หุ้นไทยพุ่งต่อได้อีก 19.53 จุด ตลาดฯ เชื่อวุฒิสภาไม่รับ พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย ทำให้คนคลายความกังวล คาดวันนี้ปัจจัยลบทางการเมืองยังคอยกดดันต่อ ด้านผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ไทย คาดผลพวงจากการชุมนุมไม่กระทบวอลุ่มเทรดมากนัก เพราะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ไม่รุนแรงเมื่อหากเทียบมาตรการ QE ชี้ที่ผ่านมาแค่10วันเฉลี่ยหุ้นตก 60-70 จุด ต่างชาติขายเฉลี่ยเพียง 3 พันล้าน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (6 พ.ย.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,434.97 จุด เพิ่มขึ้น 19.53 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.38% มูลค่าการซื้อขาย 43,539.29 ล้านบาท ด้านสัดส่วนผู้ลงทุน ต่างชาติขายสุทธิ 1.8 พันล้านบาท รายย่อยขายสุทธิ 1.8 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 2.3 พันล้านบาท บัญชีโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 1.4 ล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.กล่าวว่า จากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยภาวะซื้อขายในตลาดหุ้นช่วงระยะเวลา 10 วันที่ผ่านมาดัชนี SET INDEX ปรับตัวลดลงมากว่า 60-70 จุด ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศขายออกเฉลี่ยเพียง 3 พันล้านบาท หากเทียบกันกับความเสียหายของมาตรการ QE แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน้อยกว่ามาก
"ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองจากการประท้วง พรบ.นิรโทษกรรม หากไม่ยืดเยื้อยาวนาน คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก แต่ถ้าหากกินระยะเวลานานและยังหาข้อยุติระหว่างผู้ชุมนุมและรัฐบาลไม่ได้ อาจจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของประเทศทั้งระบบ ไม่ใช่แค่เพียงตลาดทุนเท่านั้น ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น"
ส่วนปัญหากรณีระบบตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ หรือ TFEX ขัดข้องในช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดจากระบบซอร์ฟแวร์ที่ขัดข้องไม่สามารถทำการซื้อขายได้ในช่วงเช้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งแก้ไขให้กลับมาซื้อขายได้ในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยทาง ตลท.ได้วางมาตรการในการในแก้ใขไว้ 3 ระดับคือ 1.ให้ระบบกลับมาทำการซื้อขายได้โดยเร็วที่สุดซึ่งจะมีเซิร์ฟเวอร์แบ็คอัพทำการสำรองข้อมูลการซื้อขายไว้ 2.จะหาสาเหตุของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นว่ามาจากอะไร ซึ่งจะต้องร่วมมือกับผู้พัฒนาซอร์ฟแวร์ในการเข้ามาแก้และหาสาเหตุความผิดพลาดของระบบ และประการที่ 3.คือหาแนวทางมาตรการป้องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (6 พ.ย.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,434.97 จุด เพิ่มขึ้น 19.53 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.38% มูลค่าการซื้อขาย 43,539.29 ล้านบาท ด้านสัดส่วนผู้ลงทุน ต่างชาติขายสุทธิ 1.8 พันล้านบาท รายย่อยขายสุทธิ 1.8 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 2.3 พันล้านบาท บัญชีโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 1.4 ล้านบาท
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.กล่าวว่า จากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยภาวะซื้อขายในตลาดหุ้นช่วงระยะเวลา 10 วันที่ผ่านมาดัชนี SET INDEX ปรับตัวลดลงมากว่า 60-70 จุด ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศขายออกเฉลี่ยเพียง 3 พันล้านบาท หากเทียบกันกับความเสียหายของมาตรการ QE แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน้อยกว่ามาก
"ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองจากการประท้วง พรบ.นิรโทษกรรม หากไม่ยืดเยื้อยาวนาน คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก แต่ถ้าหากกินระยะเวลานานและยังหาข้อยุติระหว่างผู้ชุมนุมและรัฐบาลไม่ได้ อาจจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของประเทศทั้งระบบ ไม่ใช่แค่เพียงตลาดทุนเท่านั้น ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น"
ส่วนปัญหากรณีระบบตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ หรือ TFEX ขัดข้องในช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดจากระบบซอร์ฟแวร์ที่ขัดข้องไม่สามารถทำการซื้อขายได้ในช่วงเช้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งแก้ไขให้กลับมาซื้อขายได้ในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยทาง ตลท.ได้วางมาตรการในการในแก้ใขไว้ 3 ระดับคือ 1.ให้ระบบกลับมาทำการซื้อขายได้โดยเร็วที่สุดซึ่งจะมีเซิร์ฟเวอร์แบ็คอัพทำการสำรองข้อมูลการซื้อขายไว้ 2.จะหาสาเหตุของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นว่ามาจากอะไร ซึ่งจะต้องร่วมมือกับผู้พัฒนาซอร์ฟแวร์ในการเข้ามาแก้และหาสาเหตุความผิดพลาดของระบบ และประการที่ 3.คือหาแนวทางมาตรการป้องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
