เอเจนซีส์ – ศาลจีนตัดสินในวันอาทิตย์ (22ก.ย.) จำคุกและตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต รวมทั้งยึดทรัพย์ โป๋ ซีไหล อดีตสมาชิกกรมการเมืองและเลขาธิการสาขามหานครฉงชิ่ง ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายหลังการไต่สวนพิจารณาคดีทุจริตคอร์รัปชั่นที่อดีต“ดาวรุ่งพุ่งแรง”ของพรรคผู้นี้ต่อสู้ในศาลอย่างเร้าอารมณ์ อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดหมายว่า เรือนจำที่เป็นที่คุมขังโป๋นั้นจะพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว
โป๋ เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในแวดวงผู้นำจีน โดยเป็น 1 ใน 25 สมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ เขาสร้างความโดดเด่นให้ตนเองโดยอาศัยมนตร์เสน่ห์บารมีส่วนตัวและนโยบายประชานิยมกึ่งลัทธิเหมา โดยเฉพาะในหมู่ฝ่ายซ้ายที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากนโยบายเศรษฐกิจส่งเสริมการเติบโตของปักกิ่ง
ทว่า เส้นทางอาชีพของโป๋สะดุดลงเมื่อปีที่แล้วจากคดีฆาตกรรมอื้อฉาวที่กู่ ไคไหล ภรรยาของเขา ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตจากการลอบวางยาพิษสังหารนีล เฮย์วูด นักธุรกิจอังกฤษและเพื่อนสนิทของครอบครัว
ศาลประชาชนขั้นกลางเมืองจี่หนาน มณฑลซานตง อ่านคำพิพากษาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22) ว่าเขามีความผิดทั้งในข้อหาทุจริต ยักยอกทรัพย์ของทางการ และใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อปกปิดความผิดของภรรยา และตัดสินโทษจำคุกโป๋ ตลอดชีวิต ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต และยึดทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมด ทั้งนี้น่าสังเกตว่าศาลมิได้มีการลดหย่อนผ่อนโทษให้แก่จำเลยผู้นี้
แม้โป๋มีสิทธิ์อุทธรณ์ภายใน 10 วันนับจากวันจันทร์ (23) แต่คำตัดสินนี้ถือเป็นการดับฝันทางการเมืองของโป๋โดยสิ้นเชิง
สื่อของทางการรายงานว่า โป๋อาจอุทธรณ์ ซึ่งศาลสูงสุดในมณฑลซานตงจะต้องเปิดการไต่สวนภายใน 2 เดือน แต่เนื่องจากศาลทั้งหมดควบคุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์ จึงไม่มีแนวโน้มว่า จะมีการกลับคำตัดสินลงโทษโป๋แต่อย่างใด
จาง หมิง ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ในกรุงปักกิ่ง มองว่า การตัดสินลงโทษขั้นเด็ดขาดรุนแรงเช่นนี้ เป็นผลมาจากท่าทีก้าวร้าวของโป่ในระหว่างการต่อสู้ข้อกล่าวหาในศาล และสอดคล้องกับการเรียกร้องของอัยการในช่วงท้ายการไต่สวน ที่ขอให้ศาลลงโทษขั้นรุนแรง เนื่องจากจำเลยกลับคำรับสารภาพในขั้นสอบสวนและไม่มีท่าทีสำนึกผิด
นอกจากนั้น หากตัดสินใจโทษโป๋สถานเบา จะบ่อนทำลายนโยบายปราบปรามการทุจริตของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
ทั้งนี้ ในคำพิพากษา ศาลปฏิเสธการแก้ต่างของโป๋เกือบทุกข้อ ยกเว้นส่วนเล็กๆ เกี่ยวกับข้อหาติดสินบนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปต่างประเทศของกู่ และ โป๋ กวากวา บุตรชายของทั้งคู่
