เมื่อเวลา 06.30 น. วานนี้ (13 ก.พ.) พ.ต.อ.สาธิต พลพินิจ ผกก.สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายกราดยิงกลุ่มชาวบ้านทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บ้านศาลาใหม่ หมู่ 1 ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบชาวบ้านกำลังลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่ง รพ.แม่ลาน
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นพระ และชาวบ้าน 2 ราย ทราบชื่พระนม กานนท์ (สุกิจโต) อายุ 67 ปี พระวัดป่าสวย และนางสมใจ ขุนเกลี้ยง อายุ 38 ปี ภรรยาตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ ทั้ง 2 ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้าลำตัวหลายนัด และมีผู้เสียชีวิตอีก 2 รายที่โรงพยาบาลเนื่องจากทนพิศบาดแผลไม่ไหว คือ นางจำเนียร พุทธฤทธิ์ อายุ 59 ปี และ ด.ช.ธิติวัฒน์ ขุนเกลี้ยง อายุ 10 ขวบ ลูกของนางสมใจ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ทราบชื่อ ส.ต.ต.อุดมชัย ผิวผ่อง อายุ 24 ปี ตำรวจ นปพ.ปัตตานี นางรำพัน อักษรแก้ว อายุ 53 ปี นายคล้าย หลักทรัพย์ อายุ 72 ปี นางฉาย ทองเรือง อายุ 75 ปี ด.ช.ชินทรัพย์ พรมมณี อายุ 12 ปี นายบริพัทธ์ กุลณรงค์ อายุ 25 ปี และ ด.ญ.ขวัญชนก ขุนเกลี้ยง อายุ 10 ปี ทั้ง 7 รายแพทย์ได้ทำการรักษาเบื้องต้นก่อนจะส่งต่อไปยัง รพ.ปัตตานี และรพ.ศูนย์ยะลา
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นศาลาที่พักริมถนนในหมู่บ้าน ภายในศาลาพบข้าวของที่ใช้ตักบาตรตกเกลื่อนกระจาย บนถนนห่างจากศาลาประมาณ 5 เมตรพบปลอกกระสุนปืนอาก้า และเอ็ม 16 กว่า 10 ปลอก และขวดพลาสติกข้างในมีน้ำมันเบนซิน เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ศาลาดังกล่าวเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านไทยพุทธจะมารวมตัวกันทุกเช้าเพื่อใส่บาตรให้พระที่เดินบิณฑบาต โดยก่อนเกิดเหตุ ขณะที่พระพนม เดินออกจากวัดป่าสวย ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 600 เมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.2 นายเดินดูแลความปลอดภัย เมื่อมาถึงศาลาดังกล่าวก็ได้ให้ชาวบ้านใส่บาตรตามปกติทุกวัน แต่ระหว่างที่พระกำลังอวยพรอยู่นั้น ได้มีคนร้าย 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันขับมาจอดแล้วใช้อาวุธปืนสงครามซาดกระสุนยิงใส่กลุ่มชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทันที เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ ส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้ออกมายิงคนร้ายด้วย ทำให้คนร้ายถูกยิงบาดเจ็บทำให้ขวดน้ำมันตกและหลบหนีไป หลังเกิดเหตุปรากฏว่ามี พระตำรวจ และ ชาวบ้าน เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
***มทภ.4 สั่งปรับแผนดูแลจุดอ่อน
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ.4) เปิดเผยว่า จากกรณีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ฆ่าแล้วเผาทำลายศพราษฎรในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อ 9 ก.พ.และ 12 ก.พ.ล่าสุดเมื่อเช้าวานนี้คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงชุดรักษาความปลอดภัยพระ นปพ.22 ทำให้พระสงฆ์มรณะภาพ 1 รูป ชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย และยังมีตำรวจ ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บอีกหลายรายนั้น สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้อ้างว่าเป็นการตอบโต้กรณีที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเด็กเสียชีวิต 3 คนเมื่อ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
จากเหตุการณ์ดังกล่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตจากการกระทำอย่างโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีพฤติกรรมสุดโต่ง เผด็จการและก่อการร้าย โดยพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรงตลอด 10 ปีที่ผ่านมาคือการฉกฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ก่อขึ้นแล้วบิดเบือนว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่แล้วมาอ้างความชอบธรรมในการตอบโต้ โดยใช้ชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นเหยื่อเพื่อผลประโยชน์ของขบวนการเท่านั้น
ขณะนี้ กอ.รมน.ภ.4 อยู่ในระหว่างเร่งดำเนินการสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพร้อมให้ความร่วมมือ ในการทำความจริงให้ปรากฏ ดังนั้น การเรียกหาความเป็นธรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และองค์กรเครือข่าย ด้วยการทำร้ายพี่น้องประชาชน ต่างศาสนา เป็นสิ่งที่ต้องได้รับการประณาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำลายศพ ถือเป็นการกระทำของพวกนอกศาสนา เพราะขัดกับบทบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างสิ้นเชิง ซึ่ง กอ.รมน.ภ.4 ลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มิใช่มาทำสงคราม เพราะพื้นที่แห่งนี้มิใช่พื้นที่สงคราม ดังเช่นที่องค์กรต่างๆ กำลังใช้ความพยายามนำมากล่าวอ้างบิดเบือน แต่เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อเหตุรุนแรง และอาชญากรที่กระทำผิดกฎหมาย และเป็นภัยต่อความมั่นคง
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ พร้อมสั่งการให้เร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้มีการทบทวนมาตรการในรักษาความความปลอดภัยพื้นที่ใหม่โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนชาวไทยพุทธซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงและเป็นเป้าหมายอ่อนแอที่คนร้ายอาจฉวยโอกาสในการลงมือก่อเหตุ
ทางด้านนายเจะอามิง โต๊ะตาหยง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.นราธิวาส กล่าวถึงปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จากที่ตนเพิ่งลงพื้นที่เพื่อพบปะคุยให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ต่างสะท้อนภาพรวมของเหตุการณ์เป็นเสียงเดียวกันว่า วันนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ห่วงแต่เรื่องการอยู่ในอำนาจของตัวเอง โดยไม่ให้ความสำคัญในชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่เลย
***'ประยุทธ์'ประนามโจรไม่ลูกผู้ชาย
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สโมสรทหารบก-วิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวกรณีที่ผู้ก่อความไม่สงบลอบยิงพระในขณะออกบิณฑบาต พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ไปดูแลความปลอดภัยจนเสียชีวิตว่า อยากให้ไปถามคนทำว่าหัวใจทำด้วยอะไร ในการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่มีทางต่อสู้ รวมถึงการดูแลครูเด็ก แม้กระทั่งผู้หญิง ผู้บริสุทธิ์ที่สัญจรไปมาก็ฆ่าทิ้งหมด แบบนี้มันไม่ใช่มนุษย์ที่พูดไม่ได้ดูถูก แต่ถ้าเป็นนักรบเหมือนที่ทหารทำอยู่ในวันนี้จะต้องเป็นนักรบทีเปิดเผยและแสดงกำลังกันออกมาและมารบกัน แต่ทหารไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือเขาใช้วิธีไม่ใช่ลูกผู้ชายด้วยการลอบทำร้าย โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิง และป้ายความผิดมาให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตราย
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นพระ และชาวบ้าน 2 ราย ทราบชื่พระนม กานนท์ (สุกิจโต) อายุ 67 ปี พระวัดป่าสวย และนางสมใจ ขุนเกลี้ยง อายุ 38 ปี ภรรยาตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ ทั้ง 2 ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้าลำตัวหลายนัด และมีผู้เสียชีวิตอีก 2 รายที่โรงพยาบาลเนื่องจากทนพิศบาดแผลไม่ไหว คือ นางจำเนียร พุทธฤทธิ์ อายุ 59 ปี และ ด.ช.ธิติวัฒน์ ขุนเกลี้ยง อายุ 10 ขวบ ลูกของนางสมใจ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ทราบชื่อ ส.ต.ต.อุดมชัย ผิวผ่อง อายุ 24 ปี ตำรวจ นปพ.ปัตตานี นางรำพัน อักษรแก้ว อายุ 53 ปี นายคล้าย หลักทรัพย์ อายุ 72 ปี นางฉาย ทองเรือง อายุ 75 ปี ด.ช.ชินทรัพย์ พรมมณี อายุ 12 ปี นายบริพัทธ์ กุลณรงค์ อายุ 25 ปี และ ด.ญ.ขวัญชนก ขุนเกลี้ยง อายุ 10 ปี ทั้ง 7 รายแพทย์ได้ทำการรักษาเบื้องต้นก่อนจะส่งต่อไปยัง รพ.ปัตตานี และรพ.ศูนย์ยะลา
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นศาลาที่พักริมถนนในหมู่บ้าน ภายในศาลาพบข้าวของที่ใช้ตักบาตรตกเกลื่อนกระจาย บนถนนห่างจากศาลาประมาณ 5 เมตรพบปลอกกระสุนปืนอาก้า และเอ็ม 16 กว่า 10 ปลอก และขวดพลาสติกข้างในมีน้ำมันเบนซิน เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ศาลาดังกล่าวเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านไทยพุทธจะมารวมตัวกันทุกเช้าเพื่อใส่บาตรให้พระที่เดินบิณฑบาต โดยก่อนเกิดเหตุ ขณะที่พระพนม เดินออกจากวัดป่าสวย ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 600 เมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.2 นายเดินดูแลความปลอดภัย เมื่อมาถึงศาลาดังกล่าวก็ได้ให้ชาวบ้านใส่บาตรตามปกติทุกวัน แต่ระหว่างที่พระกำลังอวยพรอยู่นั้น ได้มีคนร้าย 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันขับมาจอดแล้วใช้อาวุธปืนสงครามซาดกระสุนยิงใส่กลุ่มชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทันที เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ ส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้ออกมายิงคนร้ายด้วย ทำให้คนร้ายถูกยิงบาดเจ็บทำให้ขวดน้ำมันตกและหลบหนีไป หลังเกิดเหตุปรากฏว่ามี พระตำรวจ และ ชาวบ้าน เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
