เปิดใจ "ป้าแอ่ง แซ่ตั้ง" เสรีชนเมืองช้าง "นกหวีดหญิงเดี่ยว" ลุยไล่ "ปู" กลางฝูงแดง หวิดถูกประชาทัณฑ์ ลั่น "ไม่กลัว พร้อมสู้เพื่อชาติและในหลวง" น้องสาวบอกเป็นห่วง ได้แต่เตือนให้ระวังตัว เพราะมีทั้งคนหวังดีและหวังร้าย
เมื่อค่ำวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพักที่โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ปรากฏว่ามีหญิงสูงอายุชาวไทยเชื้อสายจีน ไม่ทราบชื่อ ได้บุกเดี่ยวเข้าไปในโรงแรม เพื่อเป่านกหวีดขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระหว่างมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ที่อดีตส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และข้าราชการในจังหวัดอีสานตอนล่างร่วมกันจัดขึ้น ท่ามกลางความตกใจของการ์ดเสื้อแดงและคนเสื้อแดงจำนวนมาก ที่ต่างกรูกันเข้ามาพยายามทำร้ายร่างกายกว่า 20 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย จะรีบนำตัวหญิงสูงวัยคนดังกล่าวออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะถูกถูกรุมประชาทัณฑ์
ล่าสุด วานนี้(19 ธ.ค.) ก็เป็นที่ประจักษ์ว่าหญิงสูงวัยคนดังกล่าว คือ "น.ส.แอ่ง แซ่ตั้ง" อายุ 64 ปี ชาวอ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพขายอาหารอยู่ในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ ซึ่งเธอกลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน เมื่อบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด และเพื่อนๆจากกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) พากันนำดอกกุหลาบมามอบให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจกันทั้งวัน
"น.ส.แอ่ง" หรือ "ป้าแอ่ง" ของชาวตลาดเทศบาลเมืองสุรินทร์ เล่าให้ฟังว่า เวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 17 ธันวาคม ได้บุกเข้าไปในโรงแรมทองธารินทร์ ซึ่งกำลังจัดงานเลี้ยงต้อนรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเข้าไปในโรงแรม และกำลังเดินขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง แต่คนเสื้อแดงเห็นว่าป้าสวมสายรัดข้อมือธงชาติ จึงถามว่ามาทำไม จึงตอบกลับไปว่า "อยากจะไปดูหน้ามันหน่อย เพราะมันสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมือง"
จึงถูกเสื้อแดงกันเอาตัวออกมาข้างนอกโรงแรม และทุบป้าเข้าที่หน้าอกอย่างแรง ซึ่งโชคดีที่นักข่าวเห็นเหตุการณ์ คนเสื้อแดงจึงไม่กล้าทำร้ายต่อ ไม่เช่นนั้นคงถูกมันทำร้ายหนักแน่ เพราะมันโหดมาก
"ป้าตั้งใจจะเข้าไปหายิ่งลักษณ์ แต่ไม่ทันได้ขึ้นไปถึงห้องจัดเลี้ยง ก็ถูกกันและเอาตัวออกมาเสียก่อน แต่ขอยืนยันว่าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น พร้อมสู้เพื่อชาติและในหลวง"ป้าแอ่งกล่าวื้งท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ด้านนางพิรมย์ ชูเส้นผม อายุ 62 ปี แม่ค้าขายผลไม้ เล่าว่า ป้าแอ่งแกเป็นคนเก่งมาก บุกไปคนเดียวได้ ซึ่งคงเป็นเพราะป้าแอ่งรักพระเจ้าอยู่หัวมาก และรักประเทศไทย การออกมาสู้ของเสรีชนคนไทยต่อต้านรัฐบาลโกง เพื่อปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ เชื่อว่าต้องสู้ได้อยู่แล้ว เพราะหากปล่อยให้มีการเลือกตั้ง ก็เต็มไปด้วยการซื้อเสียง ที่ผ่านมาก็ใช้เงินซื้อเสียงตลอด
"หากมีการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 พวกเราจะไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเลือกไปก็เน่าเหมือนเดิม เพราะบริหารบ้านเมือง 2 ปีที่ผ่านมา ยังเละตุ้มเป๊ะเลย"
ขณะที่นางรัตนา สุธรรมพอดี อายุ 61 ปี น้องสาวป้าแอ่ง กล่าวว่า พี่สาวเป็นคนโสด ไม่ได้แต่งงาน มีพี่น้องทั้ 7 คน ครอบครัวเราเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ภูมิลำเนาเดิมอยู่กรุงเทพมหานคร แต่มาตั้งรกรากทำมาหากินที่จ.สุรินทร์ 8 ปีแล้ว หลังรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ก็รู้สึกเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพี่สาวมาก ได้แต่คอยเตือนให้ระวังตัว เพราะของแบบนี้มีทั้งคนหวังดีและหวังร้าย
แม้มีทั้งคนหวังดีและหวังร้าย แต่วันนี้..."ป้าแอ่ง" ก็กลายเป็น "นกหวีดหญิงเดี่ยว" มือวางอันดับ 1 ของ "เสรีชนเมืองช้าง" ไปแล้ว!!!
เมื่อค่ำวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพักที่โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ปรากฏว่ามีหญิงสูงอายุชาวไทยเชื้อสายจีน ไม่ทราบชื่อ ได้บุกเดี่ยวเข้าไปในโรงแรม เพื่อเป่านกหวีดขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระหว่างมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ ที่อดีตส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และข้าราชการในจังหวัดอีสานตอนล่างร่วมกันจัดขึ้น ท่ามกลางความตกใจของการ์ดเสื้อแดงและคนเสื้อแดงจำนวนมาก ที่ต่างกรูกันเข้ามาพยายามทำร้ายร่างกายกว่า 20 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย จะรีบนำตัวหญิงสูงวัยคนดังกล่าวออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะถูกถูกรุมประชาทัณฑ์
ล่าสุด วานนี้(19 ธ.ค.) ก็เป็นที่ประจักษ์ว่าหญิงสูงวัยคนดังกล่าว คือ "น.ส.แอ่ง แซ่ตั้ง" อายุ 64 ปี ชาวอ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพขายอาหารอยู่ในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ ซึ่งเธอกลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน เมื่อบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด และเพื่อนๆจากกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) พากันนำดอกกุหลาบมามอบให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจกันทั้งวัน
"น.ส.แอ่ง" หรือ "ป้าแอ่ง" ของชาวตลาดเทศบาลเมืองสุรินทร์ เล่าให้ฟังว่า เวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 17 ธันวาคม ได้บุกเข้าไปในโรงแรมทองธารินทร์ ซึ่งกำลังจัดงานเลี้ยงต้อนรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเข้าไปในโรงแรม และกำลังเดินขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง แต่คนเสื้อแดงเห็นว่าป้าสวมสายรัดข้อมือธงชาติ จึงถามว่ามาทำไม จึงตอบกลับไปว่า "อยากจะไปดูหน้ามันหน่อย เพราะมันสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมือง"
จึงถูกเสื้อแดงกันเอาตัวออกมาข้างนอกโรงแรม และทุบป้าเข้าที่หน้าอกอย่างแรง ซึ่งโชคดีที่นักข่าวเห็นเหตุการณ์ คนเสื้อแดงจึงไม่กล้าทำร้ายต่อ ไม่เช่นนั้นคงถูกมันทำร้ายหนักแน่ เพราะมันโหดมาก
"ป้าตั้งใจจะเข้าไปหายิ่งลักษณ์ แต่ไม่ทันได้ขึ้นไปถึงห้องจัดเลี้ยง ก็ถูกกันและเอาตัวออกมาเสียก่อน แต่ขอยืนยันว่าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น พร้อมสู้เพื่อชาติและในหลวง"ป้าแอ่งกล่าวื้งท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ด้านนางพิรมย์ ชูเส้นผม อายุ 62 ปี แม่ค้าขายผลไม้ เล่าว่า ป้าแอ่งแกเป็นคนเก่งมาก บุกไปคนเดียวได้ ซึ่งคงเป็นเพราะป้าแอ่งรักพระเจ้าอยู่หัวมาก และรักประเทศไทย การออกมาสู้ของเสรีชนคนไทยต่อต้านรัฐบาลโกง เพื่อปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ เชื่อว่าต้องสู้ได้อยู่แล้ว เพราะหากปล่อยให้มีการเลือกตั้ง ก็เต็มไปด้วยการซื้อเสียง ที่ผ่านมาก็ใช้เงินซื้อเสียงตลอด
"หากมีการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 พวกเราจะไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเลือกไปก็เน่าเหมือนเดิม เพราะบริหารบ้านเมือง 2 ปีที่ผ่านมา ยังเละตุ้มเป๊ะเลย"
ขณะที่นางรัตนา สุธรรมพอดี อายุ 61 ปี น้องสาวป้าแอ่ง กล่าวว่า พี่สาวเป็นคนโสด ไม่ได้แต่งงาน มีพี่น้องทั้ 7 คน ครอบครัวเราเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ภูมิลำเนาเดิมอยู่กรุงเทพมหานคร แต่มาตั้งรกรากทำมาหากินที่จ.สุรินทร์ 8 ปีแล้ว หลังรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ก็รู้สึกเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพี่สาวมาก ได้แต่คอยเตือนให้ระวังตัว เพราะของแบบนี้มีทั้งคนหวังดีและหวังร้าย
แม้มีทั้งคนหวังดีและหวังร้าย แต่วันนี้..."ป้าแอ่ง" ก็กลายเป็น "นกหวีดหญิงเดี่ยว" มือวางอันดับ 1 ของ "เสรีชนเมืองช้าง" ไปแล้ว!!!