ศาลยังปฏิเสธคำกล่าวอ้างของโป๋ที่ว่า ถูกกดดันทางจิตใจจนต้องรับสารภาพว่ารับสินบน ระหว่างการสอบสวนการทุจริตของคณะกรรมการวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์
ระหว่างการปรากฏตัวในศาล โป๋ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แม้ยอมรับว่า ตัดสินใจผิดพลาดและทำให้ประเทศชาติอับอายจากการที่หวัง ลี่จิว์น อดีตผู้บัญชาการตำรวจฉงชิงที่เคยเป็นคนสนิทของโป๋ ได้หนีไปหลบในสถานกงสุลอเมริกันในเมืองเฉิงตูอยู่ 1 วันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว หลังจากนำหลักฐานไปแสดงต่อโป๋ว่า กู่มีส่วนร่วมในการฆาตกรรมเฮย์วูด โดยในปีที่ผ่านมาตัวหวังเองก็ถูกตัดสินจำคุกข้อหาปกปิดความผิดให้กู่
อย่างไรก็ตาม ซาง เป่าจุน ทนายความคดีสิทธิมนุษยชนชื่อดังของจีน ชี้ว่า โป๋อาจได้รับการปล่อยตัวในที่สุด จากการประกันตัวหรือทำทัณฑ์บนโดยใช้ข้ออ้างด้านสุขภาพ สอดคล้องกับการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เคยถูกจองจำในเรือนจำชินเฉิง ซึ่งจะเป็นสถานที่คุมขังโป๋ ที่บอกว่า นักโทษมักได้รับทัณฑ์บนโดยเหตุผลด้านสุขภาพหลายปีก่อนพ้นโทษ และถูกกักบริเวณภายในบ้านพักแทน
นอกจากนี้ อดีตนักโทษหลายคนยังเปิดเผยว่า เรือนจำชินเฉิงเปรียบได้กับโรงแรม 5 ดาว โดยนักโทษซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองระดับสูง จะมีห้องพักส่วนตัวพรั่งพร้อมด้วยที่นอนนุ่ม โซฟา โต๊ะ และห้องน้ำในตัว
นักโทษสามารถเลือกเสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่มจากเมนูที่จัดไว้ซึ่งปรุงโดยเชฟที่บางคนเคยทำงานในโรงแรมชั้นนำในปักกิ่ง รวมทั้งได้รับการปฏิบัติจากผู้คุมอย่าง “อบอุ่นและใส่ใจ”
โป๋ เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในแวดวงผู้นำจีน โดยเป็น 1 ใน 25 สมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ เขาสร้างความโดดเด่นให้ตนเองโดยอาศัยมนตร์เสน่ห์บารมีส่วนตัวและนโยบายประชานิยมกึ่งลัทธิเหมา โดยเฉพาะในหมู่ฝ่ายซ้ายที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากนโยบายเศรษฐกิจส่งเสริมการเติบโตของปักกิ่ง
ทว่า เส้นทางอาชีพของโป๋สะดุดลงเมื่อปีที่แล้วจากคดีฆาตกรรมอื้อฉาวที่กู่ ไคไหล ภรรยาของเขา ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตจากการลอบวางยาพิษสังหารนีล เฮย์วูด นักธุรกิจอังกฤษและเพื่อนสนิทของครอบครัว
ศาลประชาชนขั้นกลางเมืองจี่หนาน มณฑลซานตง อ่านคำพิพากษาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22) ว่าเขามีความผิดทั้งในข้อหาทุจริต ยักยอกทรัพย์ของทางการ และใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อปกปิดความผิดของภรรยา และตัดสินโทษจำคุกโป๋ ตลอดชีวิต ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต และยึดทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมด ทั้งนี้น่าสังเกตว่าศาลมิได้มีการลดหย่อนผ่อนโทษให้แก่จำเลยผู้นี้
