ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ในต่างจังหวัดโดยเฉพาะหัวเมืองหลัก โดยความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ จ.เชียงใหม่ ที่บริเวณหอศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการรวมตัวกันของกลุ่มคนเชียงใหม่ และ กปปส.เชียงใหม่เต็มลานหอศิลป์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. คนเริ่มทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยแต่ละคนที่มาจะมีนกหวีดคล้องคอพร้อมกับถือธงชาติไทยกันเกือบทุกคน พอเริ่มมีการเป่านกหวีดปรากฏว่าเวลา 15.00 น.พวกเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่เพิ่งร่วมขบวนสนับสนุนเลือกตั้งกับทางจังหวัดเชียงใหม่มีการเคลื่อนขบวนมาจากข่วงประตูท่าแพขี่รถจักยานยนต์และรถกระบะมาจอดอยู่บริเวณประตูด้านทางเข้าลานหอศิลป์พร้อมกับก่อกวนด้วยการขว้างก้อนหินขวดน้ำรวมทั้งใช้หนังสติ๊กยิงลูกหินเข้าไปภายในโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแต่เปิดเพลงของกลุ่มผู้ชุมนุมโดยไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับพวกที่มาก่อกวน จนสุดท้ายกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ 51 ก็แยกย้ายกันกลับไปไม่ได้เกิดการปะทะกันแต่อย่างใดในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังคงทำกิจกรรมกันต่อ
ที่ จ.ตาก กลุ่มประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายของกลุ่ม กปปส.จำนวนหลายร้อยคน ได้รวมตัวกันเดินไปรอบเขตเทศบาลเมืองตาก เป็นการเดินรอบเมืองคู่ขนานกับกลุ่ม กปปส.ในกรุงเทพฯ เพื่อขับไล่รัฐบาล และเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี โดยมีการชูป้ายเขียนข้อความต่างๆ เพื่อขับไล่รัฐบาล นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่าย กปปส.ตาก ยังยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้หยุดการฟังคำสั่งของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และให้ข้าราชการและหน่วยงานในพื้นที่ จ.ตาก หันมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.แทนด้วย
กปปส.สงขลารวมพลทั้ง 16 อำเภอ
ที่บริเวณเวทีรวมพลคนสงขลาขับไล่รัฐบาลโจร หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเวทีคู่ขนานไปกับ กปปส.กรุงเทพฯ ที่นัดเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ไล่นายกฯ โดย กปปส.สงขลา ได้นัดรวมพลมวลชนคนสงขลา ใน อ.เมืองสงขลา เพื่อออกเดินทางไป อ.หาดใหญ่ ไปสมทบกับมวลชนคนสงขลาจากอำเภอต่างๆ ทั้ง 16 อำเภอ ที่บริเวณหน้าหอนาฬิกา อ.หาดใหญ่ เพื่อร่วมเดินขบวนรณรงค์แสดงพลังสู้เพื่อชาติ แสดงจุดยืนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.57 โดยจะมีการเคลื่อนขบวนในเวลาประมาณ 11.45 น.ไปถึงจุดหมายเวลา 13.00 น.
หลังจากนั้นได้เคลื่อนขบวนเดินรณรงค์แสดงพลังสู้เพื่อชาติ พร้อมกับทาง กปปส.กรุงเทพฯ ไปตามถนนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และไปสิ้นสุดที่หน้าโรงแรมลีการ์เด้นส์ ซึ่งเป็นจุดใจกลางเมืองหาดใหญ่ แหล่งธุรกิจการค้า โดยมีการเปิดเวทีปราศรัยบนรถยนต์ไปจนถึงช่วงเย็นและจะเดินทางกลับไปรวมตัวที่เวทีหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา
ส่วนที่บริเวณเวทีหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเวทีคู่ขนานไปกับ กปปส.กรุงเทพฯ ที่นัดเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ไล่นายกรัฐมนตรี โดย กปปส.ภูเก็ตได้นัดรวมพลชาวภูเก็ต เพื่อเคลื่อนขบวนไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งมีชาวภูเก็ตนับพันคนออกมาเคลื่อนไหวเพื่อแสดงจุดยืนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.57 โดยขบวนได้เคลื่อนออกจากบริเวณถนนหน้าศาลากลางในเวลา 10.30 น.มุ่งหน้าไปยังสี่แยกบางเหนียว ก่อนวนเข้าสู่วงเวียนหอนาฬิกา เพื่อรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งที่ถนนหน้าศาลากลางภูเก็ต ในการเรียกร้องให้ชาวภูเก็ตออกมาเคลื่อนไหวแสดงจุดยืนดังกล่าวร่วมกัน ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนกลับมาสู่ที่ตั้ง ณ เวทีบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของ กปปส.ส่วนกลาง
ขณะที่การดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุม และรวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรนั้น ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากทางเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทั้งฝ่ายปกครองจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เช่นเดียวกับกลุ่มมวลชน กปปส.นครศรีธรรมราช จำนวนมากได้แบ่งการเดินขบวนออกเป็น 3 สายโดยมีเส้นทางเดินทั่วทั้งเมืองนครศรีธรรมราช ท่ามกลางการสนับสนุนจากประชาชนทั้ง 2 ข้างทางจนแน่นขนัด
จากนั้นได้มารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเริ่มเวทีคู่ขนานกับกรุงเทพฯ อีกครั้ง หลังจากที่พักเวทีไปกว่า 1 สัปดาห์และจะมีการเปิดเวทีต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อรณรงค์ให้มีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนการเลือกตั้งและอาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นเวทีในการรณรงค์ให้มีการไปใช้สิทธิเลือกตั้งในช่องประสงค์ไม่ลงคะแนนให้มากที่สุด หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.57 นี้
กปปส.เมืองดอกบัวปลุก ปชช.ไล่ปู
ที่ศูนย์โอทอป อ.เมือง จ.อุบลราชธานี กลุ่มมวลชน กปปส.หลายร้อยคนนำโดยนางทัศนีย์ บุญประสิทธิ์ มารวมตัวเดินรณรงค์เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากนายกรัฐมนตรีรักษาการ เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนจัดให้มีเลือกตั้ง แก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี
ระหว่างการเดินรณรงค์กลุ่มมวลชนของ กปปส.นำหนังสือพิมพ์ของ กปปส.ซึ่งให้รายละเอียด และจุดประสงค์การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปแจกให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ 2 ข้างถนน เพื่อเข้าร่วมเรียกร้องกับทางกลุ่ม ซึ่งได้การตอนรับจากประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเส้นทางที่เดินรณรงค์โดยออกมาร่วมเป่านกหวีด และโบกธงชาติ
สำหรับเส้นทางการเดินรณรงค์กลุ่ม กปปส.ได้เดินออกจากศูนย์โอทอป มุ่งหน้าไปตามถนนชยางกูร ก่อนเข้าไปร่วมจัดเวทีคู่ขนานที่ลานเทียนสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และชุดเคลื่อนเร็วของ สภ.เมืองอุบลราชธานี คอยดูแลความสงบ
ด้านเครือข่าย กปปส.นครราชสีมากว่า 3,000 คนได้ขึ้นรถบัสปรับอากาศกันอย่างคึกคักเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯร่วมชุมนุมใหญ่กับ กปปส.ทั่วประเทศ ขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะออกจากรัฐบาลรักษาการ โดยทาง กปปส.นครราชสีมา ได้จัดรถบัสปรับอากาศจำนวน 26 คัน และรถตู้อีกกว่า 20 คัน รับผู้ร่วมเดินทางตามจุดต่างๆ อาทิ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และแยกเต๊กฮะ ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา
นายชุบ ชัยฤทธิชัย ผู้ควบคุมขบวนรถเดินทางของ กปปส.นครราชสีมา เปิดเผยว่า การเดินทางไปในครั้งนี้จะปักหลักอยู่เพียง 1 วันเท่านั้น เพราะมั่นใจว่าจะสามารถขับไล่รัฐบาลรักษาการได้ภายในวันเดียว ดังนั้น จึงไม่มีการเคลื่อนไหวคู่ขนานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเหมือนครั้งก่อน แต่จะให้ทุกคนเดินทางไปร่วมเดินขบวนที่กรุงเทพฯ แทน เพื่อแสดงพลังของมวลมหาประชาชนขับไล่รัฐบาลรักษาการให้สำเร็จ
ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแต่เปิดเพลงของกลุ่มผู้ชุมนุมโดยไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับพวกที่มาก่อกวน จนสุดท้ายกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ 51 ก็แยกย้ายกันกลับไปไม่ได้เกิดการปะทะกันแต่อย่างใดในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังคงทำกิจกรรมกันต่อ
ที่ จ.ตาก กลุ่มประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายของกลุ่ม กปปส.จำนวนหลายร้อยคน ได้รวมตัวกันเดินไปรอบเขตเทศบาลเมืองตาก เป็นการเดินรอบเมืองคู่ขนานกับกลุ่ม กปปส.ในกรุงเทพฯ เพื่อขับไล่รัฐบาล และเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี โดยมีการชูป้ายเขียนข้อความต่างๆ เพื่อขับไล่รัฐบาล นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่าย กปปส.ตาก ยังยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้หยุดการฟังคำสั่งของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และให้ข้าราชการและหน่วยงานในพื้นที่ จ.ตาก หันมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.แทนด้วย
กปปส.สงขลารวมพลทั้ง 16 อำเภอ
ที่บริเวณเวทีรวมพลคนสงขลาขับไล่รัฐบาลโจร หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเวทีคู่ขนานไปกับ กปปส.กรุงเทพฯ ที่นัดเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ไล่นายกฯ โดย กปปส.สงขลา ได้นัดรวมพลมวลชนคนสงขลา ใน อ.เมืองสงขลา เพื่อออกเดินทางไป อ.หาดใหญ่ ไปสมทบกับมวลชนคนสงขลาจากอำเภอต่างๆ ทั้ง 16 อำเภอ ที่บริเวณหน้าหอนาฬิกา อ.หาดใหญ่ เพื่อร่วมเดินขบวนรณรงค์แสดงพลังสู้เพื่อชาติ แสดงจุดยืนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.57 โดยจะมีการเคลื่อนขบวนในเวลาประมาณ 11.45 น.ไปถึงจุดหมายเวลา 13.00 น.
หลังจากนั้นได้เคลื่อนขบวนเดินรณรงค์แสดงพลังสู้เพื่อชาติ พร้อมกับทาง กปปส.กรุงเทพฯ ไปตามถนนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และไปสิ้นสุดที่หน้าโรงแรมลีการ์เด้นส์ ซึ่งเป็นจุดใจกลางเมืองหาดใหญ่ แหล่งธุรกิจการค้า โดยมีการเปิดเวทีปราศรัยบนรถยนต์ไปจนถึงช่วงเย็นและจะเดินทางกลับไปรวมตัวที่เวทีหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา
ส่วนที่บริเวณเวทีหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเวทีคู่ขนานไปกับ กปปส.กรุงเทพฯ ที่นัดเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ไล่นายกรัฐมนตรี โดย กปปส.ภูเก็ตได้นัดรวมพลชาวภูเก็ต เพื่อเคลื่อนขบวนไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งมีชาวภูเก็ตนับพันคนออกมาเคลื่อนไหวเพื่อแสดงจุดยืนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.57 โดยขบวนได้เคลื่อนออกจากบริเวณถนนหน้าศาลากลางในเวลา 10.30 น.มุ่งหน้าไปยังสี่แยกบางเหนียว ก่อนวนเข้าสู่วงเวียนหอนาฬิกา เพื่อรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งที่ถนนหน้าศาลากลางภูเก็ต ในการเรียกร้องให้ชาวภูเก็ตออกมาเคลื่อนไหวแสดงจุดยืนดังกล่าวร่วมกัน ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนกลับมาสู่ที่ตั้ง ณ เวทีบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของ กปปส.ส่วนกลาง
ขณะที่การดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุม และรวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรนั้น ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากทางเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทั้งฝ่ายปกครองจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เช่นเดียวกับกลุ่มมวลชน กปปส.นครศรีธรรมราช จำนวนมากได้แบ่งการเดินขบวนออกเป็น 3 สายโดยมีเส้นทางเดินทั่วทั้งเมืองนครศรีธรรมราช ท่ามกลางการสนับสนุนจากประชาชนทั้ง 2 ข้างทางจนแน่นขนัด
จากนั้นได้มารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเริ่มเวทีคู่ขนานกับกรุงเทพฯ อีกครั้ง หลังจากที่พักเวทีไปกว่า 1 สัปดาห์และจะมีการเปิดเวทีต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อรณรงค์ให้มีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนการเลือกตั้งและอาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นเวทีในการรณรงค์ให้มีการไปใช้สิทธิเลือกตั้งในช่องประสงค์ไม่ลงคะแนนให้มากที่สุด หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.57 นี้
กปปส.เมืองดอกบัวปลุก ปชช.ไล่ปู
ที่ศูนย์โอทอป อ.เมือง จ.อุบลราชธานี กลุ่มมวลชน กปปส.หลายร้อยคนนำโดยนางทัศนีย์ บุญประสิทธิ์ มารวมตัวเดินรณรงค์เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากนายกรัฐมนตรีรักษาการ เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนจัดให้มีเลือกตั้ง แก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี
ระหว่างการเดินรณรงค์กลุ่มมวลชนของ กปปส.นำหนังสือพิมพ์ของ กปปส.ซึ่งให้รายละเอียด และจุดประสงค์การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปแจกให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ 2 ข้างถนน เพื่อเข้าร่วมเรียกร้องกับทางกลุ่ม ซึ่งได้การตอนรับจากประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเส้นทางที่เดินรณรงค์โดยออกมาร่วมเป่านกหวีด และโบกธงชาติ
สำหรับเส้นทางการเดินรณรงค์กลุ่ม กปปส.ได้เดินออกจากศูนย์โอทอป มุ่งหน้าไปตามถนนชยางกูร ก่อนเข้าไปร่วมจัดเวทีคู่ขนานที่ลานเทียนสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และชุดเคลื่อนเร็วของ สภ.เมืองอุบลราชธานี คอยดูแลความสงบ
ด้านเครือข่าย กปปส.นครราชสีมากว่า 3,000 คนได้ขึ้นรถบัสปรับอากาศกันอย่างคึกคักเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯร่วมชุมนุมใหญ่กับ กปปส.ทั่วประเทศ ขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะออกจากรัฐบาลรักษาการ โดยทาง กปปส.นครราชสีมา ได้จัดรถบัสปรับอากาศจำนวน 26 คัน และรถตู้อีกกว่า 20 คัน รับผู้ร่วมเดินทางตามจุดต่างๆ อาทิ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และแยกเต๊กฮะ ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา
นายชุบ ชัยฤทธิชัย ผู้ควบคุมขบวนรถเดินทางของ กปปส.นครราชสีมา เปิดเผยว่า การเดินทางไปในครั้งนี้จะปักหลักอยู่เพียง 1 วันเท่านั้น เพราะมั่นใจว่าจะสามารถขับไล่รัฐบาลรักษาการได้ภายในวันเดียว ดังนั้น จึงไม่มีการเคลื่อนไหวคู่ขนานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเหมือนครั้งก่อน แต่จะให้ทุกคนเดินทางไปร่วมเดินขบวนที่กรุงเทพฯ แทน เพื่อแสดงพลังของมวลมหาประชาชนขับไล่รัฐบาลรักษาการให้สำเร็จ
