วานนี้(9 ต.ค.56) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุม “เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย พัฒนาประชาธิปไตย และประเทศร่วมกัน” ในส่วนของคณะทำงานด้านการเมือง โดยมี นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะผู้ประสานงานฯ เป็นประธานในที่ประชุม โดยมี นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ รวมถึงตัวแทนอดีตนักการเมือง อดีตตุลาการ นักวิชาการ และภาคประชาชน เข้าร่วมกว่า 50 คน
นายบรรหาร กล่าวตอนหนึ่งว่า เจตนารมณ์ของการเปิดเวทีปฏิรูปประเทศไทย ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น จากนั้นรัฐบาลจะรับไปดำเนินการ ซึ่งตนเองในฐานะผู้ประสานงานได้เดินทางไปพบกับหลายๆคนที่เกี่ยวข้อง บ้างก็ตอบรับ บ้างก็มีเหตุผลที่ยังไม่เข้าร่วม ซึ่งก็ต้องรับฟัง อย่างไรก็ตามเวทีปฏิรูปการเมืองอาจทำในลักษณะคู่ขนาน ส่วนอื่นอาจจะดำเนินการไปด้วย แต่ในส่วนของคณะกรรมการชุดนี้จะมุ่งไปสู่ความมั่นคงถาวรทางการเมือง สำหรับตนแล้ว ในเรื่องการปฏิรูปการเมืองก็ไม่ได้หวังว่าจะเกิดความสำเร็จร้อยเปอร์เซ็น แค่เดินหน้าได้หนึ่งถึงสามก้าวก็ยังดี เพราะความสำเร็จหากจะเกิดขึ้นในรุ่นเราคงยาก แต่เราจำเป็นต้องวางมาตรฐานการดำเนินการให้คนรุ่นต่อไปในทางที่ถูกต้อง
ต่อมา นายพิชัย ได้ขอกล่าวก่อนเข้าสู่การประชุมว่า ในขณะที่คณะกรรมการปฏิรูปทางด้านการเมือง ดำเนินการประชุมอยู่นั้น บริเวณด้านนอกทำเนียบรัฐบาลก็มีการชุมนุมของ กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่นำโดย พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เสนาธิการ่วม กปท. ตนจึงขอเสนอให้เชิญ พล.ร.อ.ชัย เข้ามาร่วมหารือด้วย เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจของรัฐบาล ว่าอยากรับฟังความคิดเห็นอย่างเป็นทางการถึงความต้องการของกลุ่มบุคคลดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายพิชัย เสนอความคิดเห็นดังกล่าว นายบรรหาร ได้กล่าวปฏิเสธทันที โดยให้เหตุผลว่า หากเชิญ พล.ร.อ.ชัย เข้ามาการหารือคงจะไม่จบในวันนี้ ขอฟังความคิดเห็นของที่ประชุมนี้ก่อน หลังจากนั้นหากมีการแบ่งกลุ่มหารือเป็นกลุ่มย่อย จึงค่อยเชิญเข้าร่วมภายหลัง
จากนั้น นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานผลสรุปการประชุมหารือแลกเปลี่ยน และให้ข้อคิดเกี่ยวกับข้อเสนอทางออกประเทศ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. และความคืบหน้าเวทีปฏิรูปประเทศ ด้านสังคมและเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาต่อที่ประชุม และนำเข้าสู่วาระการประชุม
เวลา 08.00 น.นายบรรหาร แถลงว่า ที่ประชุมกำหนดประเด็นที่จะต้องปฏิรูปการเมืองทั้งสิ้น 7 ประเด็น ดังนี้ 1.วิสัยทัศน์การเมืองและประชาธิปไตยไทย 2.การปฏิรูปรัฐธรรมนูญ รวมทั้งโครงสร้างสถาบันทางการเมือง และระบบตรวจสอบและถ่วงดุลย์ 3.การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและการเมืองภาคประชาชน 4.การพัฒนาพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย 5.การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 6.การสร้างความปรองดองที่ยั่งยืน และ7.ประเด็นเร่งด่วนเฉพาะ ทั้งนี้คณะทำงานมอบหมายให้นายธงทอง ตั้งคณะทำงานชุดเล็กเพื่อประมวลความเห็นเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ คาดว่าจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างภายใน 2 เดือน
นายบรรหาร กล่าวตอนหนึ่งว่า เจตนารมณ์ของการเปิดเวทีปฏิรูปประเทศไทย ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น จากนั้นรัฐบาลจะรับไปดำเนินการ ซึ่งตนเองในฐานะผู้ประสานงานได้เดินทางไปพบกับหลายๆคนที่เกี่ยวข้อง บ้างก็ตอบรับ บ้างก็มีเหตุผลที่ยังไม่เข้าร่วม ซึ่งก็ต้องรับฟัง อย่างไรก็ตามเวทีปฏิรูปการเมืองอาจทำในลักษณะคู่ขนาน ส่วนอื่นอาจจะดำเนินการไปด้วย แต่ในส่วนของคณะกรรมการชุดนี้จะมุ่งไปสู่ความมั่นคงถาวรทางการเมือง สำหรับตนแล้ว ในเรื่องการปฏิรูปการเมืองก็ไม่ได้หวังว่าจะเกิดความสำเร็จร้อยเปอร์เซ็น แค่เดินหน้าได้หนึ่งถึงสามก้าวก็ยังดี เพราะความสำเร็จหากจะเกิดขึ้นในรุ่นเราคงยาก แต่เราจำเป็นต้องวางมาตรฐานการดำเนินการให้คนรุ่นต่อไปในทางที่ถูกต้อง
ต่อมา นายพิชัย ได้ขอกล่าวก่อนเข้าสู่การประชุมว่า ในขณะที่คณะกรรมการปฏิรูปทางด้านการเมือง ดำเนินการประชุมอยู่นั้น บริเวณด้านนอกทำเนียบรัฐบาลก็มีการชุมนุมของ กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่นำโดย พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เสนาธิการ่วม กปท. ตนจึงขอเสนอให้เชิญ พล.ร.อ.ชัย เข้ามาร่วมหารือด้วย เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจของรัฐบาล ว่าอยากรับฟังความคิดเห็นอย่างเป็นทางการถึงความต้องการของกลุ่มบุคคลดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายพิชัย เสนอความคิดเห็นดังกล่าว นายบรรหาร ได้กล่าวปฏิเสธทันที โดยให้เหตุผลว่า หากเชิญ พล.ร.อ.ชัย เข้ามาการหารือคงจะไม่จบในวันนี้ ขอฟังความคิดเห็นของที่ประชุมนี้ก่อน หลังจากนั้นหากมีการแบ่งกลุ่มหารือเป็นกลุ่มย่อย จึงค่อยเชิญเข้าร่วมภายหลัง
จากนั้น นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานผลสรุปการประชุมหารือแลกเปลี่ยน และให้ข้อคิดเกี่ยวกับข้อเสนอทางออกประเทศ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. และความคืบหน้าเวทีปฏิรูปประเทศ ด้านสังคมและเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาต่อที่ประชุม และนำเข้าสู่วาระการประชุม
เวลา 08.00 น.นายบรรหาร แถลงว่า ที่ประชุมกำหนดประเด็นที่จะต้องปฏิรูปการเมืองทั้งสิ้น 7 ประเด็น ดังนี้ 1.วิสัยทัศน์การเมืองและประชาธิปไตยไทย 2.การปฏิรูปรัฐธรรมนูญ รวมทั้งโครงสร้างสถาบันทางการเมือง และระบบตรวจสอบและถ่วงดุลย์ 3.การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและการเมืองภาคประชาชน 4.การพัฒนาพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย 5.การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 6.การสร้างความปรองดองที่ยั่งยืน และ7.ประเด็นเร่งด่วนเฉพาะ ทั้งนี้คณะทำงานมอบหมายให้นายธงทอง ตั้งคณะทำงานชุดเล็กเพื่อประมวลความเห็นเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ คาดว่าจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างภายใน 2 เดือน
