ASTVผู้จัดการรายวัน-พระป่าคณะศิษยานุศิษย์สายหลวงหามหาบัวและหลวงปู่มั่น จำนวน 250 รูปเข้าสักการะพระศพ "สมเด็จพระสังฆราช" ขณะที่ประธานสงฆ์ญี่ปุ่นจะมาสักการะพระศพ 12 พ.ย.นี้ วัดบวรฯ เตรียมจัดพิมพ์ภาพสมเด็จพระสังฆราช 1 แสนแผ่นแจกประชาชน ส่วนหนังสือภาพพระประวัติเริ่มแจกแล้ว เผย WHO แสดงความยกย่องพระองค์ในฐานะผู้ทำให้โรคเรื้อนหมดไปจากไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6พ.ย.) ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ได้มีประชาชน สถาบันการศึกษา องค์กร หน่วยงานต่างๆ เป็นจำนวนมากเดินทางมาถวายสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช
จากนั้น เมื่อเวลา 11.00 น. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เป็นเจ้าภาพในพิธีสวดพระอภิธรรมพระศพ
ต่อมาเวลา 13.45 น. สมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุตและรักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรฯ ได้นำพระป่าคณะศิษยานุศิษย์สายหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต จำนวน 250 รูป นำโดยพระธรรมฐิติญาณ เจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย จ.ร้อยเอ็ด เจ้าคณะภาค 10 เข้าสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช พร้อมกันนี้ ได้มีพิธีสวดขอขมากรรม ซึ่งเป็นประเพณีของพระสงฆ์คณะธรรมยุต เมื่อมีการประพฤติประมาทล่วงเกินใดๆ จะมีการขอขมากัน เนื่องด้วยพระจริยวัตรเมื่อครั้งที่สมเด็จสังฆราชทรงงานได้ ท่านจะทรงงานไปตามวัดป่ากรรมฐานบ่อยครั้ง
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า วัดบวรฯ ได้รับการประสานงานจากสภาผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลก และคณะสงฆ์นิกายเนนบุทสุชุ ประเทศญี่ปุ่น ว่าในวันที่ 12 พ.ย. ภิกษุดร.เกียวเซ เอนชินโจฮ์ ประธานสงฆ์ นิกายเนนบุทสุชุ ในฐานะประธานผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลก พร้อมคณะ จะเดินทางมาถวายสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากทางสภาผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลก สำนึกในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งการประชุมผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลกขึ้นในปี 2543 ณ เมืองเกียวโต และมีการประชุมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญยังส่งผลให้ มีการจัดสร้างวัดที่ใหญ่ที่สุดเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ในบริเวณหุบเขาเมืองเกียวโต ขณะนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในปีที่ผ่านมา สภาผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลก ยังได้มีการถวายสมัญญานามยกย่องสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะ “ผู้นำสูงสุดแห่งโลกพระพุทธศาสนา” อีกด้วย
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ส่งสาส์นแสดงความอาลัยต่อการสิ้นพระชนม์สมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราช เคยดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสงเคราะห์ผู้เป็นโรคเรื้อนแห่งประเทศไทย โดยพระองค์ได้สงเคราะห์ผู้เป็นโรคเรื้อนและหาวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดโรคเรื้อนเพิ่มขึ้น ทำให้โรคเรื้อนหมดไปจากไทยในยุคพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิ ดังนั้น องค์การอนามัยโลก จึงได้ยกย่องพระองค์ และส่งสาส์นแสดงความอาสัยมาในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่พระธีรโพธิภิกขุ พระผู้ถวายงานวาดภาพสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า ตนได้วาดภาพสีน้ำมัน สมเด็จพระสังฆราช และเครื่องประกอบพระอิสริยยศ ประดับพระโกศ ที่ประดิษฐานยังตำหนักเพ็ชร เพื่อนำไปเป็นต้นแบบจัดพิมพ์เป็นภาพขนาดเอ 4 จำนวน 100,000 แผ่น เพื่อแจกให้แก่ประชาชนที่มาถวายสักการะ ซึ่งภาพดังกล่าวมีแนวคิดมาจากพระประวัติของสมเด็จพระสังฆราช เมื่อครั้งอดีตที่ยังเป็นสามัญชนธรรม สีด้านหลังของพระรูปสมเด็จพระสังฆราช จะมีสีเข้มเกือบจะเป็นสีดำ ส่วนด้านหน้าพระรูป จะเป็นครีมนวลใส ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงดำรงอยู่ในสมณเพศ และดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ส่วนด้านล่างของภาพจะเป็นเครื่องประกอบพระอิสริยยศ ซึ่งพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ ก็ยังคงอยู่ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับภาพไปได้เห็นหลักธรรมว่า ชีวิตนี้เอาอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากความดีงาม
ส่วนหนังสือญาณสังวรานุสรณ์ ซึ่งเป็นหนังสือภาพพระประวัติ ได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในเล่มจะมีทั้งภาพถ่ายและภาพวาดตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ถึงช่วงพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จนกระทั่งช่วงเวลาสิ้นพระชนม์ ประชาชนจะได้เห็นถึง ความน่ารัก ความอบอุ่น ความเมตตา ที่มีอยู่ในพระองค์ โดยหนังสือเล่มนี้ ได้นำมาแจกให้แก่ประชาชนที่มาถวายสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราชแล้ว โดยเริ่มแจกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (6พ.ย.) ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ได้มีประชาชน สถาบันการศึกษา องค์กร หน่วยงานต่างๆ เป็นจำนวนมากเดินทางมาถวายสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช
จากนั้น เมื่อเวลา 11.00 น. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เป็นเจ้าภาพในพิธีสวดพระอภิธรรมพระศพ
ต่อมาเวลา 13.45 น. สมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุตและรักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรฯ ได้นำพระป่าคณะศิษยานุศิษย์สายหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต จำนวน 250 รูป นำโดยพระธรรมฐิติญาณ เจ้าอาวาสวัดบึงพระลานชัย จ.ร้อยเอ็ด เจ้าคณะภาค 10 เข้าสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช พร้อมกันนี้ ได้มีพิธีสวดขอขมากรรม ซึ่งเป็นประเพณีของพระสงฆ์คณะธรรมยุต เมื่อมีการประพฤติประมาทล่วงเกินใดๆ จะมีการขอขมากัน เนื่องด้วยพระจริยวัตรเมื่อครั้งที่สมเด็จสังฆราชทรงงานได้ ท่านจะทรงงานไปตามวัดป่ากรรมฐานบ่อยครั้ง
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า วัดบวรฯ ได้รับการประสานงานจากสภาผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลก และคณะสงฆ์นิกายเนนบุทสุชุ ประเทศญี่ปุ่น ว่าในวันที่ 12 พ.ย. ภิกษุดร.เกียวเซ เอนชินโจฮ์ ประธานสงฆ์ นิกายเนนบุทสุชุ ในฐานะประธานผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลก พร้อมคณะ จะเดินทางมาถวายสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากทางสภาผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลก สำนึกในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งการประชุมผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลกขึ้นในปี 2543 ณ เมืองเกียวโต และมีการประชุมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญยังส่งผลให้ มีการจัดสร้างวัดที่ใหญ่ที่สุดเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ในบริเวณหุบเขาเมืองเกียวโต ขณะนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในปีที่ผ่านมา สภาผู้นำสูงสุดชาวพุทธโลก ยังได้มีการถวายสมัญญานามยกย่องสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะ “ผู้นำสูงสุดแห่งโลกพระพุทธศาสนา” อีกด้วย
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ส่งสาส์นแสดงความอาลัยต่อการสิ้นพระชนม์สมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราช เคยดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสงเคราะห์ผู้เป็นโรคเรื้อนแห่งประเทศไทย โดยพระองค์ได้สงเคราะห์ผู้เป็นโรคเรื้อนและหาวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดโรคเรื้อนเพิ่มขึ้น ทำให้โรคเรื้อนหมดไปจากไทยในยุคพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิ ดังนั้น องค์การอนามัยโลก จึงได้ยกย่องพระองค์ และส่งสาส์นแสดงความอาสัยมาในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่พระธีรโพธิภิกขุ พระผู้ถวายงานวาดภาพสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า ตนได้วาดภาพสีน้ำมัน สมเด็จพระสังฆราช และเครื่องประกอบพระอิสริยยศ ประดับพระโกศ ที่ประดิษฐานยังตำหนักเพ็ชร เพื่อนำไปเป็นต้นแบบจัดพิมพ์เป็นภาพขนาดเอ 4 จำนวน 100,000 แผ่น เพื่อแจกให้แก่ประชาชนที่มาถวายสักการะ ซึ่งภาพดังกล่าวมีแนวคิดมาจากพระประวัติของสมเด็จพระสังฆราช เมื่อครั้งอดีตที่ยังเป็นสามัญชนธรรม สีด้านหลังของพระรูปสมเด็จพระสังฆราช จะมีสีเข้มเกือบจะเป็นสีดำ ส่วนด้านหน้าพระรูป จะเป็นครีมนวลใส ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงดำรงอยู่ในสมณเพศ และดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ส่วนด้านล่างของภาพจะเป็นเครื่องประกอบพระอิสริยยศ ซึ่งพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ ก็ยังคงอยู่ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับภาพไปได้เห็นหลักธรรมว่า ชีวิตนี้เอาอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากความดีงาม
ส่วนหนังสือญาณสังวรานุสรณ์ ซึ่งเป็นหนังสือภาพพระประวัติ ได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในเล่มจะมีทั้งภาพถ่ายและภาพวาดตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ถึงช่วงพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จนกระทั่งช่วงเวลาสิ้นพระชนม์ ประชาชนจะได้เห็นถึง ความน่ารัก ความอบอุ่น ความเมตตา ที่มีอยู่ในพระองค์ โดยหนังสือเล่มนี้ ได้นำมาแจกให้แก่ประชาชนที่มาถวายสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราชแล้ว โดยเริ่มแจกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
