นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงวิธีหาทางออกให้กับประเทศในขณะนี้ ว่า วันนี้ระบอบทักษิณ เปรียบเสมือนผี มีทั้งคนกลัว
และคนเกลียด ซึ่งฝังรากลึกในสังคมและการเมืองไทย เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว อีกทั้งตนยังมองว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะช่วยอะไรได้ รวมทั้งการ
ประกาศล้มระบอบทักษิณของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาชนต่อต้านระบอบทักษิณ ว่า จะล้มระบอบทักษิณภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ โดยการ
ปฏิรูปดังนี้ 1.ทำการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ 2.ปราบคอร์รัปชั่นให้ได้ 3.ให้เคารพอำนาจประชาชนอย่างแท้จริง 4.ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ 5. ออกระบบกฎหมายให้
ข้าราชการอยู่ในระบบคุณภาพ และ 6.เปลี่ยนแปลงพื้นฐานการศึกษา ระบบขนส่ง และสาธารณสุข ให้เป็นวาระแห่งชาติ ก็ไม่สามารถล้มระบอบทักษิณได้ เพราะ
ตอนสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และนายสุเทพ เป็นถึงรองนายกฯ ดูแลตำรวจ ยังไม่สามารถทำเรื่องดังกล่าวได้
" ขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากส.ส. ทั้งพรรค เหมือนในสมัยปี 2548 ที่ประชาธิปัตย์ไม่ร่วมทำสังฆกรรม โดยการไม่ลงเลือกตั้ง เพื่อ
แสดงความจริงใจ ร่วมการต่อสู้กับนายสุเทพ และ ส.ส.ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ 8 คน พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ที่อยู่ตรงกลาง อย่าจับปลาสองมือ หรือ
เล่นการเมืองสองหน้า ซึ่งผมและสมาชิกในพรรค พร้อมที่จะลาไปร่วมต่อสู้นอกสภาด้วย”
นายชูวิทย์ ยังวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับแนวทางปฏิรูปประเทศไทย 6 ข้อ ของนายสุเทพ โดยมองว่า ดำเนินการตามที่ประกาศไว้ได้ยาก โดยเฉพาะในระยะ
เวลาอันสั้น เพราะระบอบทักษิณฝังรากลึกอยู่ระบบมากว่า 10 ปี
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่ง เอสเอ็ม
เอส.ไปยังลูกพรรคทุกคน โดยกำชับว่า อย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ทุกครั้งที่มีการชุมนุมทางการเมือง หัวหน้าก็จะกำชับสมาชิกให้ระมัดระวัง
การกระทำอะไรที่เป็นการผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการปฏิเสธความเกี่ยวข้องระหว่างพรรคกับการชุมนุม เพราะในแง่ของตัวบุคคล เราคงปฏิเสธไม่ได้
แม้ส.ส.9 คนของพรรคจะลาออกไปแล้วก็ตาม แต่ประเด็นที่มีการขับเคลื่อนก็เป็นประเด็นที่พรรคเห็นด้วยอยู่แล้ว
และคนเกลียด ซึ่งฝังรากลึกในสังคมและการเมืองไทย เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว อีกทั้งตนยังมองว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะช่วยอะไรได้ รวมทั้งการ
ประกาศล้มระบอบทักษิณของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาชนต่อต้านระบอบทักษิณ ว่า จะล้มระบอบทักษิณภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ โดยการ
ปฏิรูปดังนี้ 1.ทำการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ 2.ปราบคอร์รัปชั่นให้ได้ 3.ให้เคารพอำนาจประชาชนอย่างแท้จริง 4.ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ 5. ออกระบบกฎหมายให้
ข้าราชการอยู่ในระบบคุณภาพ และ 6.เปลี่ยนแปลงพื้นฐานการศึกษา ระบบขนส่ง และสาธารณสุข ให้เป็นวาระแห่งชาติ ก็ไม่สามารถล้มระบอบทักษิณได้ เพราะ
ตอนสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และนายสุเทพ เป็นถึงรองนายกฯ ดูแลตำรวจ ยังไม่สามารถทำเรื่องดังกล่าวได้
" ขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากส.ส. ทั้งพรรค เหมือนในสมัยปี 2548 ที่ประชาธิปัตย์ไม่ร่วมทำสังฆกรรม โดยการไม่ลงเลือกตั้ง เพื่อ
แสดงความจริงใจ ร่วมการต่อสู้กับนายสุเทพ และ ส.ส.ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ 8 คน พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ที่อยู่ตรงกลาง อย่าจับปลาสองมือ หรือ
เล่นการเมืองสองหน้า ซึ่งผมและสมาชิกในพรรค พร้อมที่จะลาไปร่วมต่อสู้นอกสภาด้วย”
นายชูวิทย์ ยังวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับแนวทางปฏิรูปประเทศไทย 6 ข้อ ของนายสุเทพ โดยมองว่า ดำเนินการตามที่ประกาศไว้ได้ยาก โดยเฉพาะในระยะ
เวลาอันสั้น เพราะระบอบทักษิณฝังรากลึกอยู่ระบบมากว่า 10 ปี
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่ง เอสเอ็ม
เอส.ไปยังลูกพรรคทุกคน โดยกำชับว่า อย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ทุกครั้งที่มีการชุมนุมทางการเมือง หัวหน้าก็จะกำชับสมาชิกให้ระมัดระวัง
การกระทำอะไรที่เป็นการผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการปฏิเสธความเกี่ยวข้องระหว่างพรรคกับการชุมนุม เพราะในแง่ของตัวบุคคล เราคงปฏิเสธไม่ได้
แม้ส.ส.9 คนของพรรคจะลาออกไปแล้วก็ตาม แต่ประเด็นที่มีการขับเคลื่อนก็เป็นประเด็นที่พรรคเห็นด้วยอยู่แล้ว