น้ำท่วมตรังส่อเค้าวิกฤต หลังพนังกั้นน้ำพังน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มในเขตอำเภอเมืองตรังอย่างรวดเร็ว วัด โรงเรียน บ้านเรือนประชาชน ได้รับความเดือดร้อนหนัก ขณะที่โรงเรียน 7 แห่งปิดยาวไม่มีกำหนด อุตุฯเตือนใต้หลายจังหวัดเตรียมรับมือฝนถล่มหนัก
วานนี้ (28 พ.ย.) หลังจากที่พนังกั้นแม่น้ำตรังบริเวณ อ.เมืองตรัง ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.นาตาล่วง และหมู่ที่ 4 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง ได้เกิดพังทลายลงอันเนื่องมากจากมวลน้ำจำนวนมากจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้ไหลลงสู่แม่น้ำตรัง แต่จากการที่ช่วงนี้น้ำทะเลหนุนทำให้น้ำเอ่อขึ้นสูงและส่งผลให้พนังกั้นแม่น้ำตรังพังลงในที่สุด แม้กำลังชาวบ้านและทหารจะพยายามช่วยกันวางกระสอบทรายให้สูง และหนาขึ้นแล้วก็ตาม
ล่าสุดได้เกิดน้ำท่วมสูงขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ 50-1.50 เมตร ในพื้นที่ 6 ตำบลของ อ.เมืองตรัง ไม่ว่าจะเป็น ต.หนองตรุด ต.นาตาล่วง ต.บางรัก ต.ควนปริง ต.นาท่ามใต้ และ ต.นาท่ามเหนือ ทำให้ถนนสายหลัก และถนนในหมู่บ้านหลายสายไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะเดียวกันทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จำนวน 60 นายและอาสาสมัครยังได้ช่วยกันบรรจุสิ่งของอุปโภคบริโภคลงในถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
ด้านนายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า แม้ฝนจะหยุดตกมาหลายวันแล้ว แต่จากการที่พนังกั้นแม่น้ำตรังได้เกิดพังทลายลงมาทำให้ 6 ตำบลของ อ.เมืองตรัง ยังคงมีน้ำท่วมสูง และชาวบ้านบางพื้นที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยเฉพาะบริเวณที่ราบลุ่มติดกับแม่น้ำตรัง ซึ่งยังวิกฤตอยู่รวมทั้งที่วัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) วัดไพรสณฑ์ วัดนานอน และโรงเรียนอีก 7 แห่งยังคงปิดต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาอีกในช่วงนี้ สภาวะน้ำท่วมจะเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และจะแผ่เสริมลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 ธ.ค.56 ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ในขณะที่บางพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม จะมีอากาศหนาวและอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค.56 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายและผลกระทบจากฝนตกหนัก ส่วนในช่วงวันที่ 28 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 3-5 เมตร เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว
วานนี้ (28 พ.ย.) หลังจากที่พนังกั้นแม่น้ำตรังบริเวณ อ.เมืองตรัง ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.นาตาล่วง และหมู่ที่ 4 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง ได้เกิดพังทลายลงอันเนื่องมากจากมวลน้ำจำนวนมากจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้ไหลลงสู่แม่น้ำตรัง แต่จากการที่ช่วงนี้น้ำทะเลหนุนทำให้น้ำเอ่อขึ้นสูงและส่งผลให้พนังกั้นแม่น้ำตรังพังลงในที่สุด แม้กำลังชาวบ้านและทหารจะพยายามช่วยกันวางกระสอบทรายให้สูง และหนาขึ้นแล้วก็ตาม
ล่าสุดได้เกิดน้ำท่วมสูงขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ 50-1.50 เมตร ในพื้นที่ 6 ตำบลของ อ.เมืองตรัง ไม่ว่าจะเป็น ต.หนองตรุด ต.นาตาล่วง ต.บางรัก ต.ควนปริง ต.นาท่ามใต้ และ ต.นาท่ามเหนือ ทำให้ถนนสายหลัก และถนนในหมู่บ้านหลายสายไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะเดียวกันทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ จำนวน 60 นายและอาสาสมัครยังได้ช่วยกันบรรจุสิ่งของอุปโภคบริโภคลงในถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
ด้านนายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า แม้ฝนจะหยุดตกมาหลายวันแล้ว แต่จากการที่พนังกั้นแม่น้ำตรังได้เกิดพังทลายลงมาทำให้ 6 ตำบลของ อ.เมืองตรัง ยังคงมีน้ำท่วมสูง และชาวบ้านบางพื้นที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยเฉพาะบริเวณที่ราบลุ่มติดกับแม่น้ำตรัง ซึ่งยังวิกฤตอยู่รวมทั้งที่วัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) วัดไพรสณฑ์ วัดนานอน และโรงเรียนอีก 7 แห่งยังคงปิดต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาอีกในช่วงนี้ สภาวะน้ำท่วมจะเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และจะแผ่เสริมลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 ธ.ค.56 ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ในขณะที่บางพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม จะมีอากาศหนาวและอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค.56 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายและผลกระทบจากฝนตกหนัก ส่วนในช่วงวันที่ 28 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 3-5 เมตร เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว