00 นาทีนี้ไม่ต้องมาอารัมภบทกันให้เยิ่นเย้อ เพราะเชื่อว่าแทบทุกคนที่ออกมาต่อต้าน ร่าง กม.อุบาทว์ ที่จงใจล้างผิดให้กับ "เหลี่ยมจัด" ทักษิณ นั้นคิดอย่างไร เพราะทุกคนเหลืออดเหลือทนแล้วจริงๆ แต่สิ่งที่ต้องคิดกันต่อคือเราจะ"หยุดกลางทาง" แล้วถอยหลังกลับแทนที่จะร่วมกันเดินต่อไปให้ "สุดซอย" ร่วมกันขับไล่ "พวกโจร" ออกไปให้หมดสิ้นเสียที ไม่เช่นนั้นเราก็ต้องมานั่งประสาทเสีย คอยระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถ้าเราเผลอ หรือ อ่อนแรงมันก็ยกพวกเข้ามาปล้น ข่มขืนใจ กันอีก คิดกันดีๆ ว่าจะเอาแบบไหน
00 ยังมีหลายคนอาจลังเลว่า จะไล่ ยิ่งลักษณ์ และบรรดา "ขี้ข้า"ทั้งหลายไปพร้อมกันทีเดียวดีหรือเปล่า เพราะโจรก็ถอยกลับไปแล้ว จะเอาอะไรกันอีก แต่คำถามก็คือ "โจรกลุ่มนี้มันถอยจริงหรือเปล่า" สาเหตุที่ถอยเพราะชาวบ้านเขาตื่นขึ้นมาเห็น แล้วร่วมกันขับไล่ต่างหาก ไม่ใช่เป็นเพราะ "โจรเมตตา" และในความเป็นจริงเวลานี้มันก็เพียงแค่ถอยออกไปซุ่มรอจังหวะอยู่นอกรั้วเท่านั้น รอจังหวะบุกเข้ามาปล้นใหม่เท่านั้นเอง เพราะพวกมันจ้องเอาทรัพย์สินมีค่าที่ยังเหลืออยู่มากมาย และดีไม่ดี เมื่อมันตั้งหลักได้ต่อไปมันอาจใช้กำลังรุมฆ่าเจ้าทรัพย์อย่างโหดเหี้ยมมากกว่าที่เคยทำมาก่อนก็ได้ เพราะอย่าลืมว่า "ยังอยู่กันครบ" เพียงแต่หลบหน้าชั่วคราวเท่านั้น
00 คำพิพากษาศาลโลกเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้คนไทยต้องมาขบคิดกันอีกรอบว่า จะเอาอย่างไร เพราะประเด็นถ้าเรา "ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก"มาตั้งแต่แรก มันก็จะไม่ต้องมานั่งลุ้นกันจนเกร็งแบบนี้ และงานนี้สำหรับไทยเรามีแต่ "เจ๊ากับเจ๊ง" เหมือนอย่างที่ "ปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เคยบอกให้ทำใจก่อนหน้านี้นั่นแหละ และกรณีนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเหตุผลว่า ทำไมต้องไล่ไปให้พ้น ก็เพราะนี่คือคำตอบว่าทำไมพวก "ขี้ข้าทักษิณ" ถึงได้รวบรัดให้แก้ไข รธน.มาตรา 190 เพื่อให้การลงนามในสัญญาข้อตกลงระหว่างประเทศไม่ต้องให้สภาให้ชาวบ้านได้รับรู้ ต่อไปเรื่องข้อตกลงในสัมปทานพลังงานในอ่าวไทยก็ตกลงมุบมิบกันง่ายขึ้น นี่ไงถึงต้องรีบบอกว่า ไม่ว่าศาลโลกตัดสินอย่างไรก็ยอมรับ และในที่สุดก็เป็นไปตามคาดหมายนั่นคือไทย "มีแต่เจ๊ากับเจ๊ง" ตามที่ "ปึ้ง" มันส่งสัญญาณยอมแพ้ตั้งแต่แรกจริงๆ เพราะศาลโลกชี้ว่า พื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แล้วให้ไทยถอนกำลังออกมาให้พ้น แถมยังให้ช่วยดูแลปราสาทที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวด้วย ทุด !!
00 อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากสถานการณ์นับจากนี้ไปไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร จะไล่โจรออกไปได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นพลังสำคัญที่จะหยุดยั้งไม่ให้เหิมเกริมทำอะไรได้สะดวก ที่สำคัญชาวบ้านเขา "ตาสว่าง" และนับจากนี้ไปรัฐบาลและ"ระบอบทักษิณ" ก็ได้เวลานับถอยหลังแล้ว เพราะเมื่อชาวบ้านเริ่มรู้ว่าเป็น "ของปลอม" พิสูจน์ได้จากผลงานและสติปัญญาของ นายกฯ ที่ถูกเยาะเย้ยว่าเป็น "อีโง่" ก็ลองตรองดูว่าจริงหรือเปล่า ถ้าจริงก็จะรออะไรอยู่ล่ะ... ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด !!
00 ยังมีหลายคนอาจลังเลว่า จะไล่ ยิ่งลักษณ์ และบรรดา "ขี้ข้า"ทั้งหลายไปพร้อมกันทีเดียวดีหรือเปล่า เพราะโจรก็ถอยกลับไปแล้ว จะเอาอะไรกันอีก แต่คำถามก็คือ "โจรกลุ่มนี้มันถอยจริงหรือเปล่า" สาเหตุที่ถอยเพราะชาวบ้านเขาตื่นขึ้นมาเห็น แล้วร่วมกันขับไล่ต่างหาก ไม่ใช่เป็นเพราะ "โจรเมตตา" และในความเป็นจริงเวลานี้มันก็เพียงแค่ถอยออกไปซุ่มรอจังหวะอยู่นอกรั้วเท่านั้น รอจังหวะบุกเข้ามาปล้นใหม่เท่านั้นเอง เพราะพวกมันจ้องเอาทรัพย์สินมีค่าที่ยังเหลืออยู่มากมาย และดีไม่ดี เมื่อมันตั้งหลักได้ต่อไปมันอาจใช้กำลังรุมฆ่าเจ้าทรัพย์อย่างโหดเหี้ยมมากกว่าที่เคยทำมาก่อนก็ได้ เพราะอย่าลืมว่า "ยังอยู่กันครบ" เพียงแต่หลบหน้าชั่วคราวเท่านั้น
00 คำพิพากษาศาลโลกเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้คนไทยต้องมาขบคิดกันอีกรอบว่า จะเอาอย่างไร เพราะประเด็นถ้าเรา "ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก"มาตั้งแต่แรก มันก็จะไม่ต้องมานั่งลุ้นกันจนเกร็งแบบนี้ และงานนี้สำหรับไทยเรามีแต่ "เจ๊ากับเจ๊ง" เหมือนอย่างที่ "ปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เคยบอกให้ทำใจก่อนหน้านี้นั่นแหละ และกรณีนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเหตุผลว่า ทำไมต้องไล่ไปให้พ้น ก็เพราะนี่คือคำตอบว่าทำไมพวก "ขี้ข้าทักษิณ" ถึงได้รวบรัดให้แก้ไข รธน.มาตรา 190 เพื่อให้การลงนามในสัญญาข้อตกลงระหว่างประเทศไม่ต้องให้สภาให้ชาวบ้านได้รับรู้ ต่อไปเรื่องข้อตกลงในสัมปทานพลังงานในอ่าวไทยก็ตกลงมุบมิบกันง่ายขึ้น นี่ไงถึงต้องรีบบอกว่า ไม่ว่าศาลโลกตัดสินอย่างไรก็ยอมรับ และในที่สุดก็เป็นไปตามคาดหมายนั่นคือไทย "มีแต่เจ๊ากับเจ๊ง" ตามที่ "ปึ้ง" มันส่งสัญญาณยอมแพ้ตั้งแต่แรกจริงๆ เพราะศาลโลกชี้ว่า พื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แล้วให้ไทยถอนกำลังออกมาให้พ้น แถมยังให้ช่วยดูแลปราสาทที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวด้วย ทุด !!
00 อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากสถานการณ์นับจากนี้ไปไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร จะไล่โจรออกไปได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นพลังสำคัญที่จะหยุดยั้งไม่ให้เหิมเกริมทำอะไรได้สะดวก ที่สำคัญชาวบ้านเขา "ตาสว่าง" และนับจากนี้ไปรัฐบาลและ"ระบอบทักษิณ" ก็ได้เวลานับถอยหลังแล้ว เพราะเมื่อชาวบ้านเริ่มรู้ว่าเป็น "ของปลอม" พิสูจน์ได้จากผลงานและสติปัญญาของ นายกฯ ที่ถูกเยาะเย้ยว่าเป็น "อีโง่" ก็ลองตรองดูว่าจริงหรือเปล่า ถ้าจริงก็จะรออะไรอยู่ล่ะ... ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด !!