ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กอ.รมน.ภาค 4 สน.สั่งคุมเข้ม 7 หัวเมืองหลักชายแดนใต้ช่วงเทศกาลปีใหม่ หวั่นคนร้ายฉวยโอกาสป่วนช่วง ปชช.กำลังฉลอง ผบก.ยะลา สั่ง ตร.ทั้ง 17 โรงพักปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง ห้ามลา-ห้ามขาด ผบก.ปัตตานี เพิ่มกำลังคุมเข้มทุกพื้นที่ทั้งป้องกันเหตุรุนแรง-อุบัติเหตุ ผบก.นราธิวาส เน้นดูแลพื้นที่ "ตากใบ" ขณะที่"สงขลา"ตั้งจุดตรวจจุดสกัดทั้งถนนสายหลัก-สายรอง เน้นเส้นเชื่อมต่อ 3 จชต.
วานนี้ (24 ธ.ค.) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ส่วนหน้า เปิดเผยถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ว่า ในช่วงปีใหม่นี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังมุ่งเน้นใน 2 มาตรการใหญ่คือ 1.การบังคับใช้กฎหมายในการติดตามจับกุมคนร้ายที่กระทำความผิดมาลงโทษที่ยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง 2.ภารกิจช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้มุ่งเน้นดูแลความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมืองเศรษฐกิจทั้ง 7 หัวเมืองหลัก ทั้งเขต อ.เบดง อ.เมืองยะลา, จ.ปัตตานี, อ.ตากใบ, อ.สุไหงโก-ลก อ.เมืองนราธิวาส รวมทั้ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเฉพาะในเขตนครหาดใหญ่ ซึ่งมีการจัดงานยิ่งใหญ่มาตรการการดูแลความปลอดภัยจะต้องมีการวางกำลังไว้อย่างเข้มข้น
"ที่ผ่านมาเราได้มีการชักซ้อมทำความเข้าใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยในทุกพื้นที่แล้ว และผู้บัญชาการทหารบอก ก็ได้สั่งกำชับลงมาให้มีการเข้มงวดในเรื่องของความลปลอดภัยให้มาก ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในช่วงปีใหม่ในปี 2557 นี้เหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้จะสงบเรียบร้อย เพราะเราต้องการที่จะให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีโอกาสเฉลิมฉลองและมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่" พ.อ.ประโมทย์ กล่าว
พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวถึงมาตรการการดูแลประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ได้สั่งกำชับไปยังทั้ง 17 สภ.ในปกครองให้ดำเนินการ 2 มาตรการคู่กันคือรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการป้องกันและการลดอุบัติเหตุบนถนน โดยสั่งให้ทุก สภ.บูรณาการกำลังในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยพุทธ
นอกจากนั้น ยังให้ระดมกำลังออกกวาดล้างก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ โดยให้มีการปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่เสี่ยงไม่ว่าจะเป็นหอพัก บ้านเช่า หรือแหล่งมั่วสุม แหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด ซึ่งทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้กำชับนโยบายการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุในหัวเมืองหลักไว้แล้วที่จะต้องควบคุมสถานการณ์เป็นพิเศษ คือ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เบตง อ.รามัน อ.กรงปินัง และ อ.บันนังสตา
"สำหรับงานด้านการข่าวขณะนี้มีการแจ้งเตือนการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยกำลังที่มีการบูรณาการกำลังร่วมกัน ประชุม วางแผน ที่จะป้องกันการก่อเหตุไว้แล้วเพื่อจะได้ตัดโอกาสของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่จะวางแผนเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ส่วนความพร้อมของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้กำชับไปยังหน่วยกำลังในพื้นที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ห้ามลา ห้ามขาด พร้อมปฎิบัติหน้าที่เต็มกำลัง"
พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เปิดเผยว่า ได้ประชุมหัวหน้าโรงพักทั้ง 15 แห่งใน 12 อำเภอเพื่อมอบนโยบายแผนการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ในการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพักจะประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยกำลังทหาร อาสาสมัคร และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีแผนการปฏิบัติ 2 ยุทธศาสต์หลัก คือ การดูแลความปลอดภัยด้านความมั่นคงเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรง และการดูแลความปลอดภัยเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญมากในช่วงเทศกาลปีใหม่
ส่วนมาตราการณ์ดูแลความปลอดภัยกรณีการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีนั้นได้สั่งการให้ทุกพื้นที่จัดกำลังคุมเข้มสถานที่สำคัญๆ ทุกอำเภอ รวมไปถึงเส้นทางสายหลักและสายรอง โดยจะเพิ่มการดูแลตามจุดตรวจจุดสกัดตรวจค้นรถทุกชนิด และให้สนธิกำลังกดดันกลุ่มแนวร่วมไม่เปิดช่องว่างให้มีโอกาสออกมาก่อเหตุในห้วงเทศกาลปีใหม่ได้ ถึงแม้ว่าจะคงมีการแจ้งเตือนมาอย่างต่อเนื่องว่า จะมีการก่อเหตุ จึงต้องขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ช่วย เพื่อเป็นหูเป็นตาสังเกตบุคคลต้องสงสัยและวัตถุผิดปกติขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
พล.ต.ต.พัฒนวุฒิ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า ได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดไว้แล้วโดยเฉพาะเขตชุมชนเมืองเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสนุกในเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ อ.ตากใบ ซึ่งในปีนี้มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ขึ้นในพื้นที่ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมมากจึงต้องวางมาตรการเป็นพิเศษโดยเน้นการตั้งจุดตรวจลอยและลาดตระเวน
ด้านนายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุดในพื้นที่ อ.สะเดา เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.จนเป็นเหตุให้หลายฝ่ายเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยและจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.สงขลาในช่วงเทศกาลปีใหม่ในเรื่องนี้จังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.สงขลา ที่เคยเกิดเหตุมาแล้ว รวมทั้งภาคธุรกิจเพื่อวางมาตรการป้องกันการเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ต่อเนื่องในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
"ที่ประชุมได้กำหนดมาตรการหลักให้ทั้ง 8 อำเภอ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนเส้นทางสายหลักและสายรอง ทั้งที่เชื่อมต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเส้นทางรอยต่อของทั้ง 8 อำเภอ เน้นป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย บ้านเช่า หอพัก รีสอร์ตย่านชานเมืองเพื่อตรวจสอบบุคคลและวัตถุต้องสงสัย และให้ห้างร้านสถานบริการต่างๆ จัดระเบียบลานจอดรถและตรวจสอบรถยนต์อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังเน้นการให้การบริการประชาชนในการเดินทางทั้งบนถนนสายหลักและสายรองอย่างเต็มที่"
วานนี้ (24 ธ.ค.) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ส่วนหน้า เปิดเผยถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ว่า ในช่วงปีใหม่นี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังมุ่งเน้นใน 2 มาตรการใหญ่คือ 1.การบังคับใช้กฎหมายในการติดตามจับกุมคนร้ายที่กระทำความผิดมาลงโทษที่ยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง 2.ภารกิจช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้มุ่งเน้นดูแลความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมืองเศรษฐกิจทั้ง 7 หัวเมืองหลัก ทั้งเขต อ.เบดง อ.เมืองยะลา, จ.ปัตตานี, อ.ตากใบ, อ.สุไหงโก-ลก อ.เมืองนราธิวาส รวมทั้ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเฉพาะในเขตนครหาดใหญ่ ซึ่งมีการจัดงานยิ่งใหญ่มาตรการการดูแลความปลอดภัยจะต้องมีการวางกำลังไว้อย่างเข้มข้น
"ที่ผ่านมาเราได้มีการชักซ้อมทำความเข้าใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยในทุกพื้นที่แล้ว และผู้บัญชาการทหารบอก ก็ได้สั่งกำชับลงมาให้มีการเข้มงวดในเรื่องของความลปลอดภัยให้มาก ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในช่วงปีใหม่ในปี 2557 นี้เหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้จะสงบเรียบร้อย เพราะเราต้องการที่จะให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีโอกาสเฉลิมฉลองและมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่" พ.อ.ประโมทย์ กล่าว
พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวถึงมาตรการการดูแลประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ได้สั่งกำชับไปยังทั้ง 17 สภ.ในปกครองให้ดำเนินการ 2 มาตรการคู่กันคือรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการป้องกันและการลดอุบัติเหตุบนถนน โดยสั่งให้ทุก สภ.บูรณาการกำลังในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยพุทธ
นอกจากนั้น ยังให้ระดมกำลังออกกวาดล้างก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ โดยให้มีการปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่เสี่ยงไม่ว่าจะเป็นหอพัก บ้านเช่า หรือแหล่งมั่วสุม แหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด ซึ่งทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้กำชับนโยบายการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุในหัวเมืองหลักไว้แล้วที่จะต้องควบคุมสถานการณ์เป็นพิเศษ คือ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เบตง อ.รามัน อ.กรงปินัง และ อ.บันนังสตา
"สำหรับงานด้านการข่าวขณะนี้มีการแจ้งเตือนการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยกำลังที่มีการบูรณาการกำลังร่วมกัน ประชุม วางแผน ที่จะป้องกันการก่อเหตุไว้แล้วเพื่อจะได้ตัดโอกาสของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่จะวางแผนเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ส่วนความพร้อมของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้กำชับไปยังหน่วยกำลังในพื้นที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ห้ามลา ห้ามขาด พร้อมปฎิบัติหน้าที่เต็มกำลัง"
พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เปิดเผยว่า ได้ประชุมหัวหน้าโรงพักทั้ง 15 แห่งใน 12 อำเภอเพื่อมอบนโยบายแผนการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ในการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพักจะประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยกำลังทหาร อาสาสมัคร และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีแผนการปฏิบัติ 2 ยุทธศาสต์หลัก คือ การดูแลความปลอดภัยด้านความมั่นคงเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรง และการดูแลความปลอดภัยเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญมากในช่วงเทศกาลปีใหม่
ส่วนมาตราการณ์ดูแลความปลอดภัยกรณีการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีนั้นได้สั่งการให้ทุกพื้นที่จัดกำลังคุมเข้มสถานที่สำคัญๆ ทุกอำเภอ รวมไปถึงเส้นทางสายหลักและสายรอง โดยจะเพิ่มการดูแลตามจุดตรวจจุดสกัดตรวจค้นรถทุกชนิด และให้สนธิกำลังกดดันกลุ่มแนวร่วมไม่เปิดช่องว่างให้มีโอกาสออกมาก่อเหตุในห้วงเทศกาลปีใหม่ได้ ถึงแม้ว่าจะคงมีการแจ้งเตือนมาอย่างต่อเนื่องว่า จะมีการก่อเหตุ จึงต้องขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ช่วย เพื่อเป็นหูเป็นตาสังเกตบุคคลต้องสงสัยและวัตถุผิดปกติขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
พล.ต.ต.พัฒนวุฒิ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า ได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดไว้แล้วโดยเฉพาะเขตชุมชนเมืองเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสนุกในเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ อ.ตากใบ ซึ่งในปีนี้มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ขึ้นในพื้นที่ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมมากจึงต้องวางมาตรการเป็นพิเศษโดยเน้นการตั้งจุดตรวจลอยและลาดตระเวน
ด้านนายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด 3 จุดในพื้นที่ อ.สะเดา เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.จนเป็นเหตุให้หลายฝ่ายเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยและจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.สงขลาในช่วงเทศกาลปีใหม่ในเรื่องนี้จังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.สงขลา ที่เคยเกิดเหตุมาแล้ว รวมทั้งภาคธุรกิจเพื่อวางมาตรการป้องกันการเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ต่อเนื่องในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
"ที่ประชุมได้กำหนดมาตรการหลักให้ทั้ง 8 อำเภอ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนเส้นทางสายหลักและสายรอง ทั้งที่เชื่อมต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเส้นทางรอยต่อของทั้ง 8 อำเภอ เน้นป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย บ้านเช่า หอพัก รีสอร์ตย่านชานเมืองเพื่อตรวจสอบบุคคลและวัตถุต้องสงสัย และให้ห้างร้านสถานบริการต่างๆ จัดระเบียบลานจอดรถและตรวจสอบรถยนต์อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังเน้นการให้การบริการประชาชนในการเดินทางทั้งบนถนนสายหลักและสายรองอย่างเต็มที่"