***มทภ.4 สั่งปรับแผนดูแลจุดอ่อน
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ.4) เปิดเผยว่า จากกรณีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ฆ่าแล้วเผาทำลายศพราษฎรในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อ 9 ก.พ.และ 12 ก.พ.ล่าสุดเมื่อเช้าวานนี้คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงชุดรักษาความปลอดภัยพระ นปพ.22 ทำให้พระสงฆ์มรณะภาพ 1 รูป ชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย และยังมีตำรวจ ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บอีกหลายรายนั้น สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้อ้างว่าเป็นการตอบโต้กรณีที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเด็กเสียชีวิต 3 คนเมื่อ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
จากเหตุการณ์ดังกล่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตจากการกระทำอย่างโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีพฤติกรรมสุดโต่ง เผด็จการและก่อการร้าย โดยพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรงตลอด 10 ปีที่ผ่านมาคือการฉกฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ก่อขึ้นแล้วบิดเบือนว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่แล้วมาอ้างความชอบธรรมในการตอบโต้ โดยใช้ชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นเหยื่อเพื่อผลประโยชน์ของขบวนการเท่านั้น
ขณะนี้ กอ.รมน.ภ.4 อยู่ในระหว่างเร่งดำเนินการสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพร้อมให้ความร่วมมือ ในการทำความจริงให้ปรากฏ ดังนั้น การเรียกหาความเป็นธรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และองค์กรเครือข่าย ด้วยการทำร้ายพี่น้องประชาชน ต่างศาสนา เป็นสิ่งที่ต้องได้รับการประณาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำลายศพ ถือเป็นการกระทำของพวกนอกศาสนา เพราะขัดกับบทบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างสิ้นเชิง ซึ่ง กอ.รมน.ภ.4 ลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มิใช่มาทำสงคราม เพราะพื้นที่แห่งนี้มิใช่พื้นที่สงคราม ดังเช่นที่องค์กรต่างๆ กำลังใช้ความพยายามนำมากล่าวอ้างบิดเบือน แต่เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อเหตุรุนแรง และอาชญากรที่กระทำผิดกฎหมาย และเป็นภัยต่อความมั่นคง
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ พร้อมสั่งการให้เร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้มีการทบทวนมาตรการในรักษาความความปลอดภัยพื้นที่ใหม่โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนชาวไทยพุทธซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงและเป็นเป้าหมายอ่อนแอที่คนร้ายอาจฉวยโอกาสในการลงมือก่อเหตุ
ทางด้านนายเจะอามิง โต๊ะตาหยง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.นราธิวาส กล่าวถึงปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จากที่ตนเพิ่งลงพื้นที่เพื่อพบปะคุยให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ต่างสะท้อนภาพรวมของเหตุการณ์เป็นเสียงเดียวกันว่า วันนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ห่วงแต่เรื่องการอยู่ในอำนาจของตัวเอง โดยไม่ให้ความสำคัญในชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่เลย
***'ประยุทธ์'ประนามโจรไม่ลูกผู้ชาย
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สโมสรทหารบก-วิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวกรณีที่ผู้ก่อความไม่สงบลอบยิงพระในขณะออกบิณฑบาต พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ไปดูแลความปลอดภัยจนเสียชีวิตว่า อยากให้ไปถามคนทำว่าหัวใจทำด้วยอะไร ในการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่มีทางต่อสู้ รวมถึงการดูแลครูเด็ก แม้กระทั่งผู้หญิง ผู้บริสุทธิ์ที่สัญจรไปมาก็ฆ่าทิ้งหมด แบบนี้มันไม่ใช่มนุษย์ที่พูดไม่ได้ดูถูก แต่ถ้าเป็นนักรบเหมือนที่ทหารทำอยู่ในวันนี้จะต้องเป็นนักรบทีเปิดเผยและแสดงกำลังกันออกมาและมารบกัน แต่ทหารไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือเขาใช้วิธีไม่ใช่ลูกผู้ชายด้วยการลอบทำร้าย โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิง และป้ายความผิดมาให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตราย