วานนี้ (30 ก.ย.56) นางศิลจิรา อภัยทาน ตัวแทนกลุ่ม Women in Dhamma เข้ายื่นหนังสือต่อนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีขอให้กรมอุทยานแห่งชาติฯงดต่อใบอนุญาตสวนสัตว์บนยอดตึก และทบทวน พรบ.คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 หลังจากเรื่องดังกล่าวถูกละเลยจากคณะรัฐบาลมาเป็นเวลา 30 ปี โดยหนังสือที่ยื่นมีข้อความสรุปว่า 1.กรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ควรออกใบอนุญาตและไม่ควรต่อใบอนุญาตให้ศูนย์การค้าและร้านอาหาร ที่ใช้สัตว์เป็นเครื่องมือในการดึงดูดลูกค้า เมื่อใบอนุญาตหมดอายุลงทุก 4 ปี 2.ควรออกระเบียบเรื่องสวัสดิภาพของสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์ และควรส่งเสริมให้สวนสัตว์เป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชนจริงๆไม่ใช่เอาสัตว์มากักขังล่อให้คนมาดูเพื่อประโยชน์จากการค้า และการท่องเที่ยวโดยอ้างเหตุผลเพื่อการอนุรักษ์หรือการศึกษา
3.ควรจัดตั้งบุคคลที่เหมาะสม อาทิ องค์กรอนุรักษ์ นักวิชาการด้านการศึกษา นักวิชาการด้านสัตว์วิทยา เป็นคณะกรรมการร่วมกับกรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบการดำเนินการของสวนสัตว์อย่างสม่ำเสมอ 4.ปัจจุบันไม่มีการทำเครื่องหมายที่ระบุหมายเลขทะเบียนประจำตัวสัตว์ บัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองที่สวนสัตว์ครอบครองอยู่ ตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 จึงควรออกระเบียบการจัดทำระบบทะเบียนสัตว์ป่าที่สวนสัตว์ครอบครองให้ชัดเจนโดยเร็ว
ทั้งนี้หากกรมอุทยานฯและสวนสัตว์พาต้าตอบโจทย์เรื่องอัคคีภัย ที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้ว่าจะเคลื่อนย้ายสัตว์อย่างไร เคยมีการซ้อมหนีไฟหรือไม่ ทำไมจึงเกิดอัคคีภัยถึง 2 ครั้ง และมีหลักประกันหรือไม่ว่าจะไม่เกิดอีก หากไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสวนสัตว์บนยอดตึกแห่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดทำการมา 30 ปี ก็คงต้องปิดตัวเองตามเสียงของประชาคมโลก อย่างไรก็ตามกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯและกรมอุทยาน ควรย้อนมองว่าการออกใบอนุญาตสวนสัตว์ป่าบนยอดตึกเมื่อ 30 ปีที่แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร และสมควรหรือไม่ที่จะต่ออายุให้มีสวนสัตว์ประเภทนี้ ด้วยเหตุผลหลักคือ ยอดตึกไม่ใช่ที่อยู่ของสัตว์ป่า
นางศิลจิรา เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายพงศ์เทพ ว่า นายพงศ์เทพ ได้รับเรื่องและให้กรมอุทยานแห่งชาติฯทบทวนว่าจะต่อใบอนุญาตสวนสัตว์บนยอดตึกหรือไม่ ทั้งยังจะให้รัฐเข้าไปดูแลคิงคองด้วย อย่างไรก็ตามนายพงศ์เทพ ได้กล่าวภายหลังอ่านข้อมูลที่ยื่นให้ว่า เห็นชัดว่าสมควรต่ออายุใบอนุญาตหรือไม่ เพราะด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย แล้วมีวิธีนำคิงคองลงมาอย่างไรซึ่งก็เป็นแค่ปัญหาหนึ่งเท่านั้น ยังมีปัญหาอีกมาก ทั้งนี้การเข้าพบนายพงศ์เทพและยื่นหนังสือครั้งนี้ ไม่ใช่มีปัญหาแค่ที่สวนสัตว์พาต้า แต่ยังมีอีกมาก เรื่องนี้จึงเป็นการนำไปสู่การสร้างมาตรฐานสวนสัตว์ในประเทศไทย
3.ควรจัดตั้งบุคคลที่เหมาะสม อาทิ องค์กรอนุรักษ์ นักวิชาการด้านการศึกษา นักวิชาการด้านสัตว์วิทยา เป็นคณะกรรมการร่วมกับกรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบการดำเนินการของสวนสัตว์อย่างสม่ำเสมอ 4.ปัจจุบันไม่มีการทำเครื่องหมายที่ระบุหมายเลขทะเบียนประจำตัวสัตว์ บัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองที่สวนสัตว์ครอบครองอยู่ ตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 จึงควรออกระเบียบการจัดทำระบบทะเบียนสัตว์ป่าที่สวนสัตว์ครอบครองให้ชัดเจนโดยเร็ว
ทั้งนี้หากกรมอุทยานฯและสวนสัตว์พาต้าตอบโจทย์เรื่องอัคคีภัย ที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้ว่าจะเคลื่อนย้ายสัตว์อย่างไร เคยมีการซ้อมหนีไฟหรือไม่ ทำไมจึงเกิดอัคคีภัยถึง 2 ครั้ง และมีหลักประกันหรือไม่ว่าจะไม่เกิดอีก หากไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสวนสัตว์บนยอดตึกแห่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดทำการมา 30 ปี ก็คงต้องปิดตัวเองตามเสียงของประชาคมโลก อย่างไรก็ตามกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯและกรมอุทยาน ควรย้อนมองว่าการออกใบอนุญาตสวนสัตว์ป่าบนยอดตึกเมื่อ 30 ปีที่แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร และสมควรหรือไม่ที่จะต่ออายุให้มีสวนสัตว์ประเภทนี้ ด้วยเหตุผลหลักคือ ยอดตึกไม่ใช่ที่อยู่ของสัตว์ป่า
นางศิลจิรา เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายพงศ์เทพ ว่า นายพงศ์เทพ ได้รับเรื่องและให้กรมอุทยานแห่งชาติฯทบทวนว่าจะต่อใบอนุญาตสวนสัตว์บนยอดตึกหรือไม่ ทั้งยังจะให้รัฐเข้าไปดูแลคิงคองด้วย อย่างไรก็ตามนายพงศ์เทพ ได้กล่าวภายหลังอ่านข้อมูลที่ยื่นให้ว่า เห็นชัดว่าสมควรต่ออายุใบอนุญาตหรือไม่ เพราะด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย แล้วมีวิธีนำคิงคองลงมาอย่างไรซึ่งก็เป็นแค่ปัญหาหนึ่งเท่านั้น ยังมีปัญหาอีกมาก ทั้งนี้การเข้าพบนายพงศ์เทพและยื่นหนังสือครั้งนี้ ไม่ใช่มีปัญหาแค่ที่สวนสัตว์พาต้า แต่ยังมีอีกมาก เรื่องนี้จึงเป็นการนำไปสู่การสร้างมาตรฐานสวนสัตว์ในประเทศไทย
