ASTVผู้จัดการรายวัน-พายุดีเปรสชั่นจ่อถล่มไทย 19-22 ก.ย.นี้ กทม.เตรียมรับมือ 37 จุดเสี่ยงน้ำท่วม เร่งลอกท่อ ลอกคลอง ตั้งเครื่องสูบน้ำ "ปลอดประสพ"มั่นใจไม่ท่วมเหมือนปี 54 เผยเขื่อนยังรองรับน้ำได้อีกมาก ผู้ว่าฯ อยุธยา สั่งเฝ้าระวังน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการว่าระหว่างวันที่ 19-22 ก.ย.2556 จะเกิดพายุดีเปรสชั่นที่ประเทศเวียดนาม อาจส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบเกิดฝนตกหนัก
นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำกับดูแลสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ พบว่า มีจุดอ่อนที่จะเกิดน้ำท่วม ต้องเฝ้าระวังใน 37 จุดทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งทาง กทม. ได้ดำเนินการลอกท่อ ลอกคลองต่างๆ เพื่อรองรับน้ำฝนแล้ว รวมทั้งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้เรียบแล้ว โดยเฉพาะจุดเสี่ยงน้ำท่วม โดยขอแนะนำให้ประชาชนเลี่ยงเวลาการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรติดหนัก หรือหากมีข้อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือ โทร. 1555 สายด่วนกทม.ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักการระบายน้ำ กทม. 0-2248-5115
สำหรับเขตที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม ดังนี้ เขตดุสิต 4 แห่ง 1.ลานพระบรมรูปทรงม้า ฝั่งสวนอัมพร 2.ถนนราชวิถี ช่วงหน้าราชภัฎสวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธนบุรี 3.ถนนสามเสน ช่วงหน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ และ4.ถนนนครไชยศรี ช่วงหน้ากรมสรรพสมิต
เขตราชเทวี มี 3 จุด 1.ถนนนิคมมักกะสัน ช่วงทางรถไฟถึงถนนราชปรารภ 2.ถนนพญาไทช่วงหน้ากรมปศุสัตว์ และ3.ถนนศรีอยุธยาช่วงสน.พญาไท รวมถึงวังสวนผักกาด เขตพญาไท 1 จุดที่ถนนประดิพัทธ์ จากแยกสะพานควายถึงคลองเปรมประชากร เขตจตุจักรมี 2 จุด 1.ถนนรัชดาภิเษก หน้าธนาคารกรุงเทพ และ2.ถนนงามวงศ์วานแยกเกษตร ช่วงหน้าตลาดอมรพันธ์ เขตบางซื่อมี 2 จุด 1.ถนนประชาราษฎร์สาย 2 และ2.ช่วงแยกเตาปูน
เขตหลักสี่มี 2 จุด 1.ถนนแจ้งวัฒนะจากคลองประปาถึงซอยแจ้งวัฒนะ 14 และ2.ถนนงามวงศ์วาน ช่วงหน้าตลาดพงษ์เพชร เขตสายไหมมี 1 จุด ที่ถนนพหลโยธิน จากปากซอยพหลฯ58 ถึงสุดเขตกรุงเทพฯ เขตดินแดง มี 4 จุด 1.ถนนดินแดง ช่วงปากซอยสุทธิพร2 2.ถนนประชาสงเคราะห์ช่วงหน้าตลาดห้วยขวาง 2.ถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าห้างโรบินสัน และ4.ถนนประชาสุข ช่วงหน้าไปรษณีย์ เขตสวนหลวงมี 1 จุด ที่ถนนพัฒนาการ ช่วงจากคลองลาวถึงถนนศรีนครินทร์
เขตประเวศมี 1 จุด ที่ถนนศรีนครินทร์ บริเวณโรงแรมโนโวเทล เขตพระโขนงมี 1 จุดที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออกช่วงหน้าตลาดบางจาก เขตวังทองหลาง มี 1 จุดที่ถนนลาดพร้าว ช่วงตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตบึงกุ่ม มี 1 จุดที่ถนนนวมินทร์ ซอยนวมินทร์ 36 ถึงซอยโพธิ์แก้ว เขตบางกะปิ 1 จุดจากถนนศรีนครินทร์ ช่วงคลองกะจะถึงแยกลำสาลี เขตพระนคร 1 จุดที่ถนนสนามไชย จากซอยเศรษฐการถึงถนนท้ายวัง เขตสัมพันธวงศ์ มี 2 จุด 1.ถนนเจริญกรุง (แยกหมอมี)จากถนนแปลงนามถึงแยกหมอมี และ2.ถนนเยาวราชฝั่งเหนือ จากถนนทรงวาดถึงถนนราชวงศ์
