00 ไหนๆเราก็พลาด"โอกาสทอง"จากวันที่ 24 พ.ย. วันที่มวลมหาประชาชนออกมา "ขับไล่ระบอบทักษิณ"ออกมาเป็นเรือนล้าน เป็นวันที่หัวใจทุกดวงออกมาด้วยหัวใจร้อนแรง มุ่งมั่น ถ้าวันนั้นเรารวมพลังกันรุกไล่กันสุดซอย รับรองว่าไปที่ไหนต้องราบเป็นหน้ากลอง แต่อาจเป็นเพราะ "คาดไม่ถึง" และหยุดกับที่ ไม่รุกต่อเนื่อง ทำให้ผ่านไป จนอารมณ์มวลชน "ลดลง" ขณะที่ฝ่ายระบอบทักษิณ ที่ "ด้าน"เหนือคำบรรยาย ไล่อย่างสุภาพคนพวกนี้ย่อมไม่รู้สึกรู้สา เพราะลงทุนเข้ามาทำธุรกิจการเมือง เข้ามาครอบงำได้เบ็ดเสร็จแล้ว ย่อมต้องแข็งขืนทำทุกทางเพื่อยื้อหรือขัดขวางอย่างเต็มที่ เพราะสิ่งที่นั่งทับอยู่นั้นคือ "ผลประโยชน์" เป็นกำไรล้วนๆ
00 สันดานอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีวันยอมแพ้ ตราบใดที่ยังมีสมุนขี้ข้ารับใช้ ยังมีทรัพย์สินเงินทองมาจ้าง เขาก็ย่อมทุ่มทุนเต็มที่ และไม่อั้น เพราะหากยังยืนหยัดต้านทานอยู่ได้ มันก็คุ้มค่า ต่อให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหารไม่ได้ ตัวยิ่งลักษณ์ จะออกไปไหนไม่ได้ แต่ถ้ายังสามารถสั่งข้าราชการได้ เบิกงบประมาณได้ มันก็ทู่ซี้หน้าด้านต่อไป เพราะบ้านเมืองฉิบหายอย่างไรไม่เกี่ยว ขอให้กู ครอบครัวของกูได้ประโยชน์เป็นพอ แม้ว่าจะสถานะในเวลานี้จะเสื่อมทรุดอย่างที่ไม่เคยมาก่อน แต่ถ้ายังยืนอยู่ได้ก็จะยืนอยู่ต่อไป
00 นาทีนี้ต้องยอมรับความจริงในสถานการณ์ว่า "ฝ่ายทักษิณ"กำลัง"ตั้งหลัก"ได้ แม้ว่าจะไม่เข้มแข็งเหมือนเดิม ตรงกันข้าม "อ่อนยวบ" ลงเรื่อยๆ มวลชนคนเสื้อแดงแม้จะยังมีจำนวนมาก แต่รับรองว่า "ไม่ฮึกเหิม"เหมือนก่อน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านกลับมีมากขึ้น และรวมพลังกันมากขึ้น เพียงแต่ว่าบางช่วงอาจต้องรอจังหวะหา "แรงส่ง"ครั้งใหม่ เพื่อ"เผด็จศึก"ในครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ดี หากมวลชนฝ่ายต่อต้านยังเชื่อมั่นและศรัทธาต่อ "กำนัน"สุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างเต็มเปี่ยมและเข้าใจถึง "เป้าหมายการปฏิรูป" ก็ต้องเดินหน้ากันต่อ ให้กำลังใจกันต่อไป อย่าวอกแวกกับ "เสียงนกเสียงกา"รอบข้าง เพราะเป็นเรื่องปกติที่การ"ทำงานใหญ่"ทุกครั้งต้องมีเรื่องให้รำคาญใจเสมอ
00 ยิ่งเป็นการต่อสู้กับระบอบทักษิณ ที่ใช้ "ประชาธิปไตยเลือกตั้ง"ตบตา และการฝังรากลึกทั้งในระบอบราชการใช้เงิน ตำแหน่งเข้าล่อมานานนับสิบปีจนฝังรากลึก มันก็ยากที่จะโยกคลอนได้ง่าย แต่บังเอิญโชคดีอยู่บ้างที่ ทักษิณ เป็นคนโลภ เห็นแก่ตัว ต้องการกินรวบไม่แบ่งใคร จึงส่ง "น้องสาว"ที่ด้อยสติปัญญามาเป็นนายกฯหุ่นเชิด เพราะเพียงแค่เวลาผ่านมาสองปีกว่า ก็ทำให้ชาวบ้านได้เห็นขี้ เห็นใส้หมดพุง จนเกิดกระแสต่อต้านกันครั้งใหญ่ ทำให้อ่อนยวบอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
00 แต่ปรากฏการณ์ที่เห็นอยู่ มวลมหาประชาชนยัง "ไม่ชนะ" แต่ก็ "ไม่แพ้"เช่นเดียวกัน เพราะเวลานี้ประชาชน "ตื่น"ขึ้นมาทั่วประเทศ และหากผู้นำต้านคือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ยังเดินหน้าไปสู่เป้าหมายปฏิรูป ตามความต้องการของมหาชนแล้ว ในที่สุดก็ต้องมีชัยชนะวันยังค่ำ และที่ผ่านมาก็ได้เดินมาไกลมากแล้ว อย่างไรก็ดีการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้นั้น ก่อนอื่นก็ต้องช่วยกัน"กำจัดระบอบทักษิณ" โดยเฉพาะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกไปก่อน และหากจะให้เกิดผลรวดเร็วขึ้นก็ต้องย้ำว่า "ตัวแปรเฉพาะหน้า" ก็ยังเป็นพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ กรณ์ จาติกวณิช จะต้องเสียสละ นำ ส.ส.ลาออกมาร่วมกับประชาชน เพื่อให้เกิด"แรงกระเพื่อมครั้งใหญ่" อีกครั้ง เพิ่มมวลมหาประชาชนให้มากกว่าวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อบีบให้กองทัพและข้าราชการออกมาเลือกข้างกับประชาชนอย่างเต็มตัวโดยไม่ลังเล แต่ถึงอย่างไรก็ให้จับตาช่วงวันที่ 5 ธ.ค.ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 6 ธ.ค.ให้ดี ที่คนออกมาเป็นล้านๆ คนอีกครั้ง !!
