เมื่อวันที่ 22 และ 24 มีนาคมที่ผ่านมาได้เกิดพายุลูกเห็บขึ้นในจังหวัดพะเยา ส่งผลให้ไร่ยาสูบในตำบลออย และตำบลงิม ในเขตอำเภอปง ได้รับความเสียหายจากลูกเห็บและลมพายุจำนวนมาก โดยมีชาวไร่กว่า 70 รายได้รับผลกระทบจากลมพายุและลูกเห็บพัดต้นยาสูบล้มและเสียหาย โดยภาพรวมความเสียหายประมาณ 200 กว่าไร่ ใบยาสดในไร่เสียหายประมาณ 5 แสนกิโลกรัม มูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท
สมเพชร ทนทาน เกษตรกรบ้านหลวง หมู่ 6 ตำบลออย อำเภอปง จังหวัดพะเยา ปลูกยาสูบ 3 ไร่งาน กล่าวว่า ไร่ของตนเสียหายทั้งหมด โดยที่พึ่งเก็บใบยาไปขายสถานีบ่มใบยาเพียงครั้งเดียวจากที่คาดว่าจะเก็บขายได้อีกถึง 4 ครั้ง รวมความเสียหายใบยาสดประมาณ 12,000 กิโลกรัม
อลงกรณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยา จังหวัดเชียงราย-พะเยา เจ้าของสถานีบ่มใบยาสันกลางและดอนไชย-ป่าแขมอำเภอปง จังหวัดพะเยา กล่าวว่า “ในส่วนของการเยียวยาชาวไร่ในเบื้องต้นนั้น สมาคมผู้บ่มฯ ได้หารือกับสถานีบ่มใบยาต่างๆ ว่าจะช่วยเหลือชาวไร่อย่างเต็มกำลัง ด้วยการรับซื้อใบยาที่มีปัญหาที่ร่วงหล่นจากต้นเพราะโดนพายุและลูกเห็บ ในราคาสูงสุดของราคารับประกัน แม้ว่าใบยาสูบที่เกษตรกรนำมาขายจะเป็นยาที่เสียหายหรือใบยาไม่สุก (ยาไม่สุก เป็นยาที่ไม่มีคุณภาพ) นอกจากนั้นสถานีบ่มใบยาจะช่วยรับผิดชอบหนี้สินที่ผูกพันกับสถานีของชาวไร่ยาสูบในเครือข่าย”
“อยากให้ภาครัฐมาช่วยดูแลเกษตรกรอีกทาง เพราะที่ผ่านมาหลายครั้งชาวไร่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงเกษตรฯ โดยปัดความรับผิดชอบไปให้กระทรวงการคลัง ซึ่งไม่มีกลไกในการให้ความช่วยเหลือสุดท้ายก็คงต้องขอพึ่งทางโรงงานยาสูบให้พิจารณาช่วยรับซื้อใบยาแห้งคุณภาพต่ำที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ เพื่อจะได้นำเม็ดเงินมาช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป และควรมีการตั้งกองทุนประกันความเสียหายจากภัยพิบัติ เพื่อที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือชาวไร่ในกรณีเกิดภัยพิบัติในอนาคตได้” อลงกรณ์ กล่าวสรุป
สมเพชร ทนทาน เกษตรกรบ้านหลวง หมู่ 6 ตำบลออย อำเภอปง จังหวัดพะเยา ปลูกยาสูบ 3 ไร่งาน กล่าวว่า ไร่ของตนเสียหายทั้งหมด โดยที่พึ่งเก็บใบยาไปขายสถานีบ่มใบยาเพียงครั้งเดียวจากที่คาดว่าจะเก็บขายได้อีกถึง 4 ครั้ง รวมความเสียหายใบยาสดประมาณ 12,000 กิโลกรัม
อลงกรณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยา จังหวัดเชียงราย-พะเยา เจ้าของสถานีบ่มใบยาสันกลางและดอนไชย-ป่าแขมอำเภอปง จังหวัดพะเยา กล่าวว่า “ในส่วนของการเยียวยาชาวไร่ในเบื้องต้นนั้น สมาคมผู้บ่มฯ ได้หารือกับสถานีบ่มใบยาต่างๆ ว่าจะช่วยเหลือชาวไร่อย่างเต็มกำลัง ด้วยการรับซื้อใบยาที่มีปัญหาที่ร่วงหล่นจากต้นเพราะโดนพายุและลูกเห็บ ในราคาสูงสุดของราคารับประกัน แม้ว่าใบยาสูบที่เกษตรกรนำมาขายจะเป็นยาที่เสียหายหรือใบยาไม่สุก (ยาไม่สุก เป็นยาที่ไม่มีคุณภาพ) นอกจากนั้นสถานีบ่มใบยาจะช่วยรับผิดชอบหนี้สินที่ผูกพันกับสถานีของชาวไร่ยาสูบในเครือข่าย”
“อยากให้ภาครัฐมาช่วยดูแลเกษตรกรอีกทาง เพราะที่ผ่านมาหลายครั้งชาวไร่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงเกษตรฯ โดยปัดความรับผิดชอบไปให้กระทรวงการคลัง ซึ่งไม่มีกลไกในการให้ความช่วยเหลือสุดท้ายก็คงต้องขอพึ่งทางโรงงานยาสูบให้พิจารณาช่วยรับซื้อใบยาแห้งคุณภาพต่ำที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ เพื่อจะได้นำเม็ดเงินมาช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป และควรมีการตั้งกองทุนประกันความเสียหายจากภัยพิบัติ เพื่อที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือชาวไร่ในกรณีเกิดภัยพิบัติในอนาคตได้” อลงกรณ์ กล่าวสรุป