เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (2ต.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วยนายตำรวจระดับสูง เดินทางมาเข้าพบ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อแสดงความยินดีที่ได้รับตำแหน่ง พร้อมกับหารือถึงการประสานการทำงานร่วมกัน โดยก่อนการหารือ พล.ท.นิพัทธ์ ได้นำ พล.ต.ท.คำรณวิทย์และคณะ เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหอกลอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงกลาโหม จากนั้นจึงได้พาไปเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงกลาโหม (ศปก.กห.) ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการวอร์รูมของกระทรวงกลาโหม ที่มีการลิงค์ข้อมูลกับทีวีวงจรปิดของกทม. และประสานการทำงานกับหน่วยทหารทุกพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือการทำงานของรัฐบาล เช่น การช่วยเหลือภัยพิบัติ ปัญหาบริเวณชายแดน หรือกรณีที่มีการชุมุนมทางการเมืองต่างๆ
สำหรับการเข้าหารือครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพแต่อย่างใด โดยระบุว่า เป็นการหารือเป็นการส่วนตัว โดยหลังจากการหารือ พล.อ.นิพัทธ์ และคณะของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับ
พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 14 (ตท.14) เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม จึงมาแสดงความยินดี จากนั้นพล.ต.ท.คำรณวิทย์ คงไปแสดงความยินดีกับพล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.14 ด้วย เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการร่วมกันทำงาน และบูรณาการด้านการข่าว ซึ่งตนจะพา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงกลาโหม เพื่อดูการทำงานในเรื่องการรักษาความปลอดภัยพื้นที่บริเวณโดยรอบกระทรวงกลาโหม ซึ่งเราได้มีการประสานกับสถานีตำรวจ (สน.) พระราชวัง เพราะกล้องวงจรปิดมีการเชื่อมโยงกันหมดภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกล้องวงจรปิดแห่งชาติ แม้จะแยกรับผิดชอบตามส่วนงานก็ตาม ซึ่งเราจะมาดูว่า จะทำอย่างไร เพื่อเชื่อมโยงการทำงานระหว่างกับกองทัพบก และ นครบาลได้ ในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งจะนำเจ้าหน้าที่ของ 2 หน่วยงาน มาจับมือ เพื่อประสานการทำงานให้มากขึ้น
“อย่ามองเป็นเรื่องการเมือง เพราะแจ๊ดกับผม เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน ตอนนี้มีผม แจ๊ด และแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน จะทำให้การทำงานกันง่ายขึ้น แจ๊ดคุยกับผมว่า อยากดูว่าการทำงานกระทรวงกลาโหม ว่ามีอะไรบ้าง เขาบอกมาตั้งแต่ช่วงที่มีม็อบมาชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวงแล้ว พอผมเข้ารับตำแหน่ง เลยพาแจ๊ดมาทัวร์ ”พล.อ.นิพัทธ์ กล่าว
** "ธีรชัย"รับมอบงานแม่ทัพภาค1
เวลา 09.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ในฐานะอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ประกอบพิธีส่งมอบหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ให้แก่ให้ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช รองเสนาธิการทหารบก ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 โดย พล.ท.ธีรชัย ถือเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนที่ 47 ตั้งแต่มีการสถาปนากองทัพภาคที่ 1
ทั้งนี้พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า จากที่ตนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ทบ. ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ขอตั้งสัจจะวาจาว่า จะซื่อตรงและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชาแห่งพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต และจะเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตลอดไป ขอบคุณผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาในกองทัพภาคที่ 1 ทุกคน ที่ให้การสนับสนุน ระหว่างปฏิบัติหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ตนได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี สิ่งที่ทุกท่านมอบให้ตนจะอยู่ในจิตใจตลอดไป และจะทดแทนด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อทำงานให้กองทัพบกอย่างเต็มขีดความสามารถ ด้วยจิตวิญญาณและสายเลือดของความเป็นทหาร สำหรับแม่ทัพภาคที่ 1 คนปัจจุบันนั้น เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพภาคที่ 1 คุ้นเคยกับกำลังพลมาอย่างยาวนาน ทุกคนรู้ถึงความสามารถเป็นอย่างดี ตนมั่นใจว่า ภายใต้การนำของท่าน และความร่วมมือของทุกคน จะนำพากองทัพภาคที่ 1 ไปสู่ความเจริญก้าวหน้า และความสำเร็จในการงานทุกด้าน มีหลักในการรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของกองทัพบก ปกป้องไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นที่ชื่นชม และเชื่อมั่นของประชาชนได้อย่างแน่นอน
ด้านพล.ท.ธีรชัย กล่าวว่า ตามที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 นับเป็นเกียรติยศอย่างสูง และเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ขอน้อมรับหน้าที่ไว้ด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบ และจะยึดถือนโยบายการปฏิบัติงานตามแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบไว้ และจะเสริมสร้างพัฒนากองทัพภาคที่ 1 ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ให้เป็นที่ยอมรับเชื่อถือ และศรัทธาของประชาชน รวมถึงจะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยชีวิต พร้อมจะเป็นหลักในด้านการรักษาความมั่นคง ปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติตลอดไป ที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 1 ทุกท่านได้ทุ่มเทความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่จะทำให้กองทัพภาคที่ 1 มีประสิทธิภาพในทุกด้านเพื่อสนองนโยบายของกองทัพบก ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่สำคัญของตนที่จะต้องรับผิดชอบต่อกองทัพภาคที่ 1 เพื่อนำกองทัพภาคที่ 1 ไปสู่ความเจริญก้าวหน้า มุ่งสู่ความพร้อมรบที่ทันสมัย เป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีการรับมอบตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยภายหลังเสร็จพิธี พล.อ.ไพบูลย์ ได้เข้าไปกอดกับ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อยที่ 1 และผู้บังคับบัญชาในกองทัพภาคที่ 1 เพื่ออำลาตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง พล.อ.ไพบูลย์ และ พล.ท.วลิต ต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม นอกจากนี้พล.อ.ไพบูลย์ ยังได้กอด และจับมือแสดงความยินดีกับ พล.ท.ธีรชัย ที่ได้มาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ด้วย โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการ พล.ท.ธีรชัย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
สำหรับการเข้าหารือครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพแต่อย่างใด โดยระบุว่า เป็นการหารือเป็นการส่วนตัว โดยหลังจากการหารือ พล.อ.นิพัทธ์ และคณะของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับ
พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 14 (ตท.14) เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม จึงมาแสดงความยินดี จากนั้นพล.ต.ท.คำรณวิทย์ คงไปแสดงความยินดีกับพล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.14 ด้วย เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการร่วมกันทำงาน และบูรณาการด้านการข่าว ซึ่งตนจะพา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงกลาโหม เพื่อดูการทำงานในเรื่องการรักษาความปลอดภัยพื้นที่บริเวณโดยรอบกระทรวงกลาโหม ซึ่งเราได้มีการประสานกับสถานีตำรวจ (สน.) พระราชวัง เพราะกล้องวงจรปิดมีการเชื่อมโยงกันหมดภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกล้องวงจรปิดแห่งชาติ แม้จะแยกรับผิดชอบตามส่วนงานก็ตาม ซึ่งเราจะมาดูว่า จะทำอย่างไร เพื่อเชื่อมโยงการทำงานระหว่างกับกองทัพบก และ นครบาลได้ ในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งจะนำเจ้าหน้าที่ของ 2 หน่วยงาน มาจับมือ เพื่อประสานการทำงานให้มากขึ้น
“อย่ามองเป็นเรื่องการเมือง เพราะแจ๊ดกับผม เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน ตอนนี้มีผม แจ๊ด และแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน จะทำให้การทำงานกันง่ายขึ้น แจ๊ดคุยกับผมว่า อยากดูว่าการทำงานกระทรวงกลาโหม ว่ามีอะไรบ้าง เขาบอกมาตั้งแต่ช่วงที่มีม็อบมาชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวงแล้ว พอผมเข้ารับตำแหน่ง เลยพาแจ๊ดมาทัวร์ ”พล.อ.นิพัทธ์ กล่าว
** "ธีรชัย"รับมอบงานแม่ทัพภาค1
เวลา 09.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ในฐานะอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 ได้ประกอบพิธีส่งมอบหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ให้แก่ให้ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช รองเสนาธิการทหารบก ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 โดย พล.ท.ธีรชัย ถือเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนที่ 47 ตั้งแต่มีการสถาปนากองทัพภาคที่ 1
ทั้งนี้พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า จากที่ตนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ทบ. ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ขอตั้งสัจจะวาจาว่า จะซื่อตรงและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชาแห่งพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต และจะเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตลอดไป ขอบคุณผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาในกองทัพภาคที่ 1 ทุกคน ที่ให้การสนับสนุน ระหว่างปฏิบัติหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ตนได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี สิ่งที่ทุกท่านมอบให้ตนจะอยู่ในจิตใจตลอดไป และจะทดแทนด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อทำงานให้กองทัพบกอย่างเต็มขีดความสามารถ ด้วยจิตวิญญาณและสายเลือดของความเป็นทหาร สำหรับแม่ทัพภาคที่ 1 คนปัจจุบันนั้น เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพภาคที่ 1 คุ้นเคยกับกำลังพลมาอย่างยาวนาน ทุกคนรู้ถึงความสามารถเป็นอย่างดี ตนมั่นใจว่า ภายใต้การนำของท่าน และความร่วมมือของทุกคน จะนำพากองทัพภาคที่ 1 ไปสู่ความเจริญก้าวหน้า และความสำเร็จในการงานทุกด้าน มีหลักในการรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของกองทัพบก ปกป้องไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นที่ชื่นชม และเชื่อมั่นของประชาชนได้อย่างแน่นอน
ด้านพล.ท.ธีรชัย กล่าวว่า ตามที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 นับเป็นเกียรติยศอย่างสูง และเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ขอน้อมรับหน้าที่ไว้ด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบ และจะยึดถือนโยบายการปฏิบัติงานตามแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบไว้ และจะเสริมสร้างพัฒนากองทัพภาคที่ 1 ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ให้เป็นที่ยอมรับเชื่อถือ และศรัทธาของประชาชน รวมถึงจะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยชีวิต พร้อมจะเป็นหลักในด้านการรักษาความมั่นคง ปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติตลอดไป ที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 1 ทุกท่านได้ทุ่มเทความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่จะทำให้กองทัพภาคที่ 1 มีประสิทธิภาพในทุกด้านเพื่อสนองนโยบายของกองทัพบก ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่สำคัญของตนที่จะต้องรับผิดชอบต่อกองทัพภาคที่ 1 เพื่อนำกองทัพภาคที่ 1 ไปสู่ความเจริญก้าวหน้า มุ่งสู่ความพร้อมรบที่ทันสมัย เป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีการรับมอบตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยภายหลังเสร็จพิธี พล.อ.ไพบูลย์ ได้เข้าไปกอดกับ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อยที่ 1 และผู้บังคับบัญชาในกองทัพภาคที่ 1 เพื่ออำลาตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง พล.อ.ไพบูลย์ และ พล.ท.วลิต ต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม นอกจากนี้พล.อ.ไพบูลย์ ยังได้กอด และจับมือแสดงความยินดีกับ พล.ท.ธีรชัย ที่ได้มาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ด้วย โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการ พล.ท.ธีรชัย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน