สรรพสามิตเผยผู้ประกอบการน้ำเมายื่นสำแดงราคาใหม่แล้วกว่า 90% เหลือเพียงสุราต่างประเทศที่ยังไม่ยื่นเข้ามาเหตุต้องคำนวณฐานภาษีซับซ้อนกว่า ระบุเบียร์ไฮเนเก้นปรับราคาเพิ่มมากสุดขวดละ 5 บาท เบียร์ช้าง 4.84 บาท เบียร์สิงห์ 2 บาท ส่วนกลุ่มเหล้าพบแม่โขงต้องจ่ายเพิ่มเกือบ 50 บาท
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ได้ทยอยยื่นราคาใหม่เพื่อใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีตามประกาศอัตราใหม่ของกรมสรรพสามิตเข้ามาแล้วประมาณ 90% โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการที่ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในประเทศทั้งเหล้าและเบียร์จะยื่นมาครบแล้วรบแล้ว โดยมีการยื่นเข้ามาประมาณ 90% ยังเหลือเพียงผู้ประกอบการสำรานำเข้าสุราต่างประเทศเท่านั้นที่ยังไม่ได้ยื่นเข้ามา
สำหรับเหล้าและเบียร์ที่ผลิตในประเทศนั้นหลังจากเปลี่ยนมาใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้ายในการคำนวณภาษีสรรพสามิตใหม่จะทำให้มีภาระภาษีเพิ่มไม่มากนัก เบียร์อยู่ที่ไม่ 5 บาท สุราผลิตในประเทศอยู่ที่ไม่เกินขวดละ 50 บาท แต่สุราต่างประเทศที่ยังได้เสนอราคาใหม่เข้ามานั้นเป็นเพราะมีความยุ่งยากกว่าเพราะจากที่คำนวณจากฐานราคาซีไอเอฟที่แจ้งช่วงที่มีการนำเข้าก็ต้องเปลี่ยนเป็นราคาขายส่งช่วงสุดท้ายเช่นกัน ทำให้ราคาจะมีความแตกต่างกันมาก ส่งผลให้ภาระภาษีน่าจะเพิ่มขึ้นมากตามไปด้วย อย่างสุราดังๆอาจจะเสียภาษีเพิ่มมากกว่า 100 บาทต่อขวด
“ขณะนี้เชื่อว่าในตลาดขายปลีกส่วนใหญ่คงมีการขายเหล้า เบียร์ราคาใหม่ตามภาษีที่ปรับเพิ่มใหม่กันเกือบหมดแล้ว เพราะเริ่มมีสินค้าล็อตใหม่ที่ผลิตหลังปรับขึ้นภาษีทยอยออกสู่ตลาดแล้ว”นายสมชาย กล่าว
รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิต ระบุว่า บริษัทในเครือบุญรอด ได้แจ้งราคาเบียร์สิงห์ขวดใหญ่เข้ามาทำให้เดิมจากที่เสียภาษี 25.76 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 2.01 บาท เบียร์สิงห์กระป๋อง จากที่เสีย 14.91 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 0.53 บาท เบียร์ลีโอขวดใหญ่ จากที่เสีย 18.97 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 4.39 บาท เบียร์ลีโอกระป๋อง จากที่เสีย 11.48 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 2.75 บาท
ส่วนบริษัทในเครือไทยเบฟแจ้งราคาใหม่เข้ามาทำให้เบียร์ช้างขวดใหญ่จากที่เสียภาษี18.97 บาทปรับเพิ่มอีก 4.84 บาท เบียร์ช้างกระป๋อง จากที่เสีย 11.48 บาทต้องเสียเพิ่ม 2.04 บาท เบียร์อาชาขวดใหญ่ จากที่เสีย 18.97 บาท ต้องเสียเพิ่ม 1.75 บาท เบียร์อาชากระป๋อง จากที่เสีย 11.48 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 0.4 บาท
ด้านบริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค แจ้งราคาไฮเนเก้นขวดใหญ่ เข้ามาจากที่เสียภาษีเดิม 26.46 บาทต้องจ่ายเพิ่มอีก 5.06 บาท เบียร์ไฮเนเก้นกระป๋อง จากที่เสีย 14.93 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 1.93 บาท เบียร์ไทเกอร์ขวดใหญ่จากเสีย 25.76บาทต้องจ่ายเพิ่ม 0.34 บาท เบียร์ไทเกอร์กระป๋องจากที่เสีย 14.91 บาท กลับเสียน้อยลง 0.23 บาท เบียร์เชียร์ขวดใหญ่ จากจ่ายภาษี 18.97 บาทต้องเสียเพิ่ม 1.7 บาท เบียร์เชียร์กระป๋องจากเสียภาษี11.48 บาทต้องจ่ายเพิ่มอีก 0.29 บาท
ขณะที่บริษัท ซาน มิเกล เบียร์ แจ้งราคาเบียร์ San Miguel (ขวดใหญ่) จากเสียภาษี26.46 บาทต้องจ่ายเพิ่มอีก 2.77 บาท เบียร์ San Miguel กระป๋องจากเสีย 14.93 บาท ต้องเสียเพิ่ม1.81 บาท
ทางด้านของสุราในเครือบริษัท ไทยเบฟ ส่วนของสุราขาว 40 ดีกรี (ขวดใหญ่) จากเสีย 19.8บาท จ่ายเพิ่มเล็กน้อย 0.92 บาท หงส์ทอง (ขวดใหญ่) จาก 85.75 บาทจ่ายเพิ่มอีก16.65 บาท Blen 285 (ขวดใหญ่) จากภาษี 122.5 บาทเสียเพิ่มอีก 25.9 บาท แม่โขง (ขวดใหญ่) เสีย98 บาท จ่ายเพิ่มอีก 43.86 บาทแสงโสม (ขวดใหญ่) จาก 112 บาทจ่ายเพิ่มเพียง 0.31 บาท รีเจนซี่ (ขวดใหญ่)จากภาษี 141 บาทจ่ายเพิ่มอีก 21.27 บาท
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ได้ทยอยยื่นราคาใหม่เพื่อใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีตามประกาศอัตราใหม่ของกรมสรรพสามิตเข้ามาแล้วประมาณ 90% โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการที่ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในประเทศทั้งเหล้าและเบียร์จะยื่นมาครบแล้วรบแล้ว โดยมีการยื่นเข้ามาประมาณ 90% ยังเหลือเพียงผู้ประกอบการสำรานำเข้าสุราต่างประเทศเท่านั้นที่ยังไม่ได้ยื่นเข้ามา
สำหรับเหล้าและเบียร์ที่ผลิตในประเทศนั้นหลังจากเปลี่ยนมาใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้ายในการคำนวณภาษีสรรพสามิตใหม่จะทำให้มีภาระภาษีเพิ่มไม่มากนัก เบียร์อยู่ที่ไม่ 5 บาท สุราผลิตในประเทศอยู่ที่ไม่เกินขวดละ 50 บาท แต่สุราต่างประเทศที่ยังได้เสนอราคาใหม่เข้ามานั้นเป็นเพราะมีความยุ่งยากกว่าเพราะจากที่คำนวณจากฐานราคาซีไอเอฟที่แจ้งช่วงที่มีการนำเข้าก็ต้องเปลี่ยนเป็นราคาขายส่งช่วงสุดท้ายเช่นกัน ทำให้ราคาจะมีความแตกต่างกันมาก ส่งผลให้ภาระภาษีน่าจะเพิ่มขึ้นมากตามไปด้วย อย่างสุราดังๆอาจจะเสียภาษีเพิ่มมากกว่า 100 บาทต่อขวด
“ขณะนี้เชื่อว่าในตลาดขายปลีกส่วนใหญ่คงมีการขายเหล้า เบียร์ราคาใหม่ตามภาษีที่ปรับเพิ่มใหม่กันเกือบหมดแล้ว เพราะเริ่มมีสินค้าล็อตใหม่ที่ผลิตหลังปรับขึ้นภาษีทยอยออกสู่ตลาดแล้ว”นายสมชาย กล่าว
รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิต ระบุว่า บริษัทในเครือบุญรอด ได้แจ้งราคาเบียร์สิงห์ขวดใหญ่เข้ามาทำให้เดิมจากที่เสียภาษี 25.76 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 2.01 บาท เบียร์สิงห์กระป๋อง จากที่เสีย 14.91 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 0.53 บาท เบียร์ลีโอขวดใหญ่ จากที่เสีย 18.97 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 4.39 บาท เบียร์ลีโอกระป๋อง จากที่เสีย 11.48 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 2.75 บาท
ส่วนบริษัทในเครือไทยเบฟแจ้งราคาใหม่เข้ามาทำให้เบียร์ช้างขวดใหญ่จากที่เสียภาษี18.97 บาทปรับเพิ่มอีก 4.84 บาท เบียร์ช้างกระป๋อง จากที่เสีย 11.48 บาทต้องเสียเพิ่ม 2.04 บาท เบียร์อาชาขวดใหญ่ จากที่เสีย 18.97 บาท ต้องเสียเพิ่ม 1.75 บาท เบียร์อาชากระป๋อง จากที่เสีย 11.48 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 0.4 บาท
ด้านบริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค แจ้งราคาไฮเนเก้นขวดใหญ่ เข้ามาจากที่เสียภาษีเดิม 26.46 บาทต้องจ่ายเพิ่มอีก 5.06 บาท เบียร์ไฮเนเก้นกระป๋อง จากที่เสีย 14.93 บาทต้องเสียเพิ่มอีก 1.93 บาท เบียร์ไทเกอร์ขวดใหญ่จากเสีย 25.76บาทต้องจ่ายเพิ่ม 0.34 บาท เบียร์ไทเกอร์กระป๋องจากที่เสีย 14.91 บาท กลับเสียน้อยลง 0.23 บาท เบียร์เชียร์ขวดใหญ่ จากจ่ายภาษี 18.97 บาทต้องเสียเพิ่ม 1.7 บาท เบียร์เชียร์กระป๋องจากเสียภาษี11.48 บาทต้องจ่ายเพิ่มอีก 0.29 บาท
ขณะที่บริษัท ซาน มิเกล เบียร์ แจ้งราคาเบียร์ San Miguel (ขวดใหญ่) จากเสียภาษี26.46 บาทต้องจ่ายเพิ่มอีก 2.77 บาท เบียร์ San Miguel กระป๋องจากเสีย 14.93 บาท ต้องเสียเพิ่ม1.81 บาท
ทางด้านของสุราในเครือบริษัท ไทยเบฟ ส่วนของสุราขาว 40 ดีกรี (ขวดใหญ่) จากเสีย 19.8บาท จ่ายเพิ่มเล็กน้อย 0.92 บาท หงส์ทอง (ขวดใหญ่) จาก 85.75 บาทจ่ายเพิ่มอีก16.65 บาท Blen 285 (ขวดใหญ่) จากภาษี 122.5 บาทเสียเพิ่มอีก 25.9 บาท แม่โขง (ขวดใหญ่) เสีย98 บาท จ่ายเพิ่มอีก 43.86 บาทแสงโสม (ขวดใหญ่) จาก 112 บาทจ่ายเพิ่มเพียง 0.31 บาท รีเจนซี่ (ขวดใหญ่)จากภาษี 141 บาทจ่ายเพิ่มอีก 21.27 บาท