เขตบางรัก 1 จุดที่ถนนสุรวงศ์จากใต้ทางด่วนถึงแยกสุรวงศ์ เขตสาทรมี 2 จุด 1.ถนนจันทร์จากซอยบำเพ็ญกุศลถึงไปรษณีย์ยานนาวา และ2.ถนนสวนพลูจากถนนสาทรใต้ถึงถนนนางลิ้นจี่ เขตคลองเตยมี 1 จุด ที่ถนนพระราม 3 ช่วงห้าแยก ณ ระนอง ถึงถนนเชื้อเพลิง เขตวัฒนา มี 1 จุด ที่ถนนสุขุมวิท 26 เขตบางบอนมี 1 จุดที่ถนนบางบอน 1 จากถนนเอกชัยถึงคลองบางโคลัด เขตบางขุนเทียนมี 1 จุด ที่ถนนบางขุนเทียน จากถนนพระราม2 ถึงถนนบางขุนเทียนชายทะเล เขตทุ่งครุมี 1 จุดที่ถนนประชาอุทิศ จากคลองรางจากถึงหน้าเขตฯทุ่งครุ เขตบางแค มี 1 จุด ที่ถนนเพชรเกษม แยกพุทธมณฑลสาย 2 ถึงปากซอยเพชรเกษม 63 และเขตตลิ่งชันมี 1 จุดที่ถนนฉิมพลี จากถนนบรมราชชนนีถึงทางรถไฟสายใต้
***สั่งสาธารณสุขรับมือน้ำท่วม
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรับมือ โดยสั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ โดยเฉพาะจุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เช่น สถานที่ตั้งในที่ลุ่มน้ำ และสถานบริการที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้จัดระบบการป้องกันไม่ให้น้ำท่วม และให้ขนย้ายเครื่องมือเวชภัณฑ์ที่บริการประชาชนไปไว้ในจุดที่ปลอดภัย และให้จัดระบบสำรองไฟให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาหากเกิดภาวะฉุกเฉินหากประชาชนเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรแจ้ง 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
**“ปลอด”มั่นใจไม่ซ้ำรอยปี 54
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในรอบปีนี้ โดยเฉพาะพายุดีเปรสชัน จะเคลื่อนตัวมาจากทะเลจีนใต้ ซึ่งพัดผ่านมาจากทางทิศตะวันตก เข้าใกล้ประเทศไทยมากขึ้น และพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงจะได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพัดผ่าน คือ จ.อุบลราชธานี ก่อนเคลื่อนไปทางภาคเหนือ และลงสู่ภาคกลางของประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดปริมาณฝนตกมาก และกรุงเทพฯ อาจจะได้รับผลกระทบ แต่มั่นใจจะไม่เกิดน้ำท่วมเหมือนปี 2554
ทั้งนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งแผนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบแล้ว และจะสามารถอนุมัติงบประมาณ 180 ล้านบาท ได้ในการประชุม ครม. สัปดาห์หน้า
**กรมน้ำสั่งรับมือดีเปรสชั่น
นายศิริชัย คุณานพรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า จากการติดตามการเคลื่อนตัวของดีเปรสชั่นลูกนี้ น่าจะส่งผลดีต่อปริมาณน้ำที่จะไหลเข้ามาเติมในเขื่อนลำตะคอง และเขื่อนลำพระเพลิงในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากจะส่งให้ฝนตกเหนือเขื่อนทั้ง 2 แห่ง ที่ขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่น้อยมากเพียงแค่ 27-30% เท่านั้น จึงยังมีพื้นที่รองรับน้ำฝนที่ตกหนักได้ ส่วนพื้นที่จุดเสี่ยงจากน้ำท่วมในจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ที่ประเมินว่าจะได้รับผลกระทบ ทางกรมทรัพยากรน้ำได้ประสานสำนักงานทรัพยากรภาค ให้เตรียมความพร้อม ทั้งรถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ พร้อมกับเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ คือ 16-30 นิ้ว ไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินจากน้ำท่วมฉับพลันไว้แล้ว
"ถ้ามองในแง่บวก ดีเปรสชั่นลูกนี้จะช่วยให้มีปริมาณน้ำมาเติมใน 2อ่าง คือ ลำพระเพลิง และลำตะคองมากกว่าจะส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมอย่างที่หลายฝ่ายกังวลกัน"นายศิริชัย กล่าว
** ยันเขื่อนยังรองรับน้ำได้
นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ประธานคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ กล่าวว่า น้ำในเขื่อนยังมีน้อย โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำน้อยกว่า 40% เขื่อนสิริกิติ์น้อยกว่า 60% เขื่อนลำพระเพลิงและเขื่อนลำตะคองน้อยกว่า 26-27% จะมีก็แต่เขื่อนสิริธร ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าจากฝนตกต่อเนื่องเป็นจำนวนมากจนปัจจุบันมีปริมาณน้ำประมาณ 80% แต่ไม่น่ากังวลมากนัก เพราะสามารถผันลงแม่น้ำโขงได้
** อยุธยาเฝ้าระวังน้ำท่วม
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนริมน้ำหลายอำเภอแล้ว ล่าสุดน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และจะเพิ่มขึ้นอีกวันละไม่ต่ำกว่า 20 เซนติเมตร แต่ช่วงนี้ยังเป็นการท่วมใต้ถุนบ้านที่ปลูกแบบใต้ถุนสูง ชาวบ้านยังใช้เรือพายเข้าออกชุมชนได้
อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งไปยังผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย ได้แก่ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และอ.บางไทร ว่าสามารถนำเงินสำรองราชการมาช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้ หากท่วมสูงกว่านี้ อาจต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อให้แต่ละอำเภอนำเงินอำเภอละ 1 ล้านบาท ไปช่วยเหลือชาวบ้านเพิ่มเติมได้
ทั้งนี้ ฝนตกใต้เขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนภูมิพล ทำให้มีน้ำสะสมไหลลงมาในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา จนน้ำล้นตลิ่ง ขณะนี้ อ.เสนา มีน้ำท่วมแล้ว 1,800 หลัง แต่เชื่อว่าน้ำจะอยู่ไม่นาน ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่เพื่อความไม่ประมาท ขอให้ยกข้าวของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ต.บางหลวง อ.บางบาล พบน้ำเอ่อเข้าท่วมโรงเรียนประชากรรังสฤษฏ์ หมู่ 2 ต.บางหลวง ที่ตั้งอยู่ริมคลองโผงเผง เชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา กับแม่น้ำน้อย โดยน้ำท่วมสนามหน้าโรงเรียนสูง50 เซนติเมตร อาคารเรียนหลังเก่า 2 หลัง ซึ่งเป็นห้องทำครัว ห้องอาหาร และห้องเรียนอีก 4 ห้อง น้ำเข้าท่วมพื้นห้องแล้ว แต่นักเรียนสามารถเรียนในอาคารหลังใหม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการว่าระหว่างวันที่ 19-22 ก.ย.2556 จะเกิดพายุดีเปรสชั่นที่ประเทศเวียดนาม อาจส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบเกิดฝนตกหนัก
นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำกับดูแลสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ พบว่า มีจุดอ่อนที่จะเกิดน้ำท่วม ต้องเฝ้าระวังใน 37 จุดทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งทาง กทม. ได้ดำเนินการลอกท่อ ลอกคลองต่างๆ เพื่อรองรับน้ำฝนแล้ว รวมทั้งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้เรียบแล้ว โดยเฉพาะจุดเสี่ยงน้ำท่วม โดยขอแนะนำให้ประชาชนเลี่ยงเวลาการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรติดหนัก หรือหากมีข้อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือ โทร. 1555 สายด่วนกทม.ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักการระบายน้ำ กทม. 0-2248-5115
สำหรับเขตที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม ดังนี้ เขตดุสิต 4 แห่ง 1.ลานพระบรมรูปทรงม้า ฝั่งสวนอัมพร 2.ถนนราชวิถี ช่วงหน้าราชภัฎสวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธนบุรี 3.ถนนสามเสน ช่วงหน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ และ4.ถนนนครไชยศรี ช่วงหน้ากรมสรรพสมิต
เขตราชเทวี มี 3 จุด 1.ถนนนิคมมักกะสัน ช่วงทางรถไฟถึงถนนราชปรารภ 2.ถนนพญาไทช่วงหน้ากรมปศุสัตว์ และ3.ถนนศรีอยุธยาช่วงสน.พญาไท รวมถึงวังสวนผักกาด เขตพญาไท 1 จุดที่ถนนประดิพัทธ์ จากแยกสะพานควายถึงคลองเปรมประชากร เขตจตุจักรมี 2 จุด 1.ถนนรัชดาภิเษก หน้าธนาคารกรุงเทพ และ2.ถนนงามวงศ์วานแยกเกษตร ช่วงหน้าตลาดอมรพันธ์ เขตบางซื่อมี 2 จุด 1.ถนนประชาราษฎร์สาย 2 และ2.ช่วงแยกเตาปูน
เขตหลักสี่มี 2 จุด 1.ถนนแจ้งวัฒนะจากคลองประปาถึงซอยแจ้งวัฒนะ 14 และ2.ถนนงามวงศ์วาน ช่วงหน้าตลาดพงษ์เพชร เขตสายไหมมี 1 จุด ที่ถนนพหลโยธิน จากปากซอยพหลฯ58 ถึงสุดเขตกรุงเทพฯ เขตดินแดง มี 4 จุด 1.ถนนดินแดง ช่วงปากซอยสุทธิพร2 2.ถนนประชาสงเคราะห์ช่วงหน้าตลาดห้วยขวาง 2.ถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าห้างโรบินสัน และ4.ถนนประชาสุข ช่วงหน้าไปรษณีย์ เขตสวนหลวงมี 1 จุด ที่ถนนพัฒนาการ ช่วงจากคลองลาวถึงถนนศรีนครินทร์
เขตประเวศมี 1 จุด ที่ถนนศรีนครินทร์ บริเวณโรงแรมโนโวเทล เขตพระโขนงมี 1 จุดที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออกช่วงหน้าตลาดบางจาก เขตวังทองหลาง มี 1 จุดที่ถนนลาดพร้าว ช่วงตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตบึงกุ่ม มี 1 จุดที่ถนนนวมินทร์ ซอยนวมินทร์ 36 ถึงซอยโพธิ์แก้ว เขตบางกะปิ 1 จุดจากถนนศรีนครินทร์ ช่วงคลองกะจะถึงแยกลำสาลี เขตพระนคร 1 จุดที่ถนนสนามไชย จากซอยเศรษฐการถึงถนนท้ายวัง เขตสัมพันธวงศ์ มี 2 จุด 1.ถนนเจริญกรุง (แยกหมอมี)จากถนนแปลงนามถึงแยกหมอมี และ2.ถนนเยาวราชฝั่งเหนือ จากถนนทรงวาดถึงถนนราชวงศ์
เขตบางรัก 1 จุดที่ถนนสุรวงศ์จากใต้ทางด่วนถึงแยกสุรวงศ์ เขตสาทรมี 2 จุด 1.ถนนจันทร์จากซอยบำเพ็ญกุศลถึงไปรษณีย์ยานนาวา และ2.ถนนสวนพลูจากถนนสาทรใต้ถึงถนนนางลิ้นจี่ เขตคลองเตยมี 1 จุด ที่ถนนพระราม 3 ช่วงห้าแยก ณ ระนอง ถึงถนนเชื้อเพลิง เขตวัฒนา มี 1 จุด ที่ถนนสุขุมวิท 26 เขตบางบอนมี 1 จุดที่ถนนบางบอน 1 จากถนนเอกชัยถึงคลองบางโคลัด เขตบางขุนเทียนมี 1 จุด ที่ถนนบางขุนเทียน จากถนนพระราม2 ถึงถนนบางขุนเทียนชายทะเล เขตทุ่งครุมี 1 จุดที่ถนนประชาอุทิศ จากคลองรางจากถึงหน้าเขตฯทุ่งครุ เขตบางแค มี 1 จุด ที่ถนนเพชรเกษม แยกพุทธมณฑลสาย 2 ถึงปากซอยเพชรเกษม 63 และเขตตลิ่งชันมี 1 จุดที่ถนนฉิมพลี จากถนนบรมราชชนนีถึงทางรถไฟสายใต้
***สั่งสาธารณสุขรับมือน้ำท่วม
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรับมือ โดยสั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ โดยเฉพาะจุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เช่น สถานที่ตั้งในที่ลุ่มน้ำ และสถานบริการที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้จัดระบบการป้องกันไม่ให้น้ำท่วม และให้ขนย้ายเครื่องมือเวชภัณฑ์ที่บริการประชาชนไปไว้ในจุดที่ปลอดภัย และให้จัดระบบสำรองไฟให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาหากเกิดภาวะฉุกเฉินหากประชาชนเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทรแจ้ง 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
**“ปลอด”มั่นใจไม่ซ้ำรอยปี 54
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในรอบปีนี้ โดยเฉพาะพายุดีเปรสชัน จะเคลื่อนตัวมาจากทะเลจีนใต้ ซึ่งพัดผ่านมาจากทางทิศตะวันตก เข้าใกล้ประเทศไทยมากขึ้น และพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงจะได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพัดผ่าน คือ จ.อุบลราชธานี ก่อนเคลื่อนไปทางภาคเหนือ และลงสู่ภาคกลางของประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดปริมาณฝนตกมาก และกรุงเทพฯ อาจจะได้รับผลกระทบ แต่มั่นใจจะไม่เกิดน้ำท่วมเหมือนปี 2554
ทั้งนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งแผนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบแล้ว และจะสามารถอนุมัติงบประมาณ 180 ล้านบาท ได้ในการประชุม ครม. สัปดาห์หน้า
