วานนี้ (17 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 ครั้งที่ 1/2556 โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวเปิดการประชุมว่า รัฐบาลพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม และจะมีการจัดนิทรรศการแสดงถึงพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้รับทราบ จากผู้แทนสำนักพระราชวังว่า จะนำความกราบบังคมทูลพระกรุณา เพื่อกำหนดการเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นังอัมรินทร์วินิจฉัย ในพระบรมหาราชวัง ในวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 10.30 น. แต่เมื่อนำความกราบบังคมทูลแล้ว จะมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯเป็นประการใด สุดแท้แต่พระราชวินิจฉัย ดังนั้นทางกองทัพไทยจึงได้เตรียมการที่จะจัดพิธีถวายสัตย์ปฎิญาณของทหารรักษาพระองค์ ผนวกเข้าต่อท้ายในการ เสด็จออกมหาสมาคม ซึ่งจะถวายสัตย์ปฎิญาณโดยใช้พื้นที่สนามหญ้าด้านหน้าอาคารสหทัยสมาคม
ทั้งนี้ กองทัพไทยจะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองอีก 2 วาระ โดยในวันที่ 17 ธ.ค. จะมีกิจกรรมดุริยางค์เฉลิมพระเกียรติจาก 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่สนามกีฬากองทัพบก และวันที่ 21 ธ.ค. จะมีการจัดพลุเฉลิมพระเกียรติ ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด กองทัพไทยจะมีการชี้แจงอีกครั้ง
ทั้งนี้ในส่วนของรัฐบาล จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้ชื่องานว่า “พระทรงเป็นยิ่งกว่า มหากษัตริย์” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและประเมินเรื่องราวที่น่ารับรู้และเป็นความชื่นใจของคนไทยทุกคน เกี่ยวกับพระเกียรติยศและพระเกียรติคุณที่ทรงได้รับยกย่องจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะพระราชสมัญญาที่ทรงได้รับจากกระทรวง และมติคณะรัฐมนตรี เช่น พระบิดาแห่งฝนหลวง เป็นต้น
นายธงทอง กล่าวอีกว่า พร้อมทั้งเป็นการประมวลพระราชกรณียกิจอย่างครบถ้วน รวมถึงปริญญากิตติมศักดิ์ที่ทรงได้จากสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นมากกว่าพระมหากษัตริย์ โดยจะมีกิจกรรมตั้งแต่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค.56 อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกำหนดในที่ประชุม ว่า จะต้องมีการประชุมอีกครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้าของการจัดกิจกรรมในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพ.ย. โดยให้แต่ละกระทรวงประสานการทำงานกันอย่างใกล้ชิด.
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้รับทราบ จากผู้แทนสำนักพระราชวังว่า จะนำความกราบบังคมทูลพระกรุณา เพื่อกำหนดการเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นังอัมรินทร์วินิจฉัย ในพระบรมหาราชวัง ในวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 10.30 น. แต่เมื่อนำความกราบบังคมทูลแล้ว จะมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯเป็นประการใด สุดแท้แต่พระราชวินิจฉัย ดังนั้นทางกองทัพไทยจึงได้เตรียมการที่จะจัดพิธีถวายสัตย์ปฎิญาณของทหารรักษาพระองค์ ผนวกเข้าต่อท้ายในการ เสด็จออกมหาสมาคม ซึ่งจะถวายสัตย์ปฎิญาณโดยใช้พื้นที่สนามหญ้าด้านหน้าอาคารสหทัยสมาคม
ทั้งนี้ กองทัพไทยจะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองอีก 2 วาระ โดยในวันที่ 17 ธ.ค. จะมีกิจกรรมดุริยางค์เฉลิมพระเกียรติจาก 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่สนามกีฬากองทัพบก และวันที่ 21 ธ.ค. จะมีการจัดพลุเฉลิมพระเกียรติ ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด กองทัพไทยจะมีการชี้แจงอีกครั้ง
ทั้งนี้ในส่วนของรัฐบาล จะมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้ชื่องานว่า “พระทรงเป็นยิ่งกว่า มหากษัตริย์” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและประเมินเรื่องราวที่น่ารับรู้และเป็นความชื่นใจของคนไทยทุกคน เกี่ยวกับพระเกียรติยศและพระเกียรติคุณที่ทรงได้รับยกย่องจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะพระราชสมัญญาที่ทรงได้รับจากกระทรวง และมติคณะรัฐมนตรี เช่น พระบิดาแห่งฝนหลวง เป็นต้น
นายธงทอง กล่าวอีกว่า พร้อมทั้งเป็นการประมวลพระราชกรณียกิจอย่างครบถ้วน รวมถึงปริญญากิตติมศักดิ์ที่ทรงได้จากสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นมากกว่าพระมหากษัตริย์ โดยจะมีกิจกรรมตั้งแต่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค.56 อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกำหนดในที่ประชุม ว่า จะต้องมีการประชุมอีกครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้าของการจัดกิจกรรมในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพ.ย. โดยให้แต่ละกระทรวงประสานการทำงานกันอย่างใกล้ชิด.