วานนี้ (25 พ.ย.) ยังคงมีการประชุมวุฒิสภา ตามปกติ โดยมีนายอนันต์ อริยะชัยพานิชย์ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. (ตามมาตรา 231 ของรัฐธรรมนูญฯ) ซึ่งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กกต.ได้เสนอรายงานผลการตรวจสอบมาประกอบการพิจารณาแล้ว ซึ่งที่ประชุมได้ประชุมลับเพื่อพิจารณา
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ใช้วิธีลงคะแนนลับ ซึ่งผลการลงคะแนนปรากฎว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ข้าราชการบำนาญ สังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ได้คะแนน 86 ต่อ 18 เสียง นายบุญส่ง น้อยโสภณ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ภาค 7ได้คะแนน 74 ต่อ 34 เสียง นายประวิช รัตนเพียร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้คะแนน 83 ต่อ 24 เสียง นายศุภชัย สมเจริญ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ได้แคะแนน 105 ต่อ 3 เสียง และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ได้คะแนน 102 ต่อ 5 เสียง ซึ่งถือว่าทั้ง 5 คน ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่ง กกต. โดยประธานวุฒิสภา จะนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งต่อไป จากนั้นก่อนปิดประชุมในเวลา 13.00 น. ที่ประชุมได้อ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุมรัฐสภา สมัยสามัญทั่วไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ใช้วิธีลงคะแนนลับ ซึ่งผลการลงคะแนนปรากฎว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ข้าราชการบำนาญ สังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ได้คะแนน 86 ต่อ 18 เสียง นายบุญส่ง น้อยโสภณ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ภาค 7ได้คะแนน 74 ต่อ 34 เสียง นายประวิช รัตนเพียร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้คะแนน 83 ต่อ 24 เสียง นายศุภชัย สมเจริญ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ได้แคะแนน 105 ต่อ 3 เสียง และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ได้คะแนน 102 ต่อ 5 เสียง ซึ่งถือว่าทั้ง 5 คน ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่ง กกต. โดยประธานวุฒิสภา จะนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งต่อไป จากนั้นก่อนปิดประชุมในเวลา 13.00 น. ที่ประชุมได้อ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุมรัฐสภา สมัยสามัญทั่วไป