00 สันดานอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีวันยอมแพ้ ตราบใดที่ยังมีสมุนขี้ข้ารับใช้ ยังมีทรัพย์สินเงินทองมาจ้าง เขาก็ย่อมทุ่มทุนเต็มที่ และไม่อั้น เพราะหากยังยืนหยัดต้านทานอยู่ได้ มันก็คุ้มค่า ต่อให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหารไม่ได้ ตัวยิ่งลักษณ์ จะออกไปไหนไม่ได้ แต่ถ้ายังสามารถสั่งข้าราชการได้ เบิกงบประมาณได้ มันก็ทู่ซี้หน้าด้านต่อไป เพราะบ้านเมืองฉิบหายอย่างไรไม่เกี่ยว ขอให้กู ครอบครัวของกูได้ประโยชน์เป็นพอ แม้ว่าจะสถานะในเวลานี้จะเสื่อมทรุดอย่างที่ไม่เคยมาก่อน แต่ถ้ายังยืนอยู่ได้ก็จะยืนอยู่ต่อไป
00 นาทีนี้ต้องยอมรับความจริงในสถานการณ์ว่า "ฝ่ายทักษิณ"กำลัง"ตั้งหลัก"ได้ แม้ว่าจะไม่เข้มแข็งเหมือนเดิม ตรงกันข้าม "อ่อนยวบ" ลงเรื่อยๆ มวลชนคนเสื้อแดงแม้จะยังมีจำนวนมาก แต่รับรองว่า "ไม่ฮึกเหิม"เหมือนก่อน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านกลับมีมากขึ้น และรวมพลังกันมากขึ้น เพียงแต่ว่าบางช่วงอาจต้องรอจังหวะหา "แรงส่ง"ครั้งใหม่ เพื่อ"เผด็จศึก"ในครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ดี หากมวลชนฝ่ายต่อต้านยังเชื่อมั่นและศรัทธาต่อ "กำนัน"สุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างเต็มเปี่ยมและเข้าใจถึง "เป้าหมายการปฏิรูป" ก็ต้องเดินหน้ากันต่อ ให้กำลังใจกันต่อไป อย่าวอกแวกกับ "เสียงนกเสียงกา"รอบข้าง เพราะเป็นเรื่องปกติที่การ"ทำงานใหญ่"ทุกครั้งต้องมีเรื่องให้รำคาญใจเสมอ
00 ยิ่งเป็นการต่อสู้กับระบอบทักษิณ ที่ใช้ "ประชาธิปไตยเลือกตั้ง"ตบตา และการฝังรากลึกทั้งในระบอบราชการใช้เงิน ตำแหน่งเข้าล่อมานานนับสิบปีจนฝังรากลึก มันก็ยากที่จะโยกคลอนได้ง่าย แต่บังเอิญโชคดีอยู่บ้างที่ ทักษิณ เป็นคนโลภ เห็นแก่ตัว ต้องการกินรวบไม่แบ่งใคร จึงส่ง "น้องสาว"ที่ด้อยสติปัญญามาเป็นนายกฯหุ่นเชิด เพราะเพียงแค่เวลาผ่านมาสองปีกว่า ก็ทำให้ชาวบ้านได้เห็นขี้ เห็นใส้หมดพุง จนเกิดกระแสต่อต้านกันครั้งใหญ่ ทำให้อ่อนยวบอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
00 แต่ปรากฏการณ์ที่เห็นอยู่ มวลมหาประชาชนยัง "ไม่ชนะ" แต่ก็ "ไม่แพ้"เช่นเดียวกัน เพราะเวลานี้ประชาชน "ตื่น"ขึ้นมาทั่วประเทศ และหากผู้นำต้านคือ สุเทพ เทือกสุบรรณ ยังเดินหน้าไปสู่เป้าหมายปฏิรูป ตามความต้องการของมหาชนแล้ว ในที่สุดก็ต้องมีชัยชนะวันยังค่ำ และที่ผ่านมาก็ได้เดินมาไกลมากแล้ว อย่างไรก็ดีการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้นั้น ก่อนอื่นก็ต้องช่วยกัน"กำจัดระบอบทักษิณ" โดยเฉพาะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกไปก่อน และหากจะให้เกิดผลรวดเร็วขึ้นก็ต้องย้ำว่า "ตัวแปรเฉพาะหน้า" ก็ยังเป็นพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ กรณ์ จาติกวณิช จะต้องเสียสละ นำ ส.ส.ลาออกมาร่วมกับประชาชน เพื่อให้เกิด"แรงกระเพื่อมครั้งใหญ่" อีกครั้ง เพิ่มมวลมหาประชาชนให้มากกว่าวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อบีบให้กองทัพและข้าราชการออกมาเลือกข้างกับประชาชนอย่างเต็มตัวโดยไม่ลังเล แต่ถึงอย่างไรก็ให้จับตาช่วงวันที่ 5 ธ.ค.ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 6 ธ.ค.ให้ดี ที่คนออกมาเป็นล้านๆ คนอีกครั้ง !!
