ASTVผู้จัดการรายวัน - สนง.สลากฯ เล็งต่อสัญญาโควต้าสลากการกุศล 2 ล้านฉบับที่จะครบกำหนดในมิ.ย. ระบุไม่มีจ่ายใต้โต๊ะแลกต่อสัญญา ยันไม่มีการล็อกเลขอย่างแน่นอนออกสลากด้วยความโปร่งใสได้มาตรฐานสากล
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานสลากฯ กลับไปพิจารณาหาแนวทางการต่ออายุสัญญาโควต้าสลากการกุศลจำนวน 2 ล้านฉบับ ที่กำลังจะครบกำหนดในเดือน มิ.ย.57 นี้ จากทั้งหมด 22 ล้านฉบับ สำหรับ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เกิดสุขการค้า จำกัด มีโควต้า 1.85 ล้านฉบับ และ บริษัท วิงส์อาร์มส์ แอนด์ เรดิโอส์ จำกัด มีโควต้า 1.5 แสนฉบับ รวมทั้งพิจารณาต่ออายุโควต้าสลากปกติที่จะครบกำหนดในเดือน มิ.ย.นี้จำนวน 43 ล้านฉบับ ซึ่งมีรายย่อยถือครองอยู่ราว 3 หมื่นราย จากทั้งหมด 50 ล้านฉบับด้วย
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ยืนยันด้วยว่า สำนักงานสลากฯ ไม่มีการล็อคเลขรางวัลอย่างแน่นอน ซึ่งการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลทุกครั้งเป็นไปด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เริ่มตั้งแต่อุปกรณ์ซึ่งทำจากพลาสติกโปร่งใสเป็นไปตามมาตรฐานสากล ที่มาจากสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่อุปกรณ์การออกรางวัลที่ 1 เป็นการออกแบบของโดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ส่วนการเก็บรักษาอุปกรณ์ดังกล่าวก็เป็นไปด้วยความรัดกุม เคร่งครัดภายในห้องมั่นคงที่มีผู้บริหารซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลรักษา ขณะที่คณะกรรมการออกรางวัลนั้น ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเป็นกรรมการ รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีข่าวสปริงนิวส์เป็นประจำด้วย
ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ออกมาให้ข้อมูลว่าบริษัท เกิดสุขการค้า จำกัด และบริษัท วิงส์อาร์ม แอนด์ เรดิโอส์ จำกัด ถูกเรียกเงินใต้โต๊ะรายละ 300 ล้านบาท เพื่อแลกกับการต่ออายุโควต้าสลากการกุศลที่จะหมดอายุในเดือนมิ.ย.57 นั้น พล.ต.ต. อรรถกฤษณ์ กล่าวว่า หากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงขอให้นำหลักฐานมายืนยัน และพร้อมยินดีให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เข้ามาตรวจสอบ
"เรื่องเงินใต้โต๊ะ ต้องถามว่าใครจ่ายใคร ถ้ามีพยานหลักฐานก็ว่ามาเลย แต่ที่ผ่านมาสำนักงานสลากฯ ทำงานด้วยความโปร่งใส ตรงใสตรงไปตรงมา" พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ กล่าว
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานสลากฯ กลับไปพิจารณาหาแนวทางการต่ออายุสัญญาโควต้าสลากการกุศลจำนวน 2 ล้านฉบับ ที่กำลังจะครบกำหนดในเดือน มิ.ย.57 นี้ จากทั้งหมด 22 ล้านฉบับ สำหรับ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เกิดสุขการค้า จำกัด มีโควต้า 1.85 ล้านฉบับ และ บริษัท วิงส์อาร์มส์ แอนด์ เรดิโอส์ จำกัด มีโควต้า 1.5 แสนฉบับ รวมทั้งพิจารณาต่ออายุโควต้าสลากปกติที่จะครบกำหนดในเดือน มิ.ย.นี้จำนวน 43 ล้านฉบับ ซึ่งมีรายย่อยถือครองอยู่ราว 3 หมื่นราย จากทั้งหมด 50 ล้านฉบับด้วย
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ยืนยันด้วยว่า สำนักงานสลากฯ ไม่มีการล็อคเลขรางวัลอย่างแน่นอน ซึ่งการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลทุกครั้งเป็นไปด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เริ่มตั้งแต่อุปกรณ์ซึ่งทำจากพลาสติกโปร่งใสเป็นไปตามมาตรฐานสากล ที่มาจากสหรัฐฯ และยุโรป ขณะที่อุปกรณ์การออกรางวัลที่ 1 เป็นการออกแบบของโดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ส่วนการเก็บรักษาอุปกรณ์ดังกล่าวก็เป็นไปด้วยความรัดกุม เคร่งครัดภายในห้องมั่นคงที่มีผู้บริหารซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลรักษา ขณะที่คณะกรรมการออกรางวัลนั้น ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเป็นกรรมการ รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีข่าวสปริงนิวส์เป็นประจำด้วย
ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ออกมาให้ข้อมูลว่าบริษัท เกิดสุขการค้า จำกัด และบริษัท วิงส์อาร์ม แอนด์ เรดิโอส์ จำกัด ถูกเรียกเงินใต้โต๊ะรายละ 300 ล้านบาท เพื่อแลกกับการต่ออายุโควต้าสลากการกุศลที่จะหมดอายุในเดือนมิ.ย.57 นั้น พล.ต.ต. อรรถกฤษณ์ กล่าวว่า หากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงขอให้นำหลักฐานมายืนยัน และพร้อมยินดีให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เข้ามาตรวจสอบ
"เรื่องเงินใต้โต๊ะ ต้องถามว่าใครจ่ายใคร ถ้ามีพยานหลักฐานก็ว่ามาเลย แต่ที่ผ่านมาสำนักงานสลากฯ ทำงานด้วยความโปร่งใส ตรงใสตรงไปตรงมา" พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ กล่าว
