xs
xsm
sm
md
lg

'ในหลวง'ให้คนไทย ตระหนักถึงหน้าที่ ทำเพื่อประโยชน์ของชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ในหลวง" เสด็จออกมหาสมาคม วังไกลกังวล โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี นายกฯและครม. ผบ.เหล่าทัพ พร้อมข้าราชการทุกหมู่เหล่า รวมถึงประชาชน เฝ้ารับเสด็จอย่างพร้อมเพรียง โดยมีการสวนสนามของกองทหารเกียรติยศ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม โดยประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จเพื่อชื่นชมพระบารมี ต่างโบกธงพร้อมเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึงก้อง ตามทางที่เสด็จผ่าน ในหลวงทรงโบกพระหัตถ์พร้อมแย้มพระสรวลให้กับประชาชน ทรงมีพระราชดำรัส บ้านเมืองของเราสงบสุขมาช้านาน เพราะเรามีความเป็นปึกแผ่น ในชาติ ให้คนไทยทุกคนตระหนักในข้อนี้ให้ดี ตั้งใจประพฤติตัว ปฏิบัติงานให้สมภาระและหน้าที่

ชาวไทย-ต่างชาติรับเสด็จฯ ด้วยความปลื้มปีติ

เมื่อเช้าวานนี้ (5 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติจากทั่วสารทิศ ได้เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ อย่างเนืองแน่น โดยพร้อมใจสวนเสื้อเหลืองถือธงชาติและธงพระปรมาภิไธย ภปร. บางคนถือพระบรมพระฉายาลักษณ์ และพรบรมสาธิสลักษณ์ เพื่อจับจองที่นั่งบริเวณ ถ.เพชรเกษม หน้าวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรอเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการออกมหาสมาคม บางรายมาจับจองที่นั่ง ตั้งแต่เช้าของวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งประชาชนที่มาส่วนใหญ่ ต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และหวังว่าจะมีโอกาสได้ชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิดที่สุด

และเมื่อเวลา 10.14 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์บรมราชภูษิตาภรณ์ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมารเสด็จฯและพระบรมวงศานุวงศ์ ออกจากประตูวังไกลกังวลไปตามถนนเพชรเกษม รถยนต์พระที่นั่งได้ชะลอความเร็วทำให้ประชาชนสามารถเห็นพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างใกล้ชิด ทรงโบกพระหัตถ์แย้มพระสรวล ทำให้ประชาชนต่างซาบซึ้ง บางคนน้ำตาไหลด้วยความปีติ และประชาชนที่เดินทางมารอเฝ้ารับเสด็จได้พร้อมใจกันนำพระบรมฉายาลักษณ์ ธงสัญลักษณ์ ภปร. และธงชาติไทย มาโบกกันอย่างพร้อมเพรียง และบางส่วนส่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง

เมื่อเสด็จฯถึงท้องพระโรงศาลาราชประชาสมาคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ภายใต้นพปฏลมหาเศวตฉัตร เจ้าพนักงานรัวกรับ ชาวม่านเปิดพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตร ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้นเดียวกันทหาบก ทหารเรือ ทหารอากาศยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด

ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฏราชกุมาร กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลความว่า

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

บัดนี้วันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาได้เวียนมาอีกวาระหนึ่งข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์มีความปีติปราโมทย์พ้นประมาณ ที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทแสดงความจงรักภักดี และถวายพระพรชัยมงคลนับแต่เถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงปฏิบัติพระองค์และปฏิบัติพระราชกิจน้อยใหญ่โดยบริสุทธิ์บริบูรณ์ทุกสถาน.กล่าวคือทรงปฏิบัติพระองค์ธำรงมั่นอยู่ในราชนิติธรรมของพระมหากษัตริย์อย่างเคร่งครัดและทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเป็นอเนกประการ เพื่อความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ. พระเกียรติคุณในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท

จึงเป็นที่ประจักษ์ทั่วไปทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวโลกว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์สุดประเสริฐเลิศด้วยพระบุญญาธิการและเพียบเพ็ญด้วยพระบารมี.ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงเป็นผู้มีโชควาสนาอย่างยิ่ง ที่เกิดมาในแผ่นดินไทยภายใต้พระบุญญาบารมี จึงได้รับพระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้มีความสุขความเจริญ และมีเกียรติยศเป็นที่เชิดชูตามฐานานุศักดิ์ ซึ่งข้าพระพุทธเจ้าต่างทราบตระหนักอยู่ทั่วหน้า ในมหาสมัยมงคลพิเศษนี้ จึงขอถวายสัตย์ปฏิญญาว่า จะตั้งใจประพฤติตนปฏิบัติงานโดยเต็มสติปัญญาความสามารถ ตามพระราชจริยาและพระบรมราโชบาย ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่างพระราชทานไว้ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ และสืบสานพระราชปณิธานในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท กับขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคลขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกกับทั้ง

พระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์จงพร้อมกันอภิบาลรักษาฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้ทรงพระเกษมสุขปราศจากมลทินทุกข์และพยาธิภัยมีพระราชหฤทัยผ่องแผ้วปลอดพ้นจากเครื่องรบกวนกังวลมีพระราชประสงค์จำนงใดที่จะอำนวยประโยชน์สุขให้แก่รัฐสีมาประชาชนขอจงสำเร็จสรรพศุภผลดังพระราชหฤทัยจำนงทุกประการ

นายกฯนำครม.-ขรก.-ปชช.ถวายพระพรชัยมงคล

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อมในศุภวาระเฉลิมพระชนมพรรษาที่เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า สุดสำนึกในพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดไม่ได้ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทชมพระบารมี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลในราชประชาสมาคมอุดมสันนิบาตนี้ เมื่อครั้งต้นรัชกาลซึ่งเป็นเวลากว่า 60 ปี ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงริเริ่มโครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่าขึ้นเป็นโครงการตามพระราชดำริแห่งแรก รวมไปถึงอีกหลายโครงการที่ล้วนสร้างความก้าวหน้าและความปลาบปลื้มใจแก่ปวงชนชาวไทย ด้วยอำนาจแห่งพระมหากรุณาที่ทรงปรารถนาจะบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานจนถึงปัจจุบัน พระมหากรุณาที่ยิ่งฉายชัด และกระจ่างแจ้งไปทั่วราชอาณาเขต

ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงผู้เป็นพสกนิกรได้ครองชีวิตที่เป็นสุข และร่มเย็น เพราะได้อาศัยพระปรีชาญาณ และน้ำพระราชหฤทัยในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทหลั่งรินรดเศียรเกล้าตลอดมาไม่เคยห่างหาย ด้วยอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย พระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตรย์เจ้าในอดีต และอำนาจแห่งคำสัตย์ความจริงที่กราบบังคมทูลพระกรุณามาตั้งแต่ต้นขอจงเป็นผลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญสุขเกษมสวัสดิ์สารพัดทุกข์โรคภัยอย่าได้กล้ำกลายพระบาทยุคล ทรงไกลกังวลและทรงเปี่ยมสุขอยู่ทุกทิพาราตรีกาลสมดังใจปรารถนาของปวงข้าพุทธเจ้าผู้เป็นข้าแผ่นดินอยู่ตราบฟ้าและดิน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"

ถัดมา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในมหามงคลสมัย วันเฉลิมพระชนมพรรษา แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้เวียนมาบัดจบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกรัฐสภา ในฐานะผู้แทนของปวงชนชาวไทย มีความปลื้มปีติยินดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดไม่ได้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ได้มาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ด้วยความจงรักภักดี ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ ทรงครองราชย์ด้วยทศพิธราชธรรม ทรงเลิศล้ำยิ่งด้วยพระราชอัจฉริยภาพ ทรงทุ่มเทอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงอาณาประชาราษฎร์ให้ร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา

ในวาระมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2556 นี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน สรรพโรคาภาพภัยพิบัติ และอุปัทวันตรายอย่าได้แผ้วพาน พระเกียรติคุณจำรูญจำรัสแผ่ไพศาลทั่วทิศานุทิศ สถิตเสถียรในมไหศูรย์ราชสมบัติ ทรงเฉลิมฉัตรเป็นพระมิ่งขวัญร่มโพธิ์ทองของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเหล่าพสกนิกรตราบจิรัฐิติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"

ทหารถวายคำสัตย์ปฏิญาณ'จักจงรักภักดี'

ตามด้วยพล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกรผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบพระบังคมทูลพระกรุณากล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายคำสัตย์ปฏิญาณตามข้าพเจ้า

ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ว่า ข้าพระพุทธเจ้าจักยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้าจักจงรักภักดีและถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่

ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจักปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"

"ในหลวง"ให้คนไทยตระหนักถึงหน้าที่ เพื่อประโยชน์ของชาติ

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสตอบความว่า ขอขอทัยและขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาด้วยประการต่างๆ

ข้าพเจ้าขอสนองพรและไมตรีจิตเหล่านั้นด้วยใจจริงเช่นกัน บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความเป็นปึกแผ่นในชาติและต่างบำเพ็ญกรณีกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกุลกันเพื่อประโยชน์ร่วมของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มากและตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงานให้สมฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมคือความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมือง ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงรักษาท่านทุกคนให้มีแต่ความสุขความเจริญตลอดไป

จากนั้นผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ก่อนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินกลับ

พิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา08.30น.พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่1รักษาพระองค์ ในฐานะผู้บังคับกองผสมทหารรักษาพระองค์ เป็นผู้นำทหารรักษาพระองค์จำนวน13กองพัน ประกอบด้วย กำลังพลรักษาพระองค์ 12กองพัน ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และทหารม้ารักษาพระองค์อีก1กองพันอัญเชิญธงชัยเฉลิมพลจากประตูใหญ่หน้าวังไกลวลทำพิธีสวนสนามมายังศาลาราชประชาสมาคม

ทั้งนี้ มีการยิงพลุธงสัญลักษณ์ประจำพระองค์2 ผืนขึ้นฟ้า เพื่อให้สัญญาณในการเริ่มพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งประชาชนที่พบเห็นสามารถเก็บไว้เพื่อเป็นสิริมงคลได้

นายกฯลงนามถวายพระพร ที่วังไกลกังวล

โดยในช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมนายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรส เดินทางไปลงนามถวายพระพร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2556 (เสด็จออกมหาสมาคม) ณ ท้องพระโรงศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้จัดสถานที่ไว้ให้ข้าราชการ คณะทูตานุทูต รวมทั้งประชาชนทั่วไปร่วมลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายต่าง ๆ รวมทั้งเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้นำเหล่าทัพ ตลอดจนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และประชาชนทั่วไป ไปร่วมลงนามถวายพระพร แสดงความจงรักภักดีกันอย่างเนืองแน่น

ขอพระองค์พลานามัยแข็งแรง

นายสุนทร งามเกิดสิริ ผู้พิการนั่งวิลแชร์ อายุ 44 ปี ชาวกรุงเทพฯ ซึ่งเดินทางมาพร้อมครอบครัว 10 คน โดยเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2556 กล่าวว่า ผมขอเป็นตัวแทนผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอร่วมถวายพระพรให้พระองค์มีพระชนมยุยืนนาน พลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญต่อพสกนิกรต่อไป และโดยส่วนตัวได้น้อมนำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องการให้มาใช้ในชีวิต

ร่วมตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล

สำหรับกิจกรรมในกรุงเทพฯนั้น เวลา 07.00 น. วานนี้ (5ธ.ค.) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวา นำคณะกรรมการจัดงานฯ คณะกรรมการมูลนิธิฯ ข้าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้แทนหน่วยงานราชการต่างๆ และประชาชนทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 287 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “ 5 ธันวามหาราช” ซึ่งมูลนิธิ 5 ธันวา ร่วมกับกรุงเทพมหานครจัดขึ้น ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.-6 ธ.ค. 56

นอกจากนี้ มีการจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 32 ซุ้ม พร้อมประดับไม้ดอกไม้ประดับบริเวณถนนสายสำคัญ โดยไฟเฉลิมพระเกียรติจะเปิดระหว่างเวลา 18.00-24.00 น. ไปจนถึงวันที่ 11 ธ.ค. 56 สำหรับวันที่ 4-5 ธ.ค. 56 จะเปิดตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น และเปิดอีกครั้งในวันที่ 31 ธ.ค. 56 และวันที่ 1 ม.ค. 57 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึงเช้าของวันรุ่งขึ้นเช่นกัน

กปปส.จัดงานเฉลิมพระเกียรติยิ่งใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของ กลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน นายอิสสระ สมชัย คณะกรรมการ กปปส. ได้นำมวลชนร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 99 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม
เวลา 08.00น. นายอิสสระ ได้นำมวลชนยืนตรงเคารพธงชาติ โดยประชาชนได้รองเพลงชาติไทย อย่างพร้อมเพรียง จากนั้นบนเวทีได้มีการดึงสัญญาณ ถ่ายทอดสด การสวนสนามเฉลิมพระเกียติของทหารรักษาพระองค์ ให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมได้รับชม ซึ่งได้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ส่วนบรรยากาศทั่วไป เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และนอกจากนี้ มีการทยอยขนอุปกรณ์ เพื่อจัดตั้งเป็นจอภาพยนตร์ เพื่อฉายเป็นหนังกลางแปลงกับประชาชนที่ราชดำเนินในคืนนี้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีผู้ตั้งสินค้าขายของที่เกี่ยวกับงานเฉลิมพระชนพรรษา เช่น เสื้อสีเหลือง สีชมพู ที่คาดผม ที่เขียนคำว่า ทรงพระเจริญ พระบรมฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์ชุดต่างๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ประชาชนจะยังคงปักหลักที่ถนนราชดำเนิน เพื่อร่วมกิจกรรมในช่วงเย็นและช่วงค่ำ เพื่อร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีการแจกเทียนชัยถวายพระพรแก่พสกนิกรที่ถนนราชดำเนินจำนวน 1 ล้านเล่ม และมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้านำเสื้อสีเหลืองและเทียนชัยถวายพระพร มาขายโดยรอบถนนราชดำเนินอีกด้วย.

เสด็จแทนพระองค์ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์

เมื่อเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดามราม

เวลา 17.00 น. รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จฯไปยังมุขหน้าพระอุโบสถบรรพชิตจีนและญวนถวายพระพรชัยมงคลเสร็จแล้วเสด็จฯเข้าพระอุโบสถทรงจุดธูปเทียน บูชาเทพดานพเคราะห์ เสด็จฯลงมุขหน้าพระอุโบสถข้าทูลละอองธุลีพระบาท ผู้สูงอายุฝ่ายหน้า-ฝ่ายใน ที่ได้รับพระราชทานราชสังคหวัตถุจำนวน 78 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้นเสด็จฯจากพระอุโบสถไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่แยกประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปเทียบที่หน้าพระทวารเทเวศรักษา เสด็จฯเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัน

ต่อมาเวลา 17.30 น.รถยนต์พระที่นั่งเทียบหน้าพระทวารเทเวศรรักษา เสด็จฯเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อาลักษณ์ สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเขลาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศพระกระแสพระบรมราชโองการสถาปนาสมศักดิ์รองสมเด็จพระราชาคณะ จบแล้วพระสงฆ์ 10 รูปเจริญชัยมงคลคาถา

ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัยประโคมสังข์แตร ดุริยางค์จากนั้นทรงประเคน หิรัญญบัตร พัดยศ ผ้าไตร เครื่องประกอบสมณศักดิ์ แด่รองสมเด็จพระราชาคณะที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาตามลำดับ

จากนั้นทรงประเคนสัญญาบัตรพัดยศแด่พระสงฆ์ซึ่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ใหม่อีกตามลำดับ พระสงฆที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก เจ้าพนักงานกองศาสนูปถัมภ์กรมการศาสนานิมนต์พระสงฆ์ 87 รูป ซึ่งจะเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาเข้านั่งอาสนะในพระทีนั่ง ทรงจุดเทียนพระมหามงคลเทียนเท่าพระองค์ และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปพระเคราะห์แล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ ทรงศีลแล้ว พระสงฆ์ 87 รูป เจริญพระพุทธมนต์กการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ระหว่างพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เสด็จฯขี้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จฯออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก เสด็จฯไปประทับรถยนต์พระทีนั้ง ที่พระทวารเทเวศรรักษา เสด็จฯกลับ

'ยิ่งลักษณ์'นำจุดเทียนชัยถวายพระพร

เมื่อเวลา 19.19 น.ของวันที่ 5 ธ.ค.2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และนำจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกับกล่าวราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยขอให้คนไทยพร้อมใจกันปรองดองสมานฉันท์จุดเทียนชัยถวายพระพร ในช่วงนี้ประชาชนที่ไปร่วมงานต่างร่วมจุดเทียนชัย ทำให้ท้องสนามหลวงและบริเวณใกล้เคียงสว่างไสว จากนั้นต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง

’หลวงปู่พุทธะอิสระ’นำสวดมนต์ถวายพระพร

วานนี้ (5 ธ.ค.) ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่ช่วงบ่ายประชาชนจำนวนมากต่างก็ได้ทยอยเดินทางเข้ามาจับจองพื้นที่ทั้งบริเวณลานหน้าเวทีปราศรัย และภายในอาคารบี ศูนย์ราชการ โดยมวลชนส่วนใหญ่ต่างสวมเสื้อสีเหลือง เพื่อที่จะมาร่วมถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช ซึ่งกิจกรรมบนเวทีในช่วงเย็นเริ่มในเวลา 17.00 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระ และเปิดกรวยดอกไม้ถวายสักการะ และได้นิมนต์หลวงปูพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์นำมวลชนร่วมสวดมนต์ถวายพระพรให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้มีพระชนมายุยั่งยืนนาน

แห่ถวายพระพรผ่านไปรษณียบัตร

นายธงชัย กิจบำรุงศิลป์ หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์ราชดำเนิน กรุงเทพฯ กล่าวว่า ทางไปรษณีย์ไทยได้จัดบูธแจกไปรษณียบัตรฟรี จำนวน 500 ใบเพื่อให้ประชาชนเขียนข้อความลงนามถวายพระพรที่บูธไปรษณีย์ไทย สนามหลวง ตรงข้ามศาลฎีกา สำหรับพสกนิกรที่ต้องการแสดงความจงรักภักดี และไม่ได้ไปร่วมเฝ้ารับเสด็จที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีประชาชนจากทั่วสารทิศ หลั่งไหลมาร่วมส่งไปรษณียบัตรถวายพระพรกันอย่างล้นหลาม

สื่อนอกตีข่าว ปชช.เฝ้ารับเสด็จฯ"ในหลวง"

สื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ ต่างพากันนำเสนอบรรยากาศแห่งความปลื้มปีติของคนไทยในวันนี้ หลังเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตการณ์ทางการเมือง ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้จะเป็นเพียงการยุติความขัดแย้งชั่วคราว แต่ก็แสดงให้เห็นถึงพลังของคนไทยที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง และเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง ขณะเฝ้าทูลละอองรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดริมสองฝั่งถนนใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อชื่นชมพระบารมีของพระองค์ ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ ท้องพระโรงศาลาประชาคมวังไกลกังวล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556

ขณะเดียวกันสื่อต่างๆ ได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ ที่ให้คนไทยปฏิบัติตามหน้าที่ของตน เพื่อประโยชน์สุขของประเทศ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น