วานนี้ (5ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบงานจราจร ได้เรียกประชุมตำรวจจราจร เพื่อวางแผนอำนวยความสะดวกการจราจร พร้อมเปิดเผยว่า หลังผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ แยกลาดพร้าว แต่ยังพบว่า มีปัญหาการจราจรหนาแน่น บริเวณแยกปทุมวัน ซึ่งยังมีผู้ชุมนุมอยู่ ทำให้เส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ชั้นในยังมีปัญหาการจราจรหนาแน่น จึงได้เปิดช่องทางพิเศษ ตั้บแต่ แยกเพชรพระราม ถึง แยกเจริญผล โดยผู้ที่จะเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มาแยกปทุมวัน สามารถมาทางแยกราชเทวี เลี้ยงขวา เข้าแยกเพชรพระราม ไปจนถึงแยกเจริญผล ซึ่งมีการเปิด 3 ช่องทาง ในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.00-08.00 น. โดยเริ่มทดลองเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และจะมีการทดลองเปิดในช่วงเย็นด้วย และจะประเมินทุกวัน
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของสะพานพระราม 8 ขณะนี้ ได้มีการเจรจาจนผู้ชุมนุมยอมเปิดการจราจรแล้ว ส่วนแยกวังมะนาว ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาให้ผู้ชุมนุมเปิดทาง เพื่อลดผลกระทบประชาชนที่จะเดินทางลงสู่ภาคใต้
เวลา 11.40 น.วันเดียวกันนี้ ที่ สตช. พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ตร. กล่าวรายงานการสรุปสถานการณ์การชุมนุมขณะนี้ ยังคงมีการชุมนุมอยู่ 5 เวที ลดลงมา 2 เวที มีเวทีคู่ขนานชุมนุมที่ต่างจังหวัด 15 จังหวัด ประกอบไปด้วยภาคเหนือ 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด และภาคใต้ 7 จังหวัด อีกทั้งวันนี้มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวมีกลุ่มชาวนา ในพื้นที่ภาคกลาง นัดชุมนุมปิดถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ขณะนี้กลุ่มชาวนาจ.กาญจนบุรีปิด ถนนที่บริเวณสามแยกท่าล่อ อ.ท่าม่วง ทั้งขาขึ้นขาล่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเปิดทางเลี่ยงอยู่ ทางผู้แทนของทั้งฝ่ายปกครองและธนาคาร ธ.ก.ส. ได้เข้าร่วมการเจรจรา
นอกจากนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการเตรียมแผนการรองรับการขอพื้นที่คืน โดยเน้นการเจรจา สำหรับข้อสั่งการอื่นๆ ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินการรักษาพื้นที่ โดยมีการตั้งด่านตรวจค้นอย่างเข้มแข็ง มีการแสดงกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ประชาชนได้เห็นเพื่อสร้างความมั่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความสะดวกเรื่องของการจราจร มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเส้นทาง ที่มีการปิดถนน เส้นทางเลี่ยง เป็นระยะๆ ส่วนในเรื่องของคดีแบ่งเป็นหลายส่วน กรณี ที่มีการตั้งด่าน และมีการจับกุมอาวุธได้ ให้ดำเนินการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบเพื่อขยายผล และหาความเชื่อมโยงกับคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.อนุชา กล่าวอีกว่าให้ บช.น. และผบ.เหตุการณ์พื้นที่ จะต้องดำเนินการประสานแผน และประสานการปฏิบัติกับทหาร เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนร่วมกัน โดยในวันนี้ผู้แทนทางทหารได้แถลงให้ที่ประชุมทราบถึงการปรับกำลัง ซึ่งการรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ ทหารยังคงรักษาสถานที่สำคัญตามที่ ศรส. มอบหมาย 24 จุด ส่วนจุดตรวจค้น และตรวจร่วมกับทหารและตำรวจ เนื่องจากมีการปรับลดเวทีการชุมนุมจึงปรับให้เหลือ 18 จุด โดยใช้ชุดปฏิบัติการชุดละ12 นาย ร่วมกับตำรวจ ส่วนของสายตรวจประกอบไปด้วยสารวัตรทหารทั้ง ทบ.-ทร.-ทอ. ยังคงปฏิบัติหน้าที่ระหว่างเวลา 18.00 น. ถึง 06.00 น. ของแต่ละวัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในส่วนของสะพานพระราม 8 ขณะนี้ ได้มีการเจรจาจนผู้ชุมนุมยอมเปิดการจราจรแล้ว ส่วนแยกวังมะนาว ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาให้ผู้ชุมนุมเปิดทาง เพื่อลดผลกระทบประชาชนที่จะเดินทางลงสู่ภาคใต้
เวลา 11.40 น.วันเดียวกันนี้ ที่ สตช. พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ตร. กล่าวรายงานการสรุปสถานการณ์การชุมนุมขณะนี้ ยังคงมีการชุมนุมอยู่ 5 เวที ลดลงมา 2 เวที มีเวทีคู่ขนานชุมนุมที่ต่างจังหวัด 15 จังหวัด ประกอบไปด้วยภาคเหนือ 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด และภาคใต้ 7 จังหวัด อีกทั้งวันนี้มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวมีกลุ่มชาวนา ในพื้นที่ภาคกลาง นัดชุมนุมปิดถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ขณะนี้กลุ่มชาวนาจ.กาญจนบุรีปิด ถนนที่บริเวณสามแยกท่าล่อ อ.ท่าม่วง ทั้งขาขึ้นขาล่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเปิดทางเลี่ยงอยู่ ทางผู้แทนของทั้งฝ่ายปกครองและธนาคาร ธ.ก.ส. ได้เข้าร่วมการเจรจรา
นอกจากนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการเตรียมแผนการรองรับการขอพื้นที่คืน โดยเน้นการเจรจา สำหรับข้อสั่งการอื่นๆ ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินการรักษาพื้นที่ โดยมีการตั้งด่านตรวจค้นอย่างเข้มแข็ง มีการแสดงกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ประชาชนได้เห็นเพื่อสร้างความมั่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความสะดวกเรื่องของการจราจร มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเส้นทาง ที่มีการปิดถนน เส้นทางเลี่ยง เป็นระยะๆ ส่วนในเรื่องของคดีแบ่งเป็นหลายส่วน กรณี ที่มีการตั้งด่าน และมีการจับกุมอาวุธได้ ให้ดำเนินการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบเพื่อขยายผล และหาความเชื่อมโยงกับคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.อนุชา กล่าวอีกว่าให้ บช.น. และผบ.เหตุการณ์พื้นที่ จะต้องดำเนินการประสานแผน และประสานการปฏิบัติกับทหาร เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนร่วมกัน โดยในวันนี้ผู้แทนทางทหารได้แถลงให้ที่ประชุมทราบถึงการปรับกำลัง ซึ่งการรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ ทหารยังคงรักษาสถานที่สำคัญตามที่ ศรส. มอบหมาย 24 จุด ส่วนจุดตรวจค้น และตรวจร่วมกับทหารและตำรวจ เนื่องจากมีการปรับลดเวทีการชุมนุมจึงปรับให้เหลือ 18 จุด โดยใช้ชุดปฏิบัติการชุดละ12 นาย ร่วมกับตำรวจ ส่วนของสายตรวจประกอบไปด้วยสารวัตรทหารทั้ง ทบ.-ทร.-ทอ. ยังคงปฏิบัติหน้าที่ระหว่างเวลา 18.00 น. ถึง 06.00 น. ของแต่ละวัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
