ข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนก้าวมาถึงเป้าหมายสุดท้ายแล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่การกดดันให้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกไป ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะถ้าออก อาจหมายถึงการสิ้นสลายของระบอบทักษิณ
และการสิ้นสลายของระบอบทักษิณ หมายถึงการสิ้นอำนาจวาสนาของบรรดาเหล่าขี้ข้าของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ นักวิชาการ นักธุรกิจ หรือแม้แต่สื่อมวลชน
แม้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์อยากจะถอย แต่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมแน่ และขี้ข้าที่รับใช้ระบอบทักษิณจะต้องพยายามประคับประคองรัฐบาลให้ถึงที่สุดเหมือนกัน
เพราะถ้า “ยิ่งลักษณ์” พัง พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีวันได้กลับบ้าน ส่วนบรรดาขี้ข้าทั้งหลายจะเดือดร้อน และไม่มีที่ยืนในสังคม
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเหนี่ยวรั้งกระแสประชาชนมาตลอด จากที่เคยประกาศว่า จะไม่ยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่เมื่อประชาชนลุกฮือขึ้นจึงยอมถอน แต่ช้าเกินไปแล้ว เพราะกระแสเรียกร้องก้าวข้ามไปสู่การยุบสภา
นางสาวยิ่งลักษณ์เล่นละครมาตลอด ช่วงแรกที่ประชาชนลุกฮือต่อต้าน ประกาศหนักแน่นว่า จะไม่ยอมยุบสภา ไม่ลาออก
แต่เมื่อประชาชนลุกขึ้นมาพร้อมกันทั้งประเทศ จึงประกาศยุบสภาโดยหวังลดกระแส แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ก็คิดช้าเกินไปตามเคย
คำขาดของประชาชน 5 ล้านคนที่แสดงจุดยืนร่วมกันคือ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องออกไป เพื่อจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง
การชุมนุมเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ได้สร้างประวัติศาสตร์โลกใหม่ เพราะไม่เคยมีประเทศใดในโลกที่ประชาชนทั้งประเทศ ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลอย่างมากมายมืดฟ้ามัวดินเหมือนประเทศไทย
นางสาวยิ่งลักษณ์ยังจะหน้าด้านต่อไปหรือ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยังจะดันทุรังอีกหรือ พ.ต.ท.ทักษิณยังคิดจะสู้กับประชาชนทั้งประเทศอีกหรือ
ข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชน ไม่ใช่สิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้ เพียงแต่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ยอมปฏิบัติเท่านั้น
ประเทศเดินมาสู่ทางสองแพร่ง แต่ไม่ยากเลยที่จะเลือกเส้นทางเดินต่อไป
จะเรียกร้องให้มวลมหาประชาชนกลับบ้าน เพื่อให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารงานต่อไป หรือกดดันให้รัฐบางยิ่งลักษณ์ลาออก และปล่อยให้ประชาชนร่วมกันกำหนดชะตากรรมของประเทศต่อไป คนส่วนใหญ่คงตอบได้
การยุบสภาโดยอ้างว่า เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน และเลือกตั้งกันใหม่ จะเป็นข้อยุติได้อย่างไร ในเมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังคุมอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่
การเลือกตั้งใหม่จะนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อระบอบทักษิณยังมีอิทธิพลต่อกระบวนการเลือกตั้ง
ระบอบประชาธิปไตยจะต้องมีการเลือกตั้ง แต่เลือกตั้งตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณมีเงินมหาศาลที่ปล้นจากประเทศพร้อมจะทุ่มเข้ามาซื้อเสียง
การเลือกตั้งจะมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมได้อย่างไร ในเมื่อบรรดาผู้ว่าราชการจังหวัดเกือบทั้งหมด ตำรวจทั้งประเทศ กกต.ในหลายจังหวัด เป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ
และจะหาความเป็นกลางได้จากไหน ในเมื่อสื่อของรัฐ หรือแม้แต่สื่ออิสระหลายสำนักแสดงตัวให้เห็นแล้วว่าเป็นขี้ข้า พร้อมทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์
