นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาโครงการรับจำนำข้าวที่เปิดรอบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า อยากให้รัฐบาลเอาจริงเอาจังกับปัญหาที่เม็ดเงินไม่เคยถึงมือชาวนาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยล่าสุดได้รับคำร้องจากกลุ่มชาวนา จ.พิจิตร พร้อมเอกสารหลักฐาน ที่ได้เงินจากโครงการรับจำนำเพียง 9,800 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากมีการอ้างถึงเรื่องคุณภาพ และความชื้น ก็ไม่ควรได้เงินต่ำกว่า 11,000 บาท จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา เพราะยังมีเวลาปรับปรุง
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่าจะมีการเอาสถานการณ์น้ำท่วมมาอ้างเป็นปัญหาที่ทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ ทั้งที่เกิดจากปัญหาการเวียนเทียนจำนำซ้ำเพราะที่ผ่านมา รัฐบาลเคยประกาศขายข้าวมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่มีใครรับซื้อ เพราะพ่อค้าต่างรู้ว่าปัญหาด้านคุณภาพ จึงอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการหาสาเหตุที่แท้จริง
นพ.วรงค์ ยังกล่าวถึงตัวเลขขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวกว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งตรงกับที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้คาดการณ์ไว้ จึงอยากให้รัฐบาลแถลงชี้แจงตัวเลขขาดทุนตามความเป็นจริง พร้อมขอให้เร่งตรวจสอบกรณีที่ข้าวหายไปจากโกดังโครงการรับจำนำกว่าล้านตัน ว่าได้ข้อสรุปอย่างไรบ้าง
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้โครงการรับจำนำข้าว ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 9 แสนล้านบาท ซึ่งทางธ.ก.ส. ก็ยืนยันว่า ไม่สามารถสั่งจ่ายได้อีกแล้ว และกระทรวงการคลังก็ไม่รับประกันเรื่องงบประมาณ จึงไม่มีทางออกว่าจะใช้งบประมาณจากส่วนใด ที่จะต้องนำมาใช้ในการจำนำอีกฤดูกาลที่ต้องใช้งบประมาณ 2.7 แสนล้านบาท ทำให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลอยู่ในภาวะถังแตก แต่เชื่อว่าสุดท้ายรัฐบาลจะบีบให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายล่วงหน้าไปก่อน ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากไม่สามารถสร้างรายได้จากการขายข้าวในโกดังได้ เพราะข้าวไม่มีคุณภาพ และหากไม่สามารถหางบประมาณได้ เชื่อว่าจะมีม็อบชาวนาเกิดขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลที่ทำโครงการล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม หากมีการอ้างถึงเรื่องคุณภาพ และความชื้น ก็ไม่ควรได้เงินต่ำกว่า 11,000 บาท จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา เพราะยังมีเวลาปรับปรุง
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่าจะมีการเอาสถานการณ์น้ำท่วมมาอ้างเป็นปัญหาที่ทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ ทั้งที่เกิดจากปัญหาการเวียนเทียนจำนำซ้ำเพราะที่ผ่านมา รัฐบาลเคยประกาศขายข้าวมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่มีใครรับซื้อ เพราะพ่อค้าต่างรู้ว่าปัญหาด้านคุณภาพ จึงอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการหาสาเหตุที่แท้จริง
นพ.วรงค์ ยังกล่าวถึงตัวเลขขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวกว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งตรงกับที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้คาดการณ์ไว้ จึงอยากให้รัฐบาลแถลงชี้แจงตัวเลขขาดทุนตามความเป็นจริง พร้อมขอให้เร่งตรวจสอบกรณีที่ข้าวหายไปจากโกดังโครงการรับจำนำกว่าล้านตัน ว่าได้ข้อสรุปอย่างไรบ้าง
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้โครงการรับจำนำข้าว ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 9 แสนล้านบาท ซึ่งทางธ.ก.ส. ก็ยืนยันว่า ไม่สามารถสั่งจ่ายได้อีกแล้ว และกระทรวงการคลังก็ไม่รับประกันเรื่องงบประมาณ จึงไม่มีทางออกว่าจะใช้งบประมาณจากส่วนใด ที่จะต้องนำมาใช้ในการจำนำอีกฤดูกาลที่ต้องใช้งบประมาณ 2.7 แสนล้านบาท ทำให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลอยู่ในภาวะถังแตก แต่เชื่อว่าสุดท้ายรัฐบาลจะบีบให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายล่วงหน้าไปก่อน ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากไม่สามารถสร้างรายได้จากการขายข้าวในโกดังได้ เพราะข้าวไม่มีคุณภาพ และหากไม่สามารถหางบประมาณได้ เชื่อว่าจะมีม็อบชาวนาเกิดขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลที่ทำโครงการล้มเหลว
