เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (4ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปผลการตั้งจุดตรวจค้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล สามารถจับกุมอาวุธปืนได้ 3 คดี ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ยึดของกลางอาวุธปืน 4 กระบอก กระสุนปืน 104 นัด โดย 1 ในผู้ต้องหา คือ สิบตรีนิติรัตน์ พูลนวล อายุ 27 ปี สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ขณะขับรถจักรยานยนต์ผ่านด่านตรวจบริเวณปั้มเอสโซ่ ซ.รอยรางน้ำ ถนนราชปรารภ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงแสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการตรวจอาวุธที่ยึดได้ทั้งหมด ทั้งตัวลำกล้อง ประเภทอาวุธ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับคดีต่างๆว่ามีส่วนคล้ายคลึงหรือเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นหรือไม่
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลกระทบต่อการจราจร 7 จุดใหญ่ๆ ประกอบด้วย แยกปทุมวัน แยกศาลาแดง แยกอโศก และถนนแจ้งวัฒนะ สะพานพระราม 8 สะพานผ่านฟ้าลีลาส และแยกราชประสงค์ ส่วนจุดอื่นๆ หลังมีการยุบเวทีการชุมนุม สามารถเปิดการจราจรได้แล้ว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ผลการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. -2 ก.พ.57 มีจำนวนคดีทั้งหมด 57 คดี โดยเฉพาะวันที่ 2 ก.พ.ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง มีคดีเกิดขึ้น จำนวน 23 คดี แบ่งเป็นคดีขัดขวาง หรือหน่วงเหนี่ยวไม่ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 22 คดี กล่าวหาพนักงานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต 14 คดี ฉีกบัตรเลือกตั้ง 10 คดี จำหน่ายสุราก่อนเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง 3 คดี ฝ่าฝืนประกาศพรก.ฉุกเฉิน 2 คดี และคดีทำร้ายร่างกาย 2 คดี หมิ่นประมาทและดูหมิ่นซึ่งหน้า 1 คดี ทำลายป้ายหาเสียง 3 คดี โดยอยู่ระหว่างการสอบสวน 55 คดี และส่งสำนวนให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) 2 คดี
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ประชาชนที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ และไปแจ้งความไว้ที่ สน.จำนวน 11,041 ราย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชัยยงค์ กีระติขจร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบเกี่ยวกับคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหมด
สำหรับการชุมนุมปิดถนนทางหลวงเรียกร้องโครงการรับจำนำข้าว พบว่ามีการปิดถนนบริเวณ แยกวังมะนาว ต่อเนื่อง ถนนเพชรเกษม-ถนนพระราม 2 ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้บังตำรวจทางหลวง และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไปเจรจาขอเปิดเส้นทางการจราจร เพื่อขอให้เปิดฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลกระทบต่อการจราจร 7 จุดใหญ่ๆ ประกอบด้วย แยกปทุมวัน แยกศาลาแดง แยกอโศก และถนนแจ้งวัฒนะ สะพานพระราม 8 สะพานผ่านฟ้าลีลาส และแยกราชประสงค์ ส่วนจุดอื่นๆ หลังมีการยุบเวทีการชุมนุม สามารถเปิดการจราจรได้แล้ว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ผลการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. -2 ก.พ.57 มีจำนวนคดีทั้งหมด 57 คดี โดยเฉพาะวันที่ 2 ก.พ.ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง มีคดีเกิดขึ้น จำนวน 23 คดี แบ่งเป็นคดีขัดขวาง หรือหน่วงเหนี่ยวไม่ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 22 คดี กล่าวหาพนักงานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต 14 คดี ฉีกบัตรเลือกตั้ง 10 คดี จำหน่ายสุราก่อนเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง 3 คดี ฝ่าฝืนประกาศพรก.ฉุกเฉิน 2 คดี และคดีทำร้ายร่างกาย 2 คดี หมิ่นประมาทและดูหมิ่นซึ่งหน้า 1 คดี ทำลายป้ายหาเสียง 3 คดี โดยอยู่ระหว่างการสอบสวน 55 คดี และส่งสำนวนให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) 2 คดี
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ประชาชนที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ และไปแจ้งความไว้ที่ สน.จำนวน 11,041 ราย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชัยยงค์ กีระติขจร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบเกี่ยวกับคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหมด
สำหรับการชุมนุมปิดถนนทางหลวงเรียกร้องโครงการรับจำนำข้าว พบว่ามีการปิดถนนบริเวณ แยกวังมะนาว ต่อเนื่อง ถนนเพชรเกษม-ถนนพระราม 2 ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้บังตำรวจทางหลวง และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไปเจรจาขอเปิดเส้นทางการจราจร เพื่อขอให้เปิดฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน