ศูนย์ข่าวภูเก็ต-พนักงานบริษัทรับดูแลระบบท่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครภูเก็ต ดับอนาถ 4 ศพ ขณะลงไปในท่อน้ำทิ้งเพื่อปิดระบบไม่ให้น้ำไหลเข้าบ่อพัก เจอแก๊สไข่เน่าหมดสติไปก่อน 1 คน เพื่อนอีก 3 คนเห็น ลงไปช่วย แต่กลับสูดแก๊สเข้าไปสลบคาท่อเสียชีวิตทั้งหมด ด้านเจ้าหน้าที่ลงไปช่วย เจอแก๊สพิษสลบสาหัสอีก 1 ราย
เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (26 มี.ค.) ร.ต.อ.อุดม เพชรรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานบริษัทรับจ้างจากเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อดูแลระบบบำบัดน้ำเสียว่า พนักงานที่ลงไปทำความสะอาดบ่อพักน้ำเสียที่บริเวณถนนศรีเสนา ทางไปเกาะสิเหร่ เลยจากห้างเทสโก้โลตัสไปประมาณ 100 เมตร หมดสติอยู่ในท่อน้ำทิ้ง 4 คน จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนศรีเสนา เป็นบ่อพักน้ำเสียของเทศบาลนครภูเก็ต ภายในท่อน้ำขนาดกว้างประมาณ 80 ซ.ม. ถึง1 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร พบร่างคนงานนอนกองกันอยู่ในก้นท่อ 4 คน สภาพไม่ได้สติ และมีกลิ่นเหม็นของแก๊สไข่เน่า หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์โชยไปทั่วบริเวณ
ต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้สวมหน้ากากและปีนลงไป เพื่อที่จะช่วยเหลือชายทั้ง 4 คนขึ้นมา แต่เมื่อลงไปได้ประมาณ 2-3 นาที พบว่าแก๊สไข่เน่าได้ตีขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวหมดสติตกลงไปในก้นท่อระบายน้ำเสียทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เหลือต้องรีบช่วยกันนำพัดลมขนาดใหญ่มาเป่าลงในท่อเพื่อดันกลิ่นแก๊สไม่ให้เข้ามา และลงไปดึงร่างของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกลับขึ้นมา โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที จึงสามารถนำกลับขึ้นมาได้ในสภาพหมดสติ
เมื่อขึ้นมาถึง เจ้าหน้าที่ได้เร่งปั้มหัวใจและนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งแพทย์ได้นำตัวเข้าห้องไอซียูทันที ทราบชื่อ คือนายเจษฎา จันทร์เพ็ญ อายุ 25 ปี ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น ยังพบมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมอีก 3 คนที่สูดดมแก๊สไขเน่าเข้าไปขณะให้การช่วยเหลืออยู่บริเวณปากท่อด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยเหลือ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือชายทั้ง 4 คน แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีกลิ่นแก๊สเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต นำอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือ โดยเดินทางไปพร้อมกับ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และปลัดเทศบาล ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยการช่วยเหลือ โดยการช่วยเหลือครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้ใช้หน้ากากกันแก๊สพิษและถังออกซิเจนลงไปและใช้เชือกผูกร่างของชายทั้ง 4 และใช้รถยกดึงร่างที่หมดสติขึ้นมาที่ละ 1 คน โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถนำร่างทั้ง 4 คนขึ้นมาได้ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว เนื่องจากหมดสติอยู่ในท่อนานเกือบ 2 ชั่วโมง
สำหรับคนงานทั้ง 4 คน คือ นายสุเชษ ชิตชลธาร นายธวัช ชิตชลธาร นายอภิสิทธิ์ ทิพย์ประสงค์ และนายสนั่น บัวชุม ทั้งหมดเป็นพนักงานบริษัท อีสเติลไทย คอนซัลติ้ง 1992 จำกัด บริษัทรับเหมาจากเทศบาลนครภูเก็ตในการดูแลระบบท่อบำบัดน้ำเสีย
นายพิมุข สอนมี ผู้จัดการสำนักงาน บริษัท อีสเติลไทยฯ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ พนักงานของบริษัทได้ออกทำงานตามปกติ โดยจุดที่เกิดเหตุมีพนักงานออกมาทำงาน 6 คน และได้รับแจ้งจากพนักงานว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น จึงเดินทางมาตรวจสอบและพยายามช่วยเหลือพนักงานทั้งหมด แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก
สำหรับการลงไปทำงานในครั้งนี้ เป็นการลงไปเก็บเศษขยะและปิดท่อระบายน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้ามาในระบบ เพื่อทำความสะอาดและซ่อมบำรุงปั้มสูบน้ำสำหรับสูบน้ำเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย และก่อนจะทำงานทุกครั้ง พนักงานจะต้องเปิดฝาท่อเพื่อให้กลิ่นของแก๊สที่เกิดจากการหมักหมมของน้ำออกไปก่อนที่จะทำงาน ซึ่งมีการเปิดฝาท่อทั้งหมด แต่เมื่อพนักงานลงไปทำงานกลับมีกลิ่นแก๊สตีเข้ามา ทำให้คนงานที่ลงไปทำงานในจุดดังกล่าวหมดสติ เพื่อนที่เหลือพยายามลงไปช่วย แต่ก็สูดกลิ่นแก๊สเข้าไปจนหมดสติและเสียชีวิตในที่สุด
พนักงานคนหนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ชุดเดียวกับชายทั้ง 4 คน กล่าวว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ตนพร้อมเพื่อนอีก 5 คนเดินทางมาทำงานที่จุดดังกล่าว เมื่อมาถึงได้นำเครื่องมือลงมาและเปิดฝาปิดบ่อพักน้ำไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อระบายกลิ่นเหม็นออกไป หลังจากนั้นเริ่มทำงาน โดยมีนายธวัช ลงไปยังท่อระบายน้ำ เพื่อเก็บขยะและปิดไม่ให้น้ำไหลเข้ามาในระบบ โดยลงได้ประมาณ 10 นาทีนายธวัช ได้หมดสติอยู่ภายในก้นท่อ
จากนั้น เมื่อนายสนั่นเห็น จึงลงไปช่วยเหลือเพื่อที่จะดึงร่างขึ้นมา แต่ดึงไม่ไหว และหมดสติคาก้นท่อไปอีกคน เพื่อนที่เหลืออีก 2 คนจึงลงไปช่วย แต่สุดท้ายก็สูดกลิ่นแก๊สเข้าไป ทำให้หมดสติไปอีก จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่อยู่ใกล้เคียง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขึ้นมาในที่สุด
ต่อมา น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อเยี่ยมคนเจ็บและให้กำลังใจกับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายซึ่งบรรยากาศที่โรงพยาบาลเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ทางด้านนายพานิช จิตร์แจ้ง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบว่าอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลที่นายจ้างให้ลูกจ้างใช้เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ หากไม่ได้มาตรฐานจะถือเป็นความบกพร่องของนายจ้าง ก็จะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป แต่หากเป็นความบกพร่องของลูกจ้างที่ไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันภัยเอง นายจ้างก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ ลูกจ้างทั้ง 4 รายเป็นสมาชิกของกองทุนประกันสังคม โดยจะได้รับค่าทำศพรายละ 40,000 บาท และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนเงินทดแทน เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตที่ระหว่างการทำงาน
เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (26 มี.ค.) ร.ต.อ.อุดม เพชรรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานบริษัทรับจ้างจากเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อดูแลระบบบำบัดน้ำเสียว่า พนักงานที่ลงไปทำความสะอาดบ่อพักน้ำเสียที่บริเวณถนนศรีเสนา ทางไปเกาะสิเหร่ เลยจากห้างเทสโก้โลตัสไปประมาณ 100 เมตร หมดสติอยู่ในท่อน้ำทิ้ง 4 คน จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนศรีเสนา เป็นบ่อพักน้ำเสียของเทศบาลนครภูเก็ต ภายในท่อน้ำขนาดกว้างประมาณ 80 ซ.ม. ถึง1 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร พบร่างคนงานนอนกองกันอยู่ในก้นท่อ 4 คน สภาพไม่ได้สติ และมีกลิ่นเหม็นของแก๊สไข่เน่า หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์โชยไปทั่วบริเวณ
ต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้สวมหน้ากากและปีนลงไป เพื่อที่จะช่วยเหลือชายทั้ง 4 คนขึ้นมา แต่เมื่อลงไปได้ประมาณ 2-3 นาที พบว่าแก๊สไข่เน่าได้ตีขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวหมดสติตกลงไปในก้นท่อระบายน้ำเสียทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เหลือต้องรีบช่วยกันนำพัดลมขนาดใหญ่มาเป่าลงในท่อเพื่อดันกลิ่นแก๊สไม่ให้เข้ามา และลงไปดึงร่างของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกลับขึ้นมา โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที จึงสามารถนำกลับขึ้นมาได้ในสภาพหมดสติ
