xs
xsm
sm
md
lg

"สุวัจน์"ปัดนายทุนไทยโพสต์ แนะเจรจาวางกรอบปฏิรูป1ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.45 น.วานนี้ (9ก.พ.) ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมครอบครัว ได้ทำบุญถวายภัตตาหารเพล แด่พระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ท่ามกลางสมาชิกพรรคชพน. ตัวแทนพรรคการเมือง ข้าราชการ ภาคเอกชน อาทิ นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้า พรรค นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง กรรมการบริหารพรรค นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรค พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรมช.คมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นอกจากนี้ นายสุวัจน์ ยังได้กราบสักการะ ถวายดอกไม้ อาหารคาวหวาน หน้าพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ หลวงพ่อทองคำ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และสมาชิกพรรค
ต่อมาเวลา11.00 น. นายสุวัจน์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันคล้ายวันเกิดปีนี้ตนได้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดให้ประเทศชาติของเราเรียบร้อย ปลอดภัย ปัญหาต่างๆ ที่ทำให้คนไทยไม่มีความสุขได้คลี่คลายไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม หลังจากการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. สถานการณ์ต่างๆ เรียบร้อยขึ้นระดับหนึ่ง ดังนั้น ถ้าเราช่วยกันทำให้เกิดความชัดเจนในส่วนของการเลือกตั้งที่เหลือ ว่าจะดำเนินการได้เมื่อใด จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโมฆะหรือไม่นั้น อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ หากโมฆะ ทุกคนต้องไปเลือกตั้งกันใหม่ ส่วนการที่คณะบุคคล เรียกร้องให้ทหารออกมานั้น ตนคิดว่าสถานการณ์วันนี้ มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว แสดงว่าส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้แนวทางของประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหาของประเทศ เรื่องอื่นคงไม่น่ากังวลใจ
สำหรับเรื่องการปฏิรูป ยังเป็นที่ต้องการของทุกฝ่าย หากสามารถที่จะให้เกิดความชัดเจนเรื่องวิธีการ แนวทาง และกรอบระยะเวลาได้ ตัวนี้จะเป็นตัวช่วยในการทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น เพราะเป็นข้อเรียกร้องของทุกฝ่าย ซึ่งหากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี ตนคิดว่า หากสภาผู้แทนราษฎรหรือรัฐบาลชุดใหม่เร่งรัดส่วนนี้ โดยกรอบเวลาที่มีการพูดกันตอนนี้คือ 1 ปี ถือเป็นกรอบที่มีความเหมาะสม และเมื่อได้กติกาที่ชัดเจน ก็คืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน การเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่ทุกฝ่ายยอมรับกติกาก็จะทำให้บ้านเมืองมีทางออก อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้การพูดคุย หรือเจรจากันและ การเห็นแก่ความเรียบร้อยของประเทศสถานการณ์ต่างๆ น่าจะมีทางออกและดีขึ้น
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ระบุว่า ตนเองเป็นนายทุนของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ นั้นนายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นนายทุนของใคร ไม่ได้เป็นนายทุนหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ หรืออะไรทั้งสิน ตนเล่นการเมืองรู้จักสื่อมวลชน และนักหนังสือพิมพ์บ้าง อย่างพี่เปลว (เปลว สีเงิน) ก็เคารพนับถือ เป็นผู้ใหญ่ในวงการหนังสือพิมพ์ และเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับ เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่ดี ที่มี อุดมการณ์ ตนคงไม่กล้าที่จะบอกให้ท่านเชียร์ใคร หรือวิจารณ์ใคร ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับท่านอยู่แล้ว

**"โคทม"แนะตั้งคนกลางเดินงานปฏิรูป

นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า หากทุกภาคส่วนอยากให้มีการปฏิรูป ก็ออกกฎหมายว่าด้วย "คณะราชกรรมาธิการ" เพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่ปฏิรูปเรื่องสำคัญๆ เบื้องต้นนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นผู้เสนอกฎหมายนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ และเป็นผู้สนองพระบรมราชโองการ แต่รัฐบาลต้องไม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากนั้นต้องให้คณะราชกรรมาธิการทำงานอย่างอิสระ และหากจะถูกปลดต้องให้ศาลพิจารณา
ส่วนการปฏิรูปของกลุ่ม กปปส.นั้น มองว่ายังไม่มีความชัดเจน จึงควรเร่งทำให้ชัดเจน ขณะที่ความขัดแย้งปัจจุบันต้องร่วมกันหาทางออก เริ่มจากการพูดคุย สร้างมาตรการความไว้วางใจ อาทิ ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐบาลก็ควรยกเลิก เพราะไม่มีผลเสียหายใดๆ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ กลุ่มองค์กรวิชาชีพในนาม "เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป" จะจัดเวที "เดินหน้าปฏิรูป" ครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้เปิดตัวเครือข่ายไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา

**"สุเทพ"เร่งทำพิมพ์เขียวปฏิรูป

ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. ที่ห้องประชุมชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กปปส.ได้จัดกิจกรรมสานพลังสู่การปฏิรูป ครั้งที่ 1 โดยมีการเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศจากกลุ่มตัวแทนวิชาชีพแพทย์และพยาบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะส่งสารไปยังอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ให้จัดเสวนาเพื่อระดมสมองทำพิมพ์เขียวลักษณะนี้ และอยากส่งสัญญาณไปยังองค์กรเอกชน โดยเฉพาะ7 องค์กรธุรกิจที่เคยเคลื่อนไหว แต่ขณะนี้กลับยังนิ่งเฉยอยู่ จึงอยากให้มาช่วย เพราะมวลชนที่เคลื่อนไหวไม่ได้พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจ คาดว่าสาเหตุที่นิ่งเฉยเพราะยังไม่รู้ว่าข้างไหนจะชนะหรือแพ้
กำลังโหลดความคิดเห็น