ASTVผู้จัดการรายวัน - “โต้ง” เรียกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศถกเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ มั่นใจอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบสองเดือนสุดท้ายอีกกว่า 7.5 แสนล้านบาท ดันจีดีพีโตได้ตามเป้า ด้านกรมบัญชีกลางพร้อมจ่ายเงินโบนัสข้าราชการ 4 พันล้านบาทหนุนการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมชี้แจงมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินปี พ.ศ. 2557 ต่อหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศว่า เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับงบรวมที่ 95% และงบลงทุนที่ 82% เพื่อให้เงินออกสู่ระบบกระตุ้นเศรษฐกิจสูงถึง 2.4 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายให้การเบิกจ่ายไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557 เบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้
ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดมีเม็ดเงินจากการเบิกจ่ายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อีก 6 แสนล้านบาท รวมกับงบประมาณเหลื่อมปีของปี 2556 อีก 1.46 แสนล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะมีงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 7.5 แสนล้านบาท บาท ที่จะไหลออกไปสู่ภาคเอกชนและเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในสิ้นปีงบประมาณ 2557 มีมูลค่า 13 ล้านล้านบาท โดยจากประมาณการ การใช้เงินงบประมาณทุกๆ 1.2 แสนล้านบาทจะสามารถกระตุ้นจีดีพีให้ขยายตัวได้ 1%
นายกิตติรัตน์กล่าวถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ว่า มีทั้งสิ้น 2.525 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นงบรายจ่ายประจำ 2.01 ล้านล้านบาท รายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลัง 1.34 หมื่นล้านบาท งบลงทุนจำนวน 4.41 แสนล้านบาท งบจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 5.28 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลประมาณการเบิกจ่ายเป็นรายไตรมาส ซึ่งเฉลี่ยประมาณไตรมาสละ 6 แสนล้านบาท ขณะที่การจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2557 อยู่ที่ 2.275 ล้านล้าน ซึ่งรัฐบาลจัดทำงบประมาณขาดดุลที่ 2.5 แสนล้านบาท หรือ 2% ของจีดีพี ขณะที่เป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรวมที่ 95% สูงกว่าเป้าและการเบิกจ่ายจริงของปีงบประมาณที่ผ่านมาที่เบิกจ่าย 90.48%
“การบริหารจัดการด้านงบประมาณถือว่ามีประสิทธิภาพมาโดยตลอด โดยเห็นจากการจัดทำงบประมาณขาดดุลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงมั่นใจว่าจะสามารถจัดทำงบประมาณสมดุลได้ในปี 2560 ตามที่ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน และหากเร่งรัดการใช้งบจ่ายงบประมาณแล้ว จะส่งผลต่อการจัดทำงบประมาณปี 2558 ให้กับส่วนราชการต่างๆ ด้วย” นายกิตติรัตน์กล่าว
ด้านนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดี กรมบัญชีกลางกล่าวว่า เพื่อให้มีเงินออกสู่ระบบในช่วงปลายปี จึงได้ประสานกับสำนักงบประมาณ เพื่อให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินโบนัสประจำปี 2555 โดยต้องเบิกจ่ายให้ราชการให้ทันภายในสิ้นปีนี้ ในวงเงิน 4 พันล้านบาท รวมทั้งเร่งรัดให้ส่วนราชการใช้จ่ายงบปี 2557 สำหรับการอบอบรมสัมมนาตั้งแต่ต้นปี เพื่อออกไปกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดรอง วงเงิน 5,673 ล้านบาท พร้อมประสานคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ซึ่งยังไม่อนุมัติโครงการลงทุนถึง 50 เรื่องเงินลงทุนสูงถุง 4,357 ล้านบาท เพื่อให้โครงการจัดซื้อจัดจ้างมีความคืบหน้า
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมชี้แจงมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินปี พ.ศ. 2557 ต่อหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศว่า เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับงบรวมที่ 95% และงบลงทุนที่ 82% เพื่อให้เงินออกสู่ระบบกระตุ้นเศรษฐกิจสูงถึง 2.4 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายให้การเบิกจ่ายไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557 เบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้
ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดมีเม็ดเงินจากการเบิกจ่ายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อีก 6 แสนล้านบาท รวมกับงบประมาณเหลื่อมปีของปี 2556 อีก 1.46 แสนล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะมีงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 7.5 แสนล้านบาท บาท ที่จะไหลออกไปสู่ภาคเอกชนและเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในสิ้นปีงบประมาณ 2557 มีมูลค่า 13 ล้านล้านบาท โดยจากประมาณการ การใช้เงินงบประมาณทุกๆ 1.2 แสนล้านบาทจะสามารถกระตุ้นจีดีพีให้ขยายตัวได้ 1%
นายกิตติรัตน์กล่าวถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ว่า มีทั้งสิ้น 2.525 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นงบรายจ่ายประจำ 2.01 ล้านล้านบาท รายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลัง 1.34 หมื่นล้านบาท งบลงทุนจำนวน 4.41 แสนล้านบาท งบจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 5.28 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลประมาณการเบิกจ่ายเป็นรายไตรมาส ซึ่งเฉลี่ยประมาณไตรมาสละ 6 แสนล้านบาท ขณะที่การจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2557 อยู่ที่ 2.275 ล้านล้าน ซึ่งรัฐบาลจัดทำงบประมาณขาดดุลที่ 2.5 แสนล้านบาท หรือ 2% ของจีดีพี ขณะที่เป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรวมที่ 95% สูงกว่าเป้าและการเบิกจ่ายจริงของปีงบประมาณที่ผ่านมาที่เบิกจ่าย 90.48%
“การบริหารจัดการด้านงบประมาณถือว่ามีประสิทธิภาพมาโดยตลอด โดยเห็นจากการจัดทำงบประมาณขาดดุลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงมั่นใจว่าจะสามารถจัดทำงบประมาณสมดุลได้ในปี 2560 ตามที่ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน และหากเร่งรัดการใช้งบจ่ายงบประมาณแล้ว จะส่งผลต่อการจัดทำงบประมาณปี 2558 ให้กับส่วนราชการต่างๆ ด้วย” นายกิตติรัตน์กล่าว
ด้านนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดี กรมบัญชีกลางกล่าวว่า เพื่อให้มีเงินออกสู่ระบบในช่วงปลายปี จึงได้ประสานกับสำนักงบประมาณ เพื่อให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินโบนัสประจำปี 2555 โดยต้องเบิกจ่ายให้ราชการให้ทันภายในสิ้นปีนี้ ในวงเงิน 4 พันล้านบาท รวมทั้งเร่งรัดให้ส่วนราชการใช้จ่ายงบปี 2557 สำหรับการอบอบรมสัมมนาตั้งแต่ต้นปี เพื่อออกไปกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดรอง วงเงิน 5,673 ล้านบาท พร้อมประสานคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ซึ่งยังไม่อนุมัติโครงการลงทุนถึง 50 เรื่องเงินลงทุนสูงถุง 4,357 ล้านบาท เพื่อให้โครงการจัดซื้อจัดจ้างมีความคืบหน้า