จะเว้นวรรคประชาธิปไตยไว้ชั่วคราว เพื่อปฏิรูปการเมืองใหม่ แล้วค่อยกลับมาเลือกตั้งกันใหม่ จะเสียหายอะไรกันนักหนา
เพราะปล่อยให้ระบอบทักษิณครอบงำมา 12 ปี ปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารมากว่า 2 ปี จนสังคมแทบแตกเป็นเสี่ยง ประเทศใกล้จะย่อยยับ ประชาชนต้องเดือดร้อนเพราะผลกระทบจากภาวะข้าวยากหมากแพงยังทนกันได้
จะทนอีกสัก 1-2 ปี เพื่อปฏิรูปการเมืองให้ใสสะอาด ปราศจากนักการเมืองเลวๆ ทำไมจะทนกันไม่ได้
นักการเมืองขี้ข้า นักธุรกิจขี้ข้า นักวิชาการขี้ข้า และสื่อขี้ข้า กำลังออกมาทำหน้าที่เป็นสุนัขรับใช้ระบอบทักษิณ โดยพยายามชี้นำว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ยอมถึงที่สุดแล้ว พยายามโน้มน้าวให้เห็นว่า การเลือกตั้งใหม่เป็นทางออกดีที่สุดตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งที่ประชาชนทั่วประเทศรู้ว่า ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังกุมอำนาจ สมุนขี้ข้าระบอบทักษิณยังอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง การเลือกตั้งใหม่จะทำให้การเมืองไทยกลับเข้าสู่วงจรอุบาทว์ และประเทศบรรลัยหนักขึ้น
การเลือกตั้งใหม่ต้องมีแน่ แต่ยังไม่ใช่วันนี้ เพราะจะต้องปฏิรูปการเมือง จะต้องขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ จะต้องกวาดล้างขี้ข้าที่ปะปนในสังคมให้หมดสิ้นเสียก่อน
ขวากหนามสำคัญของการปฏิรูปการเมือง อุปสรรคสุดท้ายในการขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ อยู่ที่นางสาวยิ่งลักษณ์เพียงคนดียวเท่านั้น
เมื่อไหร่ที่หยุดเล่นละคร เมื่อไหร่กลับตัวกลับใจได้ เมื่อไหร่สำนึกถึงความเสียสละ ประกาศลาออกไป ประเทศจะกลับสู่ความสงบทันที
อย่าหวังว่า ประชาชนที่ลุกฮือขึ้นมารวมตัว 5 ล้านคน จะยอมเก็บเสื้อผ้ากลับบ้าน และปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เสวยสุขกับการทำลายชาติต่อไป
วันนี้ “ยิ่งลักษณ์” ต้องออกสถานเดียว
และวันนี้ ใครก็ตามที่เรียกร้องให้ประชาชนยุติการชุมนุม ช่วยกันตราหน้าไว้ เพราะมันคือเหล่าขี้ข้าที่ออกมาเห่าหอนปกป้องระบอบทักษิณในเฮือกสุดท้ายทั้งสิ้น
แต่การกดดันให้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกไป ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะถ้าออก อาจหมายถึงการสิ้นสลายของระบอบทักษิณ
และการสิ้นสลายของระบอบทักษิณ หมายถึงการสิ้นอำนาจวาสนาของบรรดาเหล่าขี้ข้าของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ นักวิชาการ นักธุรกิจ หรือแม้แต่สื่อมวลชน
แม้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์อยากจะถอย แต่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมแน่ และขี้ข้าที่รับใช้ระบอบทักษิณจะต้องพยายามประคับประคองรัฐบาลให้ถึงที่สุดเหมือนกัน
เพราะถ้า “ยิ่งลักษณ์” พัง พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีวันได้กลับบ้าน ส่วนบรรดาขี้ข้าทั้งหลายจะเดือดร้อน และไม่มีที่ยืนในสังคม
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเหนี่ยวรั้งกระแสประชาชนมาตลอด จากที่เคยประกาศว่า จะไม่ยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่เมื่อประชาชนลุกฮือขึ้นจึงยอมถอน แต่ช้าเกินไปแล้ว เพราะกระแสเรียกร้องก้าวข้ามไปสู่การยุบสภา
นางสาวยิ่งลักษณ์เล่นละครมาตลอด ช่วงแรกที่ประชาชนลุกฮือต่อต้าน ประกาศหนักแน่นว่า จะไม่ยอมยุบสภา ไม่ลาออก
แต่เมื่อประชาชนลุกขึ้นมาพร้อมกันทั้งประเทศ จึงประกาศยุบสภาโดยหวังลดกระแส แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ก็คิดช้าเกินไปตามเคย
คำขาดของประชาชน 5 ล้านคนที่แสดงจุดยืนร่วมกันคือ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องออกไป เพื่อจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง
การชุมนุมเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ได้สร้างประวัติศาสตร์โลกใหม่ เพราะไม่เคยมีประเทศใดในโลกที่ประชาชนทั้งประเทศ ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลอย่างมากมายมืดฟ้ามัวดินเหมือนประเทศไทย
นางสาวยิ่งลักษณ์ยังจะหน้าด้านต่อไปหรือ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยังจะดันทุรังอีกหรือ พ.ต.ท.ทักษิณยังคิดจะสู้กับประชาชนทั้งประเทศอีกหรือ
ข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชน ไม่ใช่สิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้ เพียงแต่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ยอมปฏิบัติเท่านั้น
ประเทศเดินมาสู่ทางสองแพร่ง แต่ไม่ยากเลยที่จะเลือกเส้นทางเดินต่อไป
จะเรียกร้องให้มวลมหาประชาชนกลับบ้าน เพื่อให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารงานต่อไป หรือกดดันให้รัฐบางยิ่งลักษณ์ลาออก และปล่อยให้ประชาชนร่วมกันกำหนดชะตากรรมของประเทศต่อไป คนส่วนใหญ่คงตอบได้
การยุบสภาโดยอ้างว่า เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน และเลือกตั้งกันใหม่ จะเป็นข้อยุติได้อย่างไร ในเมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังคุมอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่
การเลือกตั้งใหม่จะนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อระบอบทักษิณยังมีอิทธิพลต่อกระบวนการเลือกตั้ง
ระบอบประชาธิปไตยจะต้องมีการเลือกตั้ง แต่เลือกตั้งตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณมีเงินมหาศาลที่ปล้นจากประเทศพร้อมจะทุ่มเข้ามาซื้อเสียง
การเลือกตั้งจะมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมได้อย่างไร ในเมื่อบรรดาผู้ว่าราชการจังหวัดเกือบทั้งหมด ตำรวจทั้งประเทศ กกต.ในหลายจังหวัด เป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ
และจะหาความเป็นกลางได้จากไหน ในเมื่อสื่อของรัฐ หรือแม้แต่สื่ออิสระหลายสำนักแสดงตัวให้เห็นแล้วว่าเป็นขี้ข้า พร้อมทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์
จะเว้นวรรคประชาธิปไตยไว้ชั่วคราว เพื่อปฏิรูปการเมืองใหม่ แล้วค่อยกลับมาเลือกตั้งกันใหม่ จะเสียหายอะไรกันนักหนา
เพราะปล่อยให้ระบอบทักษิณครอบงำมา 12 ปี ปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารมากว่า 2 ปี จนสังคมแทบแตกเป็นเสี่ยง ประเทศใกล้จะย่อยยับ ประชาชนต้องเดือดร้อนเพราะผลกระทบจากภาวะข้าวยากหมากแพงยังทนกันได้
จะทนอีกสัก 1-2 ปี เพื่อปฏิรูปการเมืองให้ใสสะอาด ปราศจากนักการเมืองเลวๆ ทำไมจะทนกันไม่ได้
นักการเมืองขี้ข้า นักธุรกิจขี้ข้า นักวิชาการขี้ข้า และสื่อขี้ข้า กำลังออกมาทำหน้าที่เป็นสุนัขรับใช้ระบอบทักษิณ โดยพยายามชี้นำว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ยอมถึงที่สุดแล้ว พยายามโน้มน้าวให้เห็นว่า การเลือกตั้งใหม่เป็นทางออกดีที่สุดตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งที่ประชาชนทั่วประเทศรู้ว่า ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังกุมอำนาจ สมุนขี้ข้าระบอบทักษิณยังอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง การเลือกตั้งใหม่จะทำให้การเมืองไทยกลับเข้าสู่วงจรอุบาทว์ และประเทศบรรลัยหนักขึ้น
การเลือกตั้งใหม่ต้องมีแน่ แต่ยังไม่ใช่วันนี้ เพราะจะต้องปฏิรูปการเมือง จะต้องขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ จะต้องกวาดล้างขี้ข้าที่ปะปนในสังคมให้หมดสิ้นเสียก่อน
ขวากหนามสำคัญของการปฏิรูปการเมือง อุปสรรคสุดท้ายในการขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ อยู่ที่นางสาวยิ่งลักษณ์เพียงคนดียวเท่านั้น
เมื่อไหร่ที่หยุดเล่นละคร เมื่อไหร่กลับตัวกลับใจได้ เมื่อไหร่สำนึกถึงความเสียสละ ประกาศลาออกไป ประเทศจะกลับสู่ความสงบทันที
อย่าหวังว่า ประชาชนที่ลุกฮือขึ้นมารวมตัว 5 ล้านคน จะยอมเก็บเสื้อผ้ากลับบ้าน และปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เสวยสุขกับการทำลายชาติต่อไป
วันนี้ “ยิ่งลักษณ์” ต้องออกสถานเดียว
และวันนี้ ใครก็ตามที่เรียกร้องให้ประชาชนยุติการชุมนุม ช่วยกันตราหน้าไว้ เพราะมันคือเหล่าขี้ข้าที่ออกมาเห่าหอนปกป้องระบอบทักษิณในเฮือกสุดท้ายทั้งสิ้น