**กรมน้ำสั่งรับมือดีเปรสชั่น
นายศิริชัย คุณานพรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า จากการติดตามการเคลื่อนตัวของดีเปรสชั่นลูกนี้ น่าจะส่งผลดีต่อปริมาณน้ำที่จะไหลเข้ามาเติมในเขื่อนลำตะคอง และเขื่อนลำพระเพลิงในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากจะส่งให้ฝนตกเหนือเขื่อนทั้ง 2 แห่ง ที่ขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่น้อยมากเพียงแค่ 27-30% เท่านั้น จึงยังมีพื้นที่รองรับน้ำฝนที่ตกหนักได้ ส่วนพื้นที่จุดเสี่ยงจากน้ำท่วมในจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ที่ประเมินว่าจะได้รับผลกระทบ ทางกรมทรัพยากรน้ำได้ประสานสำนักงานทรัพยากรภาค ให้เตรียมความพร้อม ทั้งรถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ พร้อมกับเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ คือ 16-30 นิ้ว ไว้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินจากน้ำท่วมฉับพลันไว้แล้ว
"ถ้ามองในแง่บวก ดีเปรสชั่นลูกนี้จะช่วยให้มีปริมาณน้ำมาเติมใน 2อ่าง คือ ลำพระเพลิง และลำตะคองมากกว่าจะส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมอย่างที่หลายฝ่ายกังวลกัน"นายศิริชัย กล่าว
** ยันเขื่อนยังรองรับน้ำได้
นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ประธานคณะอนุกรรมการติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ กล่าวว่า น้ำในเขื่อนยังมีน้อย โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำน้อยกว่า 40% เขื่อนสิริกิติ์น้อยกว่า 60% เขื่อนลำพระเพลิงและเขื่อนลำตะคองน้อยกว่า 26-27% จะมีก็แต่เขื่อนสิริธร ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าจากฝนตกต่อเนื่องเป็นจำนวนมากจนปัจจุบันมีปริมาณน้ำประมาณ 80% แต่ไม่น่ากังวลมากนัก เพราะสามารถผันลงแม่น้ำโขงได้
** อยุธยาเฝ้าระวังน้ำท่วม
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนริมน้ำหลายอำเภอแล้ว ล่าสุดน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และจะเพิ่มขึ้นอีกวันละไม่ต่ำกว่า 20 เซนติเมตร แต่ช่วงนี้ยังเป็นการท่วมใต้ถุนบ้านที่ปลูกแบบใต้ถุนสูง ชาวบ้านยังใช้เรือพายเข้าออกชุมชนได้
อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งไปยังผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย ได้แก่ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และอ.บางไทร ว่าสามารถนำเงินสำรองราชการมาช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้ หากท่วมสูงกว่านี้ อาจต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อให้แต่ละอำเภอนำเงินอำเภอละ 1 ล้านบาท ไปช่วยเหลือชาวบ้านเพิ่มเติมได้
ทั้งนี้ ฝนตกใต้เขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนภูมิพล ทำให้มีน้ำสะสมไหลลงมาในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา จนน้ำล้นตลิ่ง ขณะนี้ อ.เสนา มีน้ำท่วมแล้ว 1,800 หลัง แต่เชื่อว่าน้ำจะอยู่ไม่นาน ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่เพื่อความไม่ประมาท ขอให้ยกข้าวของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ต.บางหลวง อ.บางบาล พบน้ำเอ่อเข้าท่วมโรงเรียนประชากรรังสฤษฏ์ หมู่ 2 ต.บางหลวง ที่ตั้งอยู่ริมคลองโผงเผง เชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา กับแม่น้ำน้อย โดยน้ำท่วมสนามหน้าโรงเรียนสูง50 เซนติเมตร อาคารเรียนหลังเก่า 2 หลัง ซึ่งเป็นห้องทำครัว ห้องอาหาร และห้องเรียนอีก 4 ห้อง น้ำเข้าท่วมพื้นห้องแล้ว แต่นักเรียนสามารถเรียนในอาคารหลังใหม่ได้