำลายล้าง 500 เมตรบ้านเรือนเสียหายกว่า 10 หลัง พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ศพ คาดระเบิดซุกอยู่ดินที่นำมาถม ยอมรับไทยไม่มีค้นหาระเบิดที่ตกค้างอย่างจริงจัง เตรียมแจ้งข้อหาเจ้าของโกดังเพราะไม่มีอนุญาต ขณะที่ระเบิดชนิดเดียวกันโผล่อีกในสระน้ำโรงงานนิคมฯ เหมราช อ.ศรีราชา

วานนี้ (3 เม.ย) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. พร้อม ด้วย พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิระศักดิ์ ฝอยทอง ผกก.สน.บางเขน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้เเละตรวจพิสูจน์วัตถุ ระเบิด(อีโอดี) ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าภายในซอยลาดปลาเค้า 72 แยก 14 หลังจากเกิดเหตุระเบิดจนมีผู้บาดเจ็บเเละเสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า วันนี้ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายเหตุระเบิดร้านขายของเก่าอีกครั้ง ซึ่งพบว่า จากที่รายงานเบื้องต้นวานนี้ว่ามีผู้เสีย ชีวิตทั้งหมด 7 รายนั้น ล่าสุดพบเศษชิ้นส่วนอวัยวะเพิ่มเติม เมื่อนำมาประกอบร่าง พบว่าเป็นศพเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 3 ปี ผลผู้เสียชีวิตขณะนี้เท่ากับ 8 รายบาด เจ็บอีก 16 ราย โดยรัศมีการทำลายล้างของระเบิดดังกล่าวมีรัศมีอยู่ที่500 เมตร เป็นผลให้มีอาคารบ้านเรือนเสียหายกว่า 10 หลัง ในส่วนของคดีนั้น ได้มีการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน พบว่าร้านขายของเก่าดังกล่าว เปิดทำการมาเเล้ว 3 ปีซึ่งได้มีการขอทำใบอนุญาตไปเเล้วเบื้องต้น เเต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว จึงจะมีการเเจ้งข้อหากับเจ้าของร้านขายของเก่า กรณีเปิดประกอบการโดย ไม่มีใบอนุญาตซึ่งสำหรับข้อหาอื่นๆนั้นต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าข่ายการก ระทำความผิดใดๆอีกบ้าง ซึ่งถือว่าน่าเห็นใจมาก เนื่องจากเจ้าของร้านขายของเก่าเองก็เสียชีวิตลงจากเหตุดังกล่าวด้วย

พล.ต.อ.เอก กล่าวอีกว่า จากการสอบถามจากหน่วยอีโอดีทราบว่า ระเบิดดัง กล่าวเป็นระเบิดอากาศ ที่มีอายุกว่า 70 ปีมาเเล้ว เเละใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่ง เป็นไปได้ว่าน่าจะมีการตกหล่นอยู่อีกมาก เนื่องจากต้องยอมรับว่าเราไม่ได้มีวิธีใน การค้นหาระเบิดตกค้างอย่างจริงจัง ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุน่าสลดนี้เคยเจอระเบิด ลักษณะคล้ายกับลูกที่เกิดเหตุมาถึง 3 ครั้งเเล้ว ซึ่งเจอทั้งในกรุงเทพฯเเละต่างจังหวัด ซึ่งขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนว่าหากเจอวัตถุต้องสงสัยอย่า พยายามที่จะงัด เเงะ ด้วยตัวเอง ให้เเจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จะ ได้ไม่เกิดเหตุสลดเช่นนี้อีก เบื้องต้นคาดว่ายังคงมีระเบิดดังกล่าวหลงเหลือ ฝังอยู่ใน ดินอย่างเเน่นอน โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นบริเวณของราชการซึ่งจากการตรวจสอบ สถานที่เกิดเหตุบริเวณลาดปลาเค้า 72 นี้ ไม่น่าจะใช่ยุทธศาสตร์น่าจะเป็นการขุด ดินมาจากที่อื่นเเละนำมาถมที่ กระทั่งคนงานก่อสร้างขุดเจอ โดยเหตุการณ์ถือให้ เป็นกรณีศึกษาครั้งใหญ่สำหรับประเทศไทย

ด้านพ.ต.อ.วิระศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ได้จัดพนักงานสอบสวนจำนวนกว่า 10 นายเข้า มารับแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป ซึ่งการดำเนินคดีกับร้านรับซื้อของเก่าขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะดำเนินคดี ในข้อหาใดบ้าง แต่เบื้องคาดว่าจะมีการแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอยู่ระหว่าง ประสานสำนักงานเขตหลักสี่ประธานชุมชน ถึงข้อมูลของบุคคลที่สูญหายว่ามี จำนวนเท่าใดก่อนจะเริ่มค้นหาต่อไป

พ.ต.อ.กำธร กล่าวว่า จากการเข้าไปตรวจสอบบริเวณไซด์งานก่อสร้าง ตนยืนยันไม่พบระเบิดอื่นๆอีก ซึ่งจากการสอบถามผู้รับเหมา ทราบว่า ได้ซื้อดินซึ่ง ขุดเจอระเบิดดังกล่าวมาจากย่านบางซื่อ เเต่ไม่สามารถระบุพิกัดได้ซึ่งระเบิดที่เกิด ขึ้นนั้นมีลักษณะเหมือนกับกรณี เมื่อวันที่ 29 มีนาคม เวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งได้ รับเเจ้งว่ามีการตรวจเจอวัตถุระเบิดบริเวณสถานที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีเเดง เขตบางซื่อ2 จึงทำการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเป็นระเบิดอากาศ ขนาด 500 ปอนด์ ซึ่งใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ50 กว่าปีก่อน ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 30 มีนาคม จึงประสานให้กองทัพอากาศนำระเบิดลูกดังกล่าวไปทำลายเเล้ว

นางสาวมาลิสา อุตส่าห์อายุ 41 ปีผู้เช่าบ้านเลขที่72/160 ซอยลาด ปลาเค้า72 แยก 14 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ซึ่งสามีชาวกัมพูชา ทำงานอยู่ที่ ร้านรับซื้อของเก่าที่เกิดเหตุระเบิด กล่าวทั้งน้ำตา ว่าตนเชื่อว่าสามีเสียชีวิต เนื่องจาก มีผู้เห็นเหตุการระบุว่า สามีอยู่ติดกับเหตุระเบิดภายในร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งหลังเกิด เหตุพยายามตามหาสามี จนถึงขณะนี้ก็ยังหาไม่พบ เเต่ลึกๆยังมีความหวังให้สามีรอด ชีวิตอยู่ ส่วนตนเองรอดมาได้ถือเป็นปาฏิหารย์ เพราะถูกสะเก็ดระเบิดทั้งตัว แต่ กลับไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะตัวเองแขวนหลวงปู่แหวน

ด้าน นางสมมาตร จำเริญวรทศอายุ 56 ปีผู้เสียหาย ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 72/215 ซอยลาดปลาเค้า 72 เเยก 14 เเขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กล่าวว่า บ้านตนนั้นตั้ง อยู่ตรงข้ามกับร้านรับซื้อของเก่าที่เกิดเหตุ ปกติบ้านตนจะอยู่ 4-5 คนแต่ในช่วงที่ เกิดระเบิดขึ้นนั้นโชคดีที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านเพราะออกไปทำงานกันหมด หลัง เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นเพื่อนลูกชายที่อาศัยอยู่บ้านใกล้เคียงโทรมาแจ้งให้ทราบ จึงรีบ กลับมาดูที่บ้านพบว่า หลังคาบ้านตนถล่มลงมาพังยับกระจกหน้าต่างและประตูแตก เสียหายแทบทุกบาน ประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท ตอนนี้ต้อง ลงมานอนรวมกันที่ชั้นล่างเพราะชั้นสองไม่มีหลังคา ซึ่งร้านรับซื้อของเก่่าเปิดมา ตั้งแต่ช่วงประมาณปีพ.ศ.2547-2548 แล้ว แต่ไม่เคยเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น เคยเพียง แค่เผายางในพื้นที่สร้างมลพิษรบกวนบ้างเท่านั้น ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้จักสนิมสนมกับ เจ้าของร้านมีเพียงแค่เคยทักทายกันตามประสาคนบ้านใกล้เรือนเคียงเท่านั้น ถ้าเป็น ไปได้อยากจะขอให้ทางเจ้าของร้านดังกล่าวช่วยซ่อมบ้านให้เป็นเหมือนเดิมเท่านั้น ไม่อยากจะเรียกร้องมากมายเพราะทางเขาก็สูญเสียเหมือนกัน แต่เบื้องต้นตนคง ต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อนเพราะหากรอทางรัฐบาลยื่นมือมาช่วยคงจะช้า

นางสาวณัฐนันท์ พานทอง อายุ36 ปี ประธานชุมชนวัดไตรรัตวนาราม กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนภายในชุมชนมาแจ้งข้อมูลเรื่องบ้านเรือน และทรัพย์สินเสียหายแล้ว กว่า 30 หลังคาเรือน ซึ่งยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายใน ครั้งนี้ได้ เเละทางสำนักงานเขตบางเขน จะมีการตั้งโต๊ะรับเรื่องราวร้องทุกข์ รวมถึง ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือเยียวยาคนในชุมชน ซึ่งประชาชนสามารถนำหลักฐานมา แจ้งความจำนงค์ในการขอรับความช่วยเหลือได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นทางกทม. จะช่วยความเสียหายสำหรับบ้านที่เสียหาย ทั้งหลัง เป็นเงิน 3,000 บาท เสียหายบางส่วน 1,500 บาท ขณะที่กรณีผู้บาดเจ็บเข้า รพ.รายละ 3,000 บาท กรณีบาดเจ็บเล็กน้อยไม่เข้ารพ. รายละ 1,500 บาท ส่วนผู้ เสียชีวิตจะช่วยเหลือรายละ10,000 บาท โดยขณะนี้ได้มีประชาชนทยอยเดินทาง เข้าเขียนคำร้องต่อเนื่อง ทั้งนี้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทางชุมชนก็ได้ร่วมกันกับสำนั กงานเขตบางเขน และเจ้าหน้าที่่สน.บางเขน จัดกำลังเฝ้าดูแลในจุดเกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง พบว่าที่ร้านรับซื้อของเก่านั้น ยังคงมีไฟประทุขึ้นมาเป็นระยะๆ ซึ่งเจ้า หน้าที่เทศกิจได้มีการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้ลุกลาม

***พบระเบิดเพิ่มในนิคมฯเหมราช

วานนี้ (3 เม.ย.) พ.ต.ท.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย รองผู้กับกับป้องกันและปราบปราม สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช หมู่ 6 ตำบลบ่อวิน ว่าพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายลูกระเบิดขนาดใหญ่ จึงแจ้งให้ พ.ต.อ.เผ่าถาวร รามนุช ผกก.บ่อวิน รับทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดจริง

หลังจากนั้นจึงได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.อำนาจ พลานไฟฟ้า รอง ผกก.หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD ) อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าตรวจสอบวัตถุดังกล่าว โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงมาถึงจุดที่รับแจ้ง พบเป็นสระกักเก็บน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 200 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร ลึกประมาณ 15 เมตร เป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่แจกจ่ายทั่วในโรงงานต่างๆ ในนิคมฯ

ส่วนสาเหตุที่พบระเบิดดังกล่าว เนื่องจากสระน้ำดังกล่าวแห้งทำให้ลูกระเบิดโผล่ขึ้นมาโดยเป็นระเบิดรุ่นแตกอากาศของกองทัพอากาศ ผลิตจากต่างประเทศสมัยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร ยาว 120 เซนติเมตร หนักประมาณ 500 กิโลกรัม และมีชนวนดินปืนประมาณ 500 ปอนด์ โดยมีรัศมีทำลายล้าง 500 เมตร ซึ่งเป็นอันตรายมากหากระเบิดขึ้น

ด้าน พ.ต.ท.อำนาจ กล่าวต่อไปว่า สำหรับลูกระเบิดดังกล่าวทางหน่วยฯ ไม่มีอุปกรณ์ในการกู้ แต่ลูกระเบิดนี้ยังมีประสิทธิภาพในการทำลายล้าง เพราะยังมีวงจร และชนวนครบ หากถูกแรงกระแทก หรือได้รับอุณหภูมิความร้อนที่พอเหมาะก็สามารถระเบิดขึ้นเองได้ จึงได้ประสานงานไปยังกองทัพอากาศ เพื่อนำลูกระเบิดออกนอกพื้นที่ไปทำลายล้าง

ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าลูกระเบิดดังกล่าวมาอยู่ในสระน้ำแห่งนี้ได้อย่างไร เพราะทราบว่าโรงงานแห่งนี้เพิ่งเปิดดำเนินการได้ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา แต่ลูกระเบิดรุ่นแตกอากาศของกองทัพอากาศในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุประมาณ 70 ปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจสอบหาที่มาของระเบิดดังกล่าวต่อไป

ต่อมาตำรวจ สภ.บ่อวิน ได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดจากกรมสรรพาวุธ ทหารอากาศ ให้มาทำการเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดขนาดใหญ่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นจากสระน้ำของนิคมอุตสาหกรรมเหมราช อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นพื้นที่ก่อนตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดชนิด M118 น้ำหนัก 750 ปอนด์ รัศมีการทำลายล้างกว่า 1 กม.เจ้าหน้าที่ชำนาญการได้ใช้รถเฮี้ยบยกระเบิดลูกดังกล่าวขึ้นจากสระน้ำใส่รถ EOD. เก็บกู้วัตถุระเบิด เพื่อเคลื่อนย้ายไปทำลายที่จังหวัดลพบุรี

พ.ต.อ.เผ่าถาวร รามนุช ผกก.บ่อวิน บอกว่า ระเบิดลูกดังกล่าวคาดว่าจะมีการลักลอบมาทิ้งไว้นานแล้ว เพราะเป็นระเบิดสภาพเก่าสมัยสงครามโลก แต่ที่มาจะเป็นอย่างไรก็มิอาจทราบได้ โดยได้ประสานตำรวจทางหลวงคอยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปทำลายที่ลพบุรีตลอดเส้นทาง และอาจส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจสระน้ำอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย

นาวาอากาศโท จำนงค์ กาญจนไพบูลย์ รองหัวหน้ากองทำลายวัตถุระเบิด กรมสรรพาวุธ ทหารอากาศ บอกว่า เป็นระเบิดชนิด M117 น้ำหนัก 750 ปอนด์ ซึ่งมีรัศมีการทำลายล้างกว่า 1 กม. จากการตรวจสอบพบเป็นระเบิดที่ผลิตจากประเทศอเมริกา แต่ที่มาไม่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าของคือประเทศใด

จากการสอบถามชาวบ้านละแวกดังกล่าวเล่าว่าในนิคมอุตสาหกรรมมีโรงงานเหล็ก ที่ผ่านมาก็มีการรับซื้อเหล็กจากหลายพื้นที่รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อโรงเหล็กรับซื้อมาแล้วเกิดความไม่แน่ใจ และเกรงว่าจะเป็นอันตรายจึงลักลอบมาทิ้งไว้ในสระน้ำเมื่อนานมาแล้ว พอน้ำในสระแห้งจึงมีคนมาพบดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น