เมื่อขึ้นมาถึง เจ้าหน้าที่ได้เร่งปั้มหัวใจและนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งแพทย์ได้นำตัวเข้าห้องไอซียูทันที ทราบชื่อ คือนายเจษฎา จันทร์เพ็ญ อายุ 25 ปี ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น ยังพบมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมอีก 3 คนที่สูดดมแก๊สไขเน่าเข้าไปขณะให้การช่วยเหลืออยู่บริเวณปากท่อด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยเหลือ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือชายทั้ง 4 คน แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีกลิ่นแก๊สเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต นำอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือ โดยเดินทางไปพร้อมกับ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และปลัดเทศบาล ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยการช่วยเหลือ โดยการช่วยเหลือครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้ใช้หน้ากากกันแก๊สพิษและถังออกซิเจนลงไปและใช้เชือกผูกร่างของชายทั้ง 4 และใช้รถยกดึงร่างที่หมดสติขึ้นมาที่ละ 1 คน โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถนำร่างทั้ง 4 คนขึ้นมาได้ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว เนื่องจากหมดสติอยู่ในท่อนานเกือบ 2 ชั่วโมง
สำหรับคนงานทั้ง 4 คน คือ นายสุเชษ ชิตชลธาร นายธวัช ชิตชลธาร นายอภิสิทธิ์ ทิพย์ประสงค์ และนายสนั่น บัวชุม ทั้งหมดเป็นพนักงานบริษัท อีสเติลไทย คอนซัลติ้ง 1992 จำกัด บริษัทรับเหมาจากเทศบาลนครภูเก็ตในการดูแลระบบท่อบำบัดน้ำเสีย
นายพิมุข สอนมี ผู้จัดการสำนักงาน บริษัท อีสเติลไทยฯ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ พนักงานของบริษัทได้ออกทำงานตามปกติ โดยจุดที่เกิดเหตุมีพนักงานออกมาทำงาน 6 คน และได้รับแจ้งจากพนักงานว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น จึงเดินทางมาตรวจสอบและพยายามช่วยเหลือพนักงานทั้งหมด แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก
สำหรับการลงไปทำงานในครั้งนี้ เป็นการลงไปเก็บเศษขยะและปิดท่อระบายน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้ามาในระบบ เพื่อทำความสะอาดและซ่อมบำรุงปั้มสูบน้ำสำหรับสูบน้ำเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย และก่อนจะทำงานทุกครั้ง พนักงานจะต้องเปิดฝาท่อเพื่อให้กลิ่นของแก๊สที่เกิดจากการหมักหมมของน้ำออกไปก่อนที่จะทำงาน ซึ่งมีการเปิดฝาท่อทั้งหมด แต่เมื่อพนักงานลงไปทำงานกลับมีกลิ่นแก๊สตีเข้ามา ทำให้คนงานที่ลงไปทำงานในจุดดังกล่าวหมดสติ เพื่อนที่เหลือพยายามลงไปช่วย แต่ก็สูดกลิ่นแก๊สเข้าไปจนหมดสติและเสียชีวิตในที่สุด
พนักงานคนหนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ชุดเดียวกับชายทั้ง 4 คน กล่าวว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ตนพร้อมเพื่อนอีก 5 คนเดินทางมาทำงานที่จุดดังกล่าว เมื่อมาถึงได้นำเครื่องมือลงมาและเปิดฝาปิดบ่อพักน้ำไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อระบายกลิ่นเหม็นออกไป หลังจากนั้นเริ่มทำงาน โดยมีนายธวัช ลงไปยังท่อระบายน้ำ เพื่อเก็บขยะและปิดไม่ให้น้ำไหลเข้ามาในระบบ โดยลงได้ประมาณ 10 นาทีนายธวัช ได้หมดสติอยู่ภายในก้นท่อ
จากนั้น เมื่อนายสนั่นเห็น จึงลงไปช่วยเหลือเพื่อที่จะดึงร่างขึ้นมา แต่ดึงไม่ไหว และหมดสติคาก้นท่อไปอีกคน เพื่อนที่เหลืออีก 2 คนจึงลงไปช่วย แต่สุดท้ายก็สูดกลิ่นแก๊สเข้าไป ทำให้หมดสติไปอีก จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่อยู่ใกล้เคียง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขึ้นมาในที่สุด
ต่อมา น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อเยี่ยมคนเจ็บและให้กำลังใจกับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายซึ่งบรรยากาศที่โรงพยาบาลเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ทางด้านนายพานิช จิตร์แจ้ง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบว่าอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลที่นายจ้างให้ลูกจ้างใช้เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ หากไม่ได้มาตรฐานจะถือเป็นความบกพร่องของนายจ้าง ก็จะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป แต่หากเป็นความบกพร่องของลูกจ้างที่ไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันภัยเอง นายจ้างก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ ลูกจ้างทั้ง 4 รายเป็นสมาชิกของกองทุนประกันสังคม โดยจะได้รับค่าทำศพรายละ 40,000 บาท และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนเงินทดแทน เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตที่ระหว่างการทำงาน
