รองผบ.ตร.พร้อมชุดอีโอดี ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ที่ถูกทิ้งอยู่ใกล้เคียงจุดระเบิด ซอยราษฎร์อุทิศ 25 ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ก่อนใช้หุ่นยนต์กู้ระเบิดเข้าทำลาย ด้าน "เหลิม" เชื่อบึ้มย่านมีนบุรี คนร้ายพลาดเอง
วานนี้ (30 มี.ค.) พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุพบวัตถุต้องสงสัย บริเวณพงหญ้า ริมถนน ใกล้ปากซอยราษฎร์อุทิศ 12 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดระเบิด ซอยราษฎร์อุทิศ 25 ใกล้สุเหร่าทองดินทราย ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เมื่อคืนที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบถุงพลาสติกสีขาว ด้านใน มีท่อเหล็กพันสายไฟ ห่อด้วยกระดาษ นสพ. โดยเจ้าของร้านรับออกแบบและตัดกระจก ที่อยู่ใกล้กัน เป็นคนพบ และแจ้งตำรวจ ให้เข้าตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบรถ จยย.ต้องสงสัย เป็นรถ ฮอนด้าคลิก สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ริมถนน ใกล้กับที่พบวัตถุต้องสงสัย ห่างกันประมาณ 2 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้เชือกกั้นที่เกิดเหตุไว้ประมาณ 200 เมตร และไม่ให้รถผ่านที่เกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย
โดย ชุดอีโอดี ได้ใช้ หุ่นยนต์ กู้ระเบิด ตรวจสอบที่รถจักรยานยนต์ เพื่อตรวจสอบว่า มีวัตถุต้องสงสัยหรือไม่ พร้อมกับใช้วิธีการ ยิงทำลาย ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบ และทำลายวัตถุต้องสงสัย ในพงหญ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาความเชื่อมโยง ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ที่ลานจอดรถ ซ.ราษฎร์อุทิศ 25 หรือเกี่ยวโยงป่วนการชุมนุมหรือไม่
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. กล่าวถึงเหตุระเบิดย่านเขตมีนบุรี ใกล้สุเหร่าทองดินทราย ว่า เป็นฝีมือของคนที่มีความคึกคะนองพกระเบิดมา 2 ลูกแล้วเกิดทำงานขึ้นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต ซึ่งไม่ควรเป็นเยี่ยงอย่างแก่พี่น้องประชาชนคนทั่วไป โดยเรื่องนี้ทาง ศอ.รส.ไม่สามารถที่จะห้ามปรามได้ ใครกระทำผิดก็ต้องจับกุม ไม่มีละเว้น แต่คดีดังกล่าวผู้ครอบครองระเบิดเสียชีวิตจึงไม่ต้องติดตามจับกุมใคร แต่ยังต้องสืบสวนต่อถึงที่มาของระเบิดที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ พร้อม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความรัดกุมในการตั้งจุดตรวจค้น และจับกุมผู้พกพาอาวุธเหล่านี้ให้มากขึ้น.
วานนี้ (30 มี.ค.) พล.ต.อ.เอก อังศนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุพบวัตถุต้องสงสัย บริเวณพงหญ้า ริมถนน ใกล้ปากซอยราษฎร์อุทิศ 12 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดระเบิด ซอยราษฎร์อุทิศ 25 ใกล้สุเหร่าทองดินทราย ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เมื่อคืนที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบถุงพลาสติกสีขาว ด้านใน มีท่อเหล็กพันสายไฟ ห่อด้วยกระดาษ นสพ. โดยเจ้าของร้านรับออกแบบและตัดกระจก ที่อยู่ใกล้กัน เป็นคนพบ และแจ้งตำรวจ ให้เข้าตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบรถ จยย.ต้องสงสัย เป็นรถ ฮอนด้าคลิก สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ริมถนน ใกล้กับที่พบวัตถุต้องสงสัย ห่างกันประมาณ 2 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้เชือกกั้นที่เกิดเหตุไว้ประมาณ 200 เมตร และไม่ให้รถผ่านที่เกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย
โดย ชุดอีโอดี ได้ใช้ หุ่นยนต์ กู้ระเบิด ตรวจสอบที่รถจักรยานยนต์ เพื่อตรวจสอบว่า มีวัตถุต้องสงสัยหรือไม่ พร้อมกับใช้วิธีการ ยิงทำลาย ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบ และทำลายวัตถุต้องสงสัย ในพงหญ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาความเชื่อมโยง ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ที่ลานจอดรถ ซ.ราษฎร์อุทิศ 25 หรือเกี่ยวโยงป่วนการชุมนุมหรือไม่
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. กล่าวถึงเหตุระเบิดย่านเขตมีนบุรี ใกล้สุเหร่าทองดินทราย ว่า เป็นฝีมือของคนที่มีความคึกคะนองพกระเบิดมา 2 ลูกแล้วเกิดทำงานขึ้นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต ซึ่งไม่ควรเป็นเยี่ยงอย่างแก่พี่น้องประชาชนคนทั่วไป โดยเรื่องนี้ทาง ศอ.รส.ไม่สามารถที่จะห้ามปรามได้ ใครกระทำผิดก็ต้องจับกุม ไม่มีละเว้น แต่คดีดังกล่าวผู้ครอบครองระเบิดเสียชีวิตจึงไม่ต้องติดตามจับกุมใคร แต่ยังต้องสืบสวนต่อถึงที่มาของระเบิดที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ พร้อม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความรัดกุมในการตั้งจุดตรวจค้น และจับกุมผู้พกพาอาวุธเหล่านี้ให้มากขึ้น.