แม้โป๋มีสิทธิ์อุทธรณ์ภายใน 10 วันนับจากวันจันทร์ (23) แต่คำตัดสินนี้ถือเป็นการดับฝันทางการเมืองของโป๋โดยสิ้นเชิง
สื่อของทางการรายงานว่า โป๋อาจอุทธรณ์ ซึ่งศาลสูงสุดในมณฑลซานตงจะต้องเปิดการไต่สวนภายใน 2 เดือน แต่เนื่องจากศาลทั้งหมดควบคุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์ จึงไม่มีแนวโน้มว่า จะมีการกลับคำตัดสินลงโทษโป๋แต่อย่างใด
จาง หมิง ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ในกรุงปักกิ่ง มองว่า การตัดสินลงโทษขั้นเด็ดขาดรุนแรงเช่นนี้ เป็นผลมาจากท่าทีก้าวร้าวของโป่ในระหว่างการต่อสู้ข้อกล่าวหาในศาล และสอดคล้องกับการเรียกร้องของอัยการในช่วงท้ายการไต่สวน ที่ขอให้ศาลลงโทษขั้นรุนแรง เนื่องจากจำเลยกลับคำรับสารภาพในขั้นสอบสวนและไม่มีท่าทีสำนึกผิด
นอกจากนั้น หากตัดสินใจโทษโป๋สถานเบา จะบ่อนทำลายนโยบายปราบปรามการทุจริตของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
ทั้งนี้ ในคำพิพากษา ศาลปฏิเสธการแก้ต่างของโป๋เกือบทุกข้อ ยกเว้นส่วนเล็กๆ เกี่ยวกับข้อหาติดสินบนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปต่างประเทศของกู่ และ โป๋ กวากวา บุตรชายของทั้งคู่
ศาลยังปฏิเสธคำกล่าวอ้างของโป๋ที่ว่า ถูกกดดันทางจิตใจจนต้องรับสารภาพว่ารับสินบน ระหว่างการสอบสวนการทุจริตของคณะกรรมการวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์
ระหว่างการปรากฏตัวในศาล โป๋ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แม้ยอมรับว่า ตัดสินใจผิดพลาดและทำให้ประเทศชาติอับอายจากการที่หวัง ลี่จิว์น อดีตผู้บัญชาการตำรวจฉงชิงที่เคยเป็นคนสนิทของโป๋ ได้หนีไปหลบในสถานกงสุลอเมริกันในเมืองเฉิงตูอยู่ 1 วันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว หลังจากนำหลักฐานไปแสดงต่อโป๋ว่า กู่มีส่วนร่วมในการฆาตกรรมเฮย์วูด โดยในปีที่ผ่านมาตัวหวังเองก็ถูกตัดสินจำคุกข้อหาปกปิดความผิดให้กู่
อย่างไรก็ตาม ซาง เป่าจุน ทนายความคดีสิทธิมนุษยชนชื่อดังของจีน ชี้ว่า โป๋อาจได้รับการปล่อยตัวในที่สุด จากการประกันตัวหรือทำทัณฑ์บนโดยใช้ข้ออ้างด้านสุขภาพ สอดคล้องกับการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เคยถูกจองจำในเรือนจำชินเฉิง ซึ่งจะเป็นสถานที่คุมขังโป๋ ที่บอกว่า นักโทษมักได้รับทัณฑ์บนโดยเหตุผลด้านสุขภาพหลายปีก่อนพ้นโทษ และถูกกักบริเวณภายในบ้านพักแทน
นอกจากนี้ อดีตนักโทษหลายคนยังเปิดเผยว่า เรือนจำชินเฉิงเปรียบได้กับโรงแรม 5 ดาว โดยนักโทษซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองระดับสูง จะมีห้องพักส่วนตัวพรั่งพร้อมด้วยที่นอนนุ่ม โซฟา โต๊ะ และห้องน้ำในตัว
นักโทษสามารถเลือกเสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่มจากเมนูที่จัดไว้ซึ่งปรุงโดยเชฟที่บางคนเคยทำงานในโรงแรมชั้นนำในปักกิ่ง รวมทั้งได้รับการปฏิบัติจากผู้คุมอย่าง “อบอุ่นและใส่